xs
xsm
sm
md
lg

วิโรจน์ด่า ศปปส. กักขฬะ ป่าเถื่อน นักสิทธิมนุษยชนป้องตะวันผู้เห็นต่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.ก้าวไกล ด่ากลุ่ม ศปปส. กักขฬะ ป่าเถื่อน จี้ตำรวจจัดการ อ้างกระทบความสัมพันธ์สถาบันฯ กับประชาชน ด้านกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จี้กลุ่มปกป้องสถาบันฯ หยุดใช้ความรุนแรง อ้างตะวันแค่ผู้เห็นต่างทางความคิด จี้ตำรวจจัดการทุกคน

วันนี้ (12 ก.พ.) จากกรณีที่ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดี 112 พร้อมพวกนัดหมายจัดกิจกรรมทำโพล "คุณคิดว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่" ที่ลานน้ำพุ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ขณะชี้แจงสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีบีบแตรใส่ขบวนเสด็จบริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ปรากฏว่ากลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว เข้ามาปะทะ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย รวมทั้งตำรวจที่ไประงับเหตุ ภายหลัง น.ส.ตะวันเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกลุ่ม ศปปส.

เฟซบุ๊ก "Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความกรณีดังกล่าว ระบุว่า "ต่อกรณีการที่มีกลุ่มบุคคลอ้างความจงรักภักดี แล้วไปทำร้ายผู้อื่นที่สถานีรถไฟฟ้า BTS การใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้อื่น โดยอ้างว่าทำเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำเพราะจงรักภักดี เป็นพฤติกรรมที่อันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมาก หากรัฐปล่อยให้กลุ่มคนกักขฬะป่าเถื่อนเหล่านี้ลอยนวล มีอำนาจบาตรใหญ่ สามารถอ้างสถาบันพระมหากษัตตริย์ ไปทำร้ายคนที่คิดต่างอย่างไรก็ได้ โดยที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ หรือสมยอมเอาผิดเพียงลหุโทษ

พฤติกรรมที่ลุแก่อำนาจของกลุ่มคนเหล่านี้ ระยะสั้นอาจดูเหมือนความคลั่งไคล้ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ในระยะยาว มีแต่จะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นพวกนิยมความป่าเถื่อน และจะส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด ผมจึงมีความเห็นว่า รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องบังคับใช้กฎหมายจัดการกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างจริงจัง ไม่ให้เหิมเกริมกล้านำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้คนตามใจชอบ ได้อีกต่อไป

ด้านเฟซบุ๊ก "สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน - HRLA" ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและองค์กรร่วม ถึงกลุ่มปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์: หยุดใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่างทางความคิด" ระบุว่า "เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ขณะที่นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กลุ่มทะลุวังได้จัดกิจกรรมทำโพลตั้งคำถามถึงขบวนเสด็จ ในคำถามว่า “คุณคิดว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่?” และขณะกำลังชี้แจงสื่อมวลชนบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS สยาม เกี่ยวกับกรณีบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ โดยกล่าวขอโทษที่ขับรถเร็วและไม่ระมัดระวังจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนคนอื่นที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ขอน้อมรับผิดเอาไว้

โดยขณะที่ยืนแถลงนั้น ชายสวมเสื้อสีน้ำเงินของกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้เดินเข้ามาและเกิดปะทะกันกับกลุ่มของนางสาวทานตะวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามากันทั้งสองฝ่ายออกจากกัน แต่ไม่เป็นผล เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องถึงพื้นที่เอกชน (ห้างสรรพสินค้า)

การกระทำของนางสาวทานตะวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ขบวนเสด็จนั้น กลุ่ม ศปปส. และกลุ่มปกป้องสถาบันควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายในการพิจารณาว่าเป็นความผิดหรือไม่ ส่วนการทำโพลในวันเกิดเหตุ เป็นเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองที่อยู่ในขอบเขตที่สามารถทำได้ การที่กลุ่ม ศปปส.ใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายผู้เห็นต่างทางความคิด โดยบางคนสวมเสื้อ save 112 บางคนสวมเสื้อเหลืองอันเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความจงรักภักดี แต่กลับใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายผู้อื่น การใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่างทางความคิดไม่อาจถูกยอมรับให้เป็นวิธีการที่ชอบธรรมในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อสายตาชาวโลกได้

อีกทั้งยังเป็นการทำให้สังคมตกอยู่ในความหวาดกลัวว่าอาจเกิดเหตุการณ์เข่นฆ่าผู้เห็นต่างซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่สังคมไทยเคยเผชิญ กลุ่ม ศปปส.ควรหยุดพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรถูกใช้เป็นเหตุผลหรือข้ออ้างในการทำร้ายบุคคลใด และผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่ม ศปปส.ควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาแทนการใช้ความรุนแรง

กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น กลุ่ม ศปปส., กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ฯลฯ เป็นกลุ่มที่มักใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่างทางความคิด เช่น นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. ถูกศาลพิพากษาว่าทำร้ายร่างกายนายสายน้ำ กลุ่มทะลุวัง นอกจากนี้นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ยังไลฟ์ถ่ายทอดสดขู่เอาชีวิตนักกิจกรรม เช่น หยก ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้เมื่อเดือนตุลาคม 2566 กลุ่ม ศปปส.ได้ข่มขู่คุกคามโดยแสดงท่าทีว่าจะเข้าทำร้ายร่างกายกลุ่มนักกิจกรรมที่ปักหลักเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังที่หน้าศาลอาญา และอีกหลายกรณีที่กลุ่มปกป้องสถาบันกลุ่มต่างๆ มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามและใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เห็นต่างทางความคิด หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ มีการโพสต์ข้อความข่มขู่เอาชีวิตตะวันเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

ดังนั้น เพื่อไม่ให้กลุ่มปกป้องสถาบันใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางความคิดอย่างต่อเนื่องต่อไป เจ้าพนักงานตำรวจควรดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มคนดังกล่าวทุกคน และติดตามสืบสวนผู้โพสต์ขู่เอาชีวิตตะวัน เพื่อยับยั้งการใช้ความรุนแรงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของนักกิจกรรม และควรเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงอย่างใกล้ชิดเหมือนที่เฝ้าติดตามนักกิจกรรมทางการเมืองด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของตนได้อย่างปลอดภัยตามที่รัฐธรรมนูญฯ ให้การรับรองไว้ และหากฝ่ายใดทำผิดกฎหมายก็ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมภายใต้มาตรฐานเดียวกัน"

สำหรับเครือข่ายที่ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ดังกล่าว ประกอบด้วย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน สหภาพคนทำงาน Workers' Union และนอกกล่องเพศ NON-BINARY โดยอ้างอิงลิงก์เฉพาะเว็บไซต์ ประชาไท ข่าวสด มติชน สำนักข่าวทูเดย์ และวอยซ์ทีวี










กำลังโหลดความคิดเห็น