"ปณิธาน" ชี้เป็นบทเรียนนายกฯ ด่วนโพสต์ประณามการถล่มอิสราเอล ส่วนเรื่องบินอ้อมเข้าใจคนทำงานอาจล่าช้า มั่นใจ "ลุงตู่" มีช่องทางพิเศษฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ หลังมกุฎราชกุมารฯ โพสต์ภาพขณะพบปะกัน ทั้งที่เนื้อหาเป็นคำพูดของเศรษฐา
วันที่ 19 ต.ค. 2566 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านการต่างประเทศและความมั่นคง ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "เบื้องลึกการต่างประเทศในสถานการณ์พิเศษ"
รศ.ดร.ปณิธานกล่าวถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความประณามการโจมตีอิสราเอล แม้ต่อมาจะลบทิ้ง และกระทรวงการต่างประเทศออกมาชี้แจงก็ตาม ว่า ถือเป็นบทเรียนการใช้สื่อสารสมัยใหม่ที่สั้นเกินไปอาจไม่ครอบคลุม ทั้งที่ความตั้งใจดีอาจถูกบิดเบือน ตีความ การไปชี้แจงโดยกระทรวงการต่างประเทศถูกต้องแล้ว ต้องทำ แต่ก็ทำให้เราลำบากขึ้นในการชี้แจง
บางคนก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี เพราะการตอบสนองแบบนี้สะท้อนลึกๆ ว่าคิดยังไง เป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดในทางการทูต การทูตถึงต้องช้า คิดให้รอบคอบแล้วค่อยออก และส่วนใหญ่จะเป็นการเขียนอย่างเป็นทางการ
ส่วนกรณี เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย โพสต์ภาพขณะพบปะกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เนื้อหาที่น่าจะเป็นคำพูดของ นายเศรษฐา โดยกล่าวว่านายกฯ ไทยจะเข้าพบเพื่อขอความช่วยเหลือให้คนไทยออกมาจากอิสราเอลได้อย่างปลอดภัย
รศ.ดร.ปณิธานกล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอย่างไร เอาเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์คงมีช่องทางพิเศษแน่นอน เพราะกว่าจะฝ่าด่านฟื้นฟูความสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่ภาครัฐ แต่เอกชนก็ช่วยเยอะมาก รวมถึงฝ่ายวิชาการ ศาสนา ตรงนี้ถือว่ามีความได้เปรียบ หรือซาอุฯ จะคุยกับนายกฯ ปัจจุบันหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ หรือเขาไว้ใจคนเก่ามากกว่าหรือเปล่า ก็ไม่ทราบได้
เมื่อถามถึงเที่ยวบินของไทยที่ช่วยคนไทยจากอิสราเอลต้องบินอ้อมหลายประเทศ ไม่บินผ่านซาอุฯ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศให้เหตุผลว่าไม่ได้ขออนุญาตทำการบินผ่านน่านฟ้าของประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะไม่อนุญาต
รศ.ดร.ปณิธานกล่าวตอบว่า ตนพูดอะไรมากไม่ได้ คนทำงานมีความยุ่งยาก การทำงานจริงหนักหนาสาหัสมาก แต่ต้องถามก่อนว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้คุยสายตรงไหม อ่านเหตุผลแล้วแปลกๆ
ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ถือเป็นความสัมพันธ์ใหม่ในรอบ 30 ปี พอเปิดทุกอย่างก็เลยช้า โครงสร้างการสนับสนุนคนของเราไม่พร้อม