เผยเหตุชุลมุนที่บีทีเอสสยาม กลุ่ม ศปปส.โดนทั้งต่อยปากแตกเย็บ 4 เข็ม โดนดิ้วเหล็กแทงจมูก "เจ๊จุก คลองสาม" เผยมือดิ้วเหล็กคือ "แบงค์ ณัฐพล" ผู้ต้องหาเผารถตำรวจ โดนคดี 112 หมาดๆ ขณะที่ "อาจารย์ไชยันต์" เตือน โกรธได้แต่อย่าใช้ความรุนแรง ชี้ใช้วิธียั่วยุเหมือน 6 ตุลา 19
วันนี้ (11 ก.พ.) จากกรณีที่เกิดเหตุวุ่นวายบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม บริเวณทางออกไปยังศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดี 112 พร้อมพวก จัดกิจกรรมทำโพล "คุณคิดว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่" ขณะชี้แจงสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อนที่จะไปทำกิจกรรมที่ลานน้ำพุ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ปรากฏว่ากลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว เข้ามาปะทะ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย รวมทั้งตำรวจที่ไประงับเหตุ ภายหลัง น.ส.ตะวันเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกลุ่ม ศปปส. แต่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก ทำให้เกิดการชุลมุนอย่างมาก เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ทวิตเตอร์ "เจ๊จุกคลองสาม" ได้โพสต์ภาพกลุ่มของ น.ส.ตะวัน ที่ใช้อาวุธดิ้วเหล็กทำร้ายร่างกายกลุ่ม ศปปส. พร้อมข้อความระบุว่า "ไอ้ตัวที่ใช้ดิ้วเหล็กตี ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แบงค์ ณัฐพล เหล็กแย้ม เพิ่งออกคุกคดีเผารถยนต์ตำรวจใต้ทางด่วนดินแดงมาได้ไม่นานนี่เอง และเพิ่งโดนหมายคดี 112 ไปหมาดๆ อีกคดี แต่ศาลให้ประกันตัวเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองค่ะ #สยาม #ทะลุวัง #saveขบวนเสด็จ"
ด้านเฟซบุ๊ก "วสัน ทองมณโฑ" ของนายวสัน ทองมณโฑ แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงิน และแนวร่วมกลุ่ม ศปปส. ที่ได้รับบาดเจ็บถูกดิ้วเหล็กของฝ่าย น.ส.ตะวัน แทงเข้าที่สันจมูก โพสต์ข้อความระบุว่า "เพื่อปกป้องสิ่งที่เรารักและบูชา โดนแค่นี้ไม่เป็นอะไร" ต่อมาได้โพสต์ภาพคู่กับนายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่ม ศปปส. พร้อมข้อความว่า "พี่ชายกูยิ้มได้ก็สบายใจ" ทั้งนี้ นายนพดล พรหมภาสิต อดีตแกนนำกลุ่ม ศชอ. กล่าวฝากถึงนายวสันว่า ค่ารักษาพยาบาลให้ไปเอากับตน และ น.ส.วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ หรือแอดมินเจน และชี้ว่ากลุ่มทะลุวังมีการใช้อาวุธ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เหตุชุลมุนที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ทำให้นายอานนท์ได้รับบาดเจ็บปากแตก เย็บไป 4 เข็ม นายวสันต์โดนดิ้วฟาด มีรอยแผลแตกบริเวณด้านจมูก เจ็บแขนบริเวณที่โดนฟาด บริเวณศีรษะและหน้าผากบวม มีอาการมึนงงและปวดศีรษะ มีอาเจียนบ้าง และสมาชิกอีกหนึ่งคนมีบาดแผลบริเวณใบหน้า ส่วนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน ปรากฏว่าตำรวจได้ให้ไปแจ้งความที่ สน.บางรัก ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ เนื่องจากกลุ่มทะลุวังเข้าไปแจ้งความอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ไปลงบันทึกประจำวันให้ และให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่กลุ่ม ศปปส.ไปเฝ้าสังเกตการณ์กลุ่มของ น.ส.ตะวัน เนื่องจากทนเห็นพฤติกรรมไม่ได้ที่ น.ส.ตะวันกระทำย่ำยีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า และเห็นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่มีท่าทีใดๆ กับกรณีล่าสุดที่รถยนต์ซึ่ง น.ส.ตะวันนั่งอยู่ ตามไปคุกคามขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่ก็มีฝ่ายที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของกลุ่ม ศปปส. โดยมองว่าการใช้ความรุนแรงจะเป็นการเข้าทางฝ่าย น.ส.ตะวันมากกว่า
ขณะที่เฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ของ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความหลายข้อความเพื่อเตือนสติเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหวกับกลุ่มที่มีพฤติกรรมต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น ระวังการยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงต่อพฤติกรรมบางอย่าง, ไม่พอใจได้ โกรธได้ แต่ต้องหนักแน่น ไม่ใช้กำลังความรุนแรง สนับสนุนกระบวนการยุติธรรม, ม็อบปี 63 ถึงวันนี้ยังใช้ยุทธวิธีเดิม คือ ยั่วยุเพื่อให้เกิด 6 ตุลาอีกครั้ง เมื่อไม่ได้ผล ก็ยั่วแรงขึ้น พร้อมคอมเมนต์ว่า อย่าติดกับดักที่มันสมองเขาเคยใช้เมื่อ 6 ตุลา 2519 และ สังหารโหด 6 ตุลา ไม่มีใครจำและหาตัวประชาชนที่ลงมือ เอาแต่กล่าวหาพระองค์ท่าน เป็นต้น