xs
xsm
sm
md
lg

กางบัญชีหนังหมา “ทะลุวัง” ศิษย์ก้าวไกล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” เปิดหลักฐาน “ก้าวไกล” หนีไม่ออก อยู่เบื้องหลัง “ทะลุวัง” แน่นอน ทั้ง “หัวหน้าพิธา - เจี๊ยบ อมรัตน์” ถึงขั้นเป็นนายประกันในคดี 112 เป้าหมายก่อม็อบก็เพื่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล รถขนอุปกรณ์ชุมนุมจอดประจำที่ตึกไทยซัมมิท ขณะที่พวกผู้ใหญ่อีแอบที่พากันกระโดดหนีก็ไม่พ้นความรับผิดชอบเช่นกัน พร้อมเปิดบัญชีหนังหมา “แก๊งทะลุวัง” ใครเป็นใคร “ผักบุ้ง เนติพร” ได้เงินจากไหนเป็นท่อน้ำเลี้ยง



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงพฤติกรรมของกลุ่ม “ทะลุวัง” นำโดย น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ที่ไปก่อความวุ่นวายที่พรรคเพื่อไทยภายหลังการแถลงข่าวการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

โดยในวันดังกล่าวกลุ่มทะลุวังได้ยืนดักขวางหน้ารถโฟล์คตู้ของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทำให้รถไม่สามารถออกไปได้ ซึ่ง “บุ้ง เนติพร” พูดผ่านโทรโข่งบอกให้ลดกระจกลงเพราะอยากรู้ว่ามีฆาตกรอยู่ในรถหรือไม่ ทำให้นายพิพัฒน์เดินลงมาจากรถเพื่อเจรจา “บุ้ง เนติพร” จึงถามว่า“มาจากพรรคอะไร ใช่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่” นายพิพัฒน์ จึงตอบว่า“พรรคภูมิใจไทย”


ทำให้ “บุ้ง เนติพร” ตะโกนผ่านโทรโข่งว่า“ภูมิใจไทยอยู่ตรงนี้”จากนั้น นายพิพัฒน์ บอกกับ “บุ้ง เนติพร”ว่า“อย่าขัดขวางการเดินทาง”

“บุ้ง เนติพร” กล่าวว่า“วันนี้มีปัญหา เพราะไอ้หนูคือฆาตกร ที่กำลังจะมาจับมือกับพรรคเพื่อไทย ไม่ทราบเลยหรือว่าประชาชนตายจากโควิดไปกี่คน” นายพิพัฒน์ จึงกล่าวว่า“ให้ใช้ภาษาให้ดีๆ”

จากนั้นจึงเกิดการโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำรุนแรง และสมาชิกขอ ง“กลุ่มทะลุวัง” ได้จุดพลุแฟลร์แล้วโยนไปที่บริเวณท้ายรถของนายพิพัฒน์ ทำให้นายพิพัฒน์ เดินกลับขึ้นรถไป โดยขบวนรถได้ถอยกลับมาตั้งหลักใต้พรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ เมื่อกลุ่มทะลุวังโยนพลุแฟลร์เข้าสร้างความปั่นป่วน มีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งถูกพลุแฟลร์เข้าที่ตา จึงเกิดความโมโห และเดินเข้าไปหากลุ่มทะลุวัง แต่สมาชิกกลุ่มทะลุวังรายหนึ่งที่ใส่เสื้อยืดสีดำมีรูปชูนิ้วกลางและตัวอักษร ค.ควาย อยู่กลางอก(ซึ่งก็คือ “สายน้ำ” นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ บุตรชายของ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย)ได้ตอบโต้ด้วยคำหยาบคายว่า “อะไรของมึงนักหนาวะ มึงจะเอาอะไรกับกูนักหนา กูปาใส่นักข่าวตรงไหน” ทำให้นักข่าวคนดังกล่าวยิ่งเกิดความโมโห จนเกือบจะมีเรื่องชกต่อยกัน แต่ทีมงาน รปภ.ของพรรคเพื่อไทย ได้มากันนักข่าวคนดังกล่าวออกไปก่อน


ภาพนิ่ง เสียง และคลิปวีดิโอเหตุการณ์พฤติกรรมดังกล่าวของ“กลุ่มทะลุวัง” ที่พรรคเพื่อไทย ถูกแพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว ประชาชนคนไทย ชาวบ้านร้านช่องเป็นล้าน ๆ คน เห็นพฤติกรรมถ่อยเถื่อนของพวกคุณแล้วก็ตกใจ เข้ามารุมตำหนิ“กลุ่มทะลุวัง”แบบไม่มีชิ้นดี เฉพาะใน Facebook เว็บไซต์ Manager Onlineก็มีคนเข้ามาชมคลิปดังกล่าวกว่าล้านครั้ง มีคนคอมเมนต์เป็นหมื่น ๆ คน 
“พรรคก้าวไกล-ผู้ใหญ่อีแอบ”กระโดดหนี“ทะลุวัง”กันจ้าละหวั่น

พอคลิปความเถื่อนของกลุ่มทะลุวังนำโดย บุ้ง เนติพร เผยแพร่ออกไปในโลกออกไลน์ สังคมได้เห็นความก้าวร้าว หยาบคาย ของเด็กกลุ่มนี้แบบชัด ๆ พากันรับไม่ได้ จนเกิดกระแสตีกลับ ปรากฏว่าผู้ใหญ่อีแอบทั้งหลายก็กระโดดตัวยาว หนีกันเป็นแถว

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2566 "เจี๊ยบ" อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรค รีบออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นความก้าวร้าวของกลุ่มทะลุวัง ที่บุกมาพรรคเพื่อไทย ปัดทันทีเลยบอกว่าไม่รู้จัก ขนาดพ่อแม่เขายังไม่ทำตาม จะไปทำอะไรได้ “จึงต้องขอความเป็นธรรมให้พรรคก้าวไกล ว่าไปสั่งน้องๆ เหล่านั้นไม่ได้จริงๆ ย้ำว่าพรรคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออยู่เบื้องหลัง เด็กในยุคนี้ทุกคนโตกันหมดแล้ว”


ทั้งนี้ เจี๊ยบ อมรรัตน์ แกนนำพรรคก้าวไกล เป็นนายประกัน ที่ยื่นขอประกันตัวให้ “สายน้ำ ทะลุวัง” หรือ นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ ซึ่งตอนนี้เงียบสนิท เพราะรู้ว่าทุกคนเอาจริงแล้ว โดยภาพข้างล่างคือ เอกสารที่ เจี๊ยบ อมรรัตน์เคยยื่นให้ สน.ยานนาวา เมื่อเดือนธันวาคม 2563


“ดร.มานะ พ่อของสายน้ำ ก็เคยทำงานกับผม แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรมันเพี้ยนไป จนทุกวันนี้ ดร.มานะแทนที่จะรู้สึกตัว แต่กลับแอบออกความเห็นในเฟซบุ๊กสนับสนุนลูกชายอย่างกลายๆ ผมเสียใจมาก” นายสนธิกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีภาพ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ ตะวัน และ แบม ทะลุวัง บนเวทีหาเสียงของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่สวนสาธารณะเทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยนายพิธาแปะสติกเกอร์ว่าเห็นด้วยกับการยกเลิก ม.112 ซึ่งแสดงว่ามีความเกี่ยวข้องกัน


“สุนัย ฮิวแมนไรตส์วอตช์ บก.ลายจุด” รีบชิ่ง “ทะลุวัง”

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2566 นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติ ฮิวแมนไรตส์วอตช์ (Human Rights Watch) ประจำประเทศไทย ก็ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์@sunaibkkว่า “#ทะลุวัง อ้างจัดกิจกรรมวันนี้เพื่อประท้วง #เพื่อไทย และ #ภูมิใจไทย แต่กลายเป็นแสดงพฤติกรรมคุกคามคนเห็นต่าง และใช้ความรุนแรง ล้ำเส้นการใช้เสรีภาพแสดงออกอย่างสันติ”


ต่อมา นายสุนัย ได้ทวีตอีกว่า “ควรขอโทษ และรับปากว่าจะไม่ทำอีก … พฤติกรรมรุนแรงของ #ทะลุวัง ที่ไปประท้วงการจับมือระหว่าง #เพื่อไทย กับ #ภูมิใจไทย ล้ำเส้นการแสดงออกอย่างสันติ ไม่ใช่แค่ทำให้เสียแนวร่วม และการยอมรับจากสังคมในประเทศ แต่ยังเสียความคุ้มครองภายใต้กติกาสากลที่เคยได้รับในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญช่วยคุ้มครองเวลาถูกรัฐเล่นงานด้วยมาตรการต่างๆ”


ส่วนนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ระบุถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวังว่า ต้องทบทวนวิธีการเคลื่อนไหว และต้องพิจารณาเรื่องการสร้างแนวร่วม การสร้างการยอมรับในสังคม


ประเด็น : กลุ่มคนเหล่านี้ที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมด ต่อให้ พยายามตีชิ่ง ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง มาเล่นบทผู้ใหญ่เตือนเด็กตอนนี้ แต่ทั้งพรรคก้าวไกล ทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน NGO ผู้ใหญ่อีแอบทั้งหลาย ถึงวันนี้คุณปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้หรอก ว่า ม็อบเด็กที่ก้าวร้าวหยาบคาย ถ่อยและสถุลในวันนี้เป็นผลผลิตของพวกคุณทั้งนั้น

ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังเอาเรื่อง “น้องหยก” มาพูดบนเวทีหาเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 อยู่เลย


ส่วนที่กลุ่มทะลุวังออกมาชุมนุมวันเว้นวันอยู่นี่ก็เพราะต้องการประท้วงให้พรรคก้าวไกลได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล หรือได้เป็นรัฐบาล ก็ในเมื่อประท้วงให้พรรคก้าวไกล แล้วพรรคก้าวไกลจะบอกไม่รู้ได้อย่างไร พรรคก้าวไกลจึงอยู่เบื้องหลังเด็กถ่อยสถุลหยาบคายพวกนี้


เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งบุกไปกระทรวงวัฒนธรรม ไปไล่ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว.ที่ไม่โหวตให้พิธา เป็นนายก

ล่าสุดไปบุกพรรคเพื่อไทยโชว์ถ่อยเถื่อนจนมีคลิปออกมา


“มีข้อน่าสังเกตว่ารถขนอุปกรณ์ทั้งพลุ ทั้งสี อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่“กลุ่มทะลุวัง”ใช้ประกอบการประท้วงแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเผาโน่นเผานี่ สาดสี หรือทำอะไร บรรดานักข่าวทุกสำนัก รวมถึงนักข่าวของผม ก็เห็นชัดเจนว่าจอดอยู่หน้าตึกไทยซัมมิต เวลามีเหตุการณ์ที่พรรคเพื่อไทย หรือ ที่ไหน ๆ “กลุ่มทะลุวัง” ก็ปรากฎตัวพร้อมกับรถเครื่องไม้เครื่องมือคันนี้”


แล้วถามต่อว่า ตึกไทยซัมมิท นั้นเป็นของใคร คงไม่ต้องอธิบายต่อ เป็นอดีตที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ เป็นของบริษัท ของครอบครัว หรือ ของเครือญาติคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของตัวจริงพรรคก้าวไกล หรือเปล่า ?


หนึ่งในคดีที่ “ตะวัน ทะลุวัง” น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ จำเลยในคดีมาตรา 112 เคยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนจำในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณโพสตืเฟซบุ๊กไลฟ์สดก่อนจะมีขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายประกันของ “ตะวัน ทะลุวัง” ก็คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล


เพราะฉะนั้น พรรคก้าวไกลจะมาพูดอย่างไรก็ตาม ว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่หลักญานพิสูจน์ชัดเจนว่านายพิธานั้นใช้ตำแหน่งตัวเองเป็นหลักประกัน เพราะฉะนั้นแล้วจะปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคก้าวไกลไม่เกี่ยวข้อง

เปิดบัญชีหนังหมา “แก๊งทะลุวัง”

เรื่องราวของกลุ่มทะลุวัง เคยถูกเปิดเผยบางส่วนไปแล้วในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” Ep.195 ตอน พวกมันเป็นใคร? ชักใย “หยก”ออกอากาศวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 แต่จะเล่าให้ฟังแบบละเอียดอีกครั้งในตอนนี้


"กลุ่มทะลุวัง" เป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่ได้รับเอาแนวความคิดและการสนับสนุนมาจาก นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย อดีตนักโทษจากความผิดในข้อหาตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 138 พ้นโทษเมื่อเดือนเมษายน 2561 หลังถูกคุมขังมาเป็นระยะเวลา 7 ปี

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข
ช่วงเดือนมีนาคม 2566 ในกลุ่มมีปัญหาเรื่องแนวทางการเคลื่อนไหว “ตะวัน-สายน้ำ” จึงแยกออกมาเคลื่อนไหว ในนาม “กลุ่มมังกรปฏิวัติ” ส่วน “ผักบุ้ง” เคลื่อนไหวในกลุ่มทะลุวัง เช่นเดิม

มิถุนายน 2566 ทะลุวัง และ มังกรปฏิวัติ กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง เคลื่อนไหวในประเด็น “น้องหยก” รวมกันในนาม ทะลุวัง และเอากลุ่ม ทะลุแก๊ส เข้ามาร่วมเคลื่อนไหวด้วย


วิธีการเคลื่อนไหว : จัดกิจกรรมโดยใช้การทำโพลสำรวจดึงมวลชนที่ผ่านไปมาเข้ามามีส่วนร่วมลงความเห็น จะมุ่งเน้นโจมตีต่อสถาบันกษัตริย์, ประเด็นที่ต้องการเรียกร้องของกลุ่มเน้นไปที่ ม.112 ภายหลังมีการใช้ความรุนแรงในการจัดกิจกรรม ทั้งการจุดพลุ สาดสี และด่าทอด้วยคำหยาบคาย


“กลุ่มทะลุวัง” มีแกนนำหลัก ๆ 14 คน ประกอบไปด้วย

1) น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์(ตะวัน)
2) น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์(แบม)
3) น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม(บุ้ง)
4) นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์(สายน้ำ)
5) นายคฑาธร ดาป้อม
6) น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย(หยก)
7) นายธีรภัทร ระดับแก้ว
8) น.ส.วิชญาพร ตุงคะเสน
9) นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร
10) นายรณกร ห้างชัยเจริญ
11) น.ส.สุพิชญา ชัยลอม(ขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในแคนาดา)
12) นายสิทธิชัย ปราศรัย(ทะลุแก๊ส)
13) นายจิรภาส กอรัมย์(ทะลุแก๊ส)
14) นายณัฐพล เหล็กแย้ม(ทะลุแก๊ส)



“ในมือผมคือ คดีที่ทั้ง 14 คนโดนอยู่ แค่เลขคดีกับ สรุปคดีก็มีความหนาประมาณ 20-30 หน้าแล้ว คดีเยอะมาก ทางและศาลต้องเอาจริงเอาจัง อย่าไปคิดว่าเป็นเด็ก พวกมันไม่ใช่เด็กแล้ว บุ้ง 26 ปีแล้ว สายน้ำ 18 ปีแล้ว มันไม่รู้สำนึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วที่ให้คำมั่นสัญญากับศาลว่าสำนึกผิดแล้วเป็นเรื่องโกหกทั้งเพครับท่านผู้พิพากษาครับ” นายสนธิกล่าว


ยกตัวอย่าง “วีรเวร” ของแก๊งทะลุวังที่ถูกเอาไว้คนแรก น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ ผักบุ้ง อายุ 26 ปี จบปริญญาตรี มีประวัติคดีอาญา 3 คดี ประกอบด้วย คดีอาญา 112 สน.บางซื่อ คดีอาญาที่ 90/2565 สน.ปทุมวัน คดีอาญาที่ 921/2564 สภ.เมืองนนทบุรี

เงื่อนไขประกันตัว คดีอาญาที่ 433/2565 คดี ม.112
- ห้ามกระทำทำนองเดียวกับที่ถูกฟ้องอีก
- ห้ามขัดขวางการพิจารณาของศาล
- ห้ามออกนอกเคหสถาน 19.00 - 06.00 น.
- ห้ามออกนอกราชอาณาจักร
- ให้มารายงานตัวกับศาลทุก 30 วัน


คนที่ 2 นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ สายน้ำ อายุแค่ 18 ปีแต่มีคดีจำนวนมากถึง 13 คดีเยอะมาก ผมจะยกขึ้นมาสัก 3-4 คดีคือ
  • คดีอาญาที่ 1061/2565 สน.ปทุมวัน ข้อหา ทำร้ายร่างกายบุพการี เจ้าพนักงาน
  • คดีอาญาที่ 1079/2565 สน.ปทุมวัน ข้อหา ร่วมกันในข้อหาบุกรุกโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคน
  • คดีอาญาที่ 642/2563 สน.ยานนาวา ข้อหา ร่วมกันในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
  • คดีอาญาที่ 48/2566 สน.ดุสิต ข้อหา ร่วมกันในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
  • คดีอาญาที่ 168/2566 สน.สำราญราษฏร์ ข้อหา ร่วมกันในข้อหาทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน,ขูด กะเทาะ ขีด เขียน พ่นสี ที่กำแพงติดกับถนน
เงื่อนไขประกันตัวต้องใช้เงินประกันตัว 90,000 บาทบ้าง 25,000 บาทบ้าง


คนที่ 3 น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน อายุ 21 ปี บรรลุนิติภาวะแล้วมีคดีอาญา 14 คดี

อดีตสมาชิก “ทะลุวัง” แฉพฤติกรรม “บุ้ง เนติพร”

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2566 ในโลกทวิตเตอร์มีการรีทวีตและวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @youaretofuu ของน.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาสหรือพลอยอดีตแกนนำ กลุ่มทะลุวัง ที่ประกาศแยกทางกับกลุ่มทะลุวังไปเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 และลี้ภัยไปพำนักที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

“พลอย ทะลุวัง” ออกมาทวิต แฉ บุ้ง เนติพร ในฐานะที่เคยอยู่จุดเดียวกับหยก เนื่องจากตอนที่ “พลอย” เดินเข้าไปในกลุ่มทะลุวังนั้นอายุเพียงแค่ 16 ปี โดยเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 ปี


“พลอย” บอกว่า ที่บ้านพลอยมีปัญหา “บุ้ง” ก็เลยมารับเป็นผู้ปกครอง แต่พออยู่กับ “บุ้ง” สักพัก ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความรุนแรง โดนครอบงำขูดรีดผลประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในฐานะเยาวชนเพราะตอนนั้นพลอยอายุแค่ 16 ปี

โดนเอาผลงานการเคลื่อนไหวไปขอทุนเคลื่อนไหว แต่เงินทุนกลับส่งไม่ถึงพลอยและเพื่อนๆ และไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบุ้งได้


พลอยบอกว่า เวลาโมโห “บุ้ง เนติพร” จะอารมณ์รุนแรง เหมือนกับที่กรี๊ดๆ ในคลิปบุกพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ


“บุ้ง ชอบให้เด็กออกมาเคลื่อนไหว เทคแอคชั่นแรงๆ โดยบุ้งบอกว่า ต่อให้โดนคดีก็ยังไม่โดนหนักเพราะยังมีศาลเยาวชนและเด็ก ถ้าเจอความรุนแรง เช่น ตำรวจจับ บลาๆ จะเป็นข่าวง่าย ขอทุนง่าย ไวรัลง่ายกว่า แล้วบุ้งอ้างว่าจะซัพพอร์ตน้องๆ อยู่ข้างหลังแทน”

  • จุดแตกหัก คือ “บุ้ง เนติพร” บังคับพลอยสั่งให้ไปบุกคุกวังทวี (วังทวีวัฒนา หรือเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล) แต่พลอยไม่อยากทำ บุ้งเลยปิดประตูใส่หน้า อยากจะหนีก็ไม่ได้ เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว เพราะพลอยลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเคลื่อนไหว เงินก็ไม่มี ครอบครัวก็ทิ้ง มีแค่บุ้ง

  • สุดท้ายเพื่อนรอบตัวให้ความช่วยเหลือ พลอยเลยออกมาจากทะลุวังได้ ปัจจุบันเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ พลอยบอกว่า เรื่องพวกนี้ “หยก” ไม่รู้ตัวหรอก เพราะกำลังถูกปั่นหัวให้มีความเชื่อที่ผิดๆ



ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 เฟซบุ๊ก Melinn Supitcha ของ น.ส.เมลิญณ์ ชัยลอม (ชื่อเดิม สุพิชฌาย์ ชัยลอม)หรือ เมนู อดีตแกนนำกลุ่มทะลุวังที่ประกาศแยกทางกับกลุ่มทะลุวัง ออกมาพร้อมกับพลอยและคนอื่นๆ ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ก็โพสต์แฉในทำนองเดียวกันว่า สมาชิกภายในกลุ่มทะลุวังมองข้ามเสียงของเหยื่อความรุนแรงทางเพศ โดยเมนูและเพื่อน ๆ ได้รับบาดแผลทางจิตใจจากการถูกใช้อำนาจภายในกลุ่ม ทั้งการเอาเปรียบ แสวงหาผลประโยชน์ สั่งการ บังคับ กดดัน ตำหนิตัดสินต่างๆ เพื่อลดทอนคุณค่าในตัวของคนอื่นๆ


อีกทั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มไร้จุดยืนที่ชัดเจน โอนเอนตามกระแสสังคม และไม่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง ไม่มีเป้าหมายชัดเจน


“นี่คือเสียงจากคนในที่เคยอยู่กับ บุ้ง เนติพร แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องให้ใครมาแฉหรอก ดูจากพฤติกรรมการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ผ่านๆ มา คนมีปัญญาก็ย่อมทราบว่า พวกคุณ ถ่อย เถื่อนและสถุลเพียงใด

"อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังมาตลอดว่า จากข้อมูลเชิงลึกและแหล่งข่าวของผม ระบุว่า ผู้สนับสนุน“น้องหยก” คือกลุ่มไฟเย็น โดยเฉพาะ"แยม ไฟเย็น"กับ"ยัน มาฉัล"
ชาวฝรั่งเศสซึ่งหนีคดี ม.112 ไปอยู่ต่างประเทศ" นายสนธิกล่าว

ยัน มาฉัล และ แยม ไฟเย็น
กลุ่มไฟเย็น เป็นแบคอัพให้หยกสร้างกระแส โดยเชื่อว่าให้การสนับสนุนกับ “ผักบุ้ง” เพื่อให้ “ผักบุ้ง” รับ “น้องหยก” ไปพักอาศัยอยู่ด้วย และใช้ “น้องหยก” เป็นเครื่องมือในการสร้างกระแสข่าวหรือความวุ่นวายต่าง ๆเพราะถ้า “น้องหยก” มีกระแสข่าว “ผักบุ้ง” ซึ่งดูแล “น้องหยก” ก็จะได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มไฟเย็นต่อไป ถ้าไม่สร้างเรื่องราวให้กับตัวเอง กลุ่มไฟเย็นอาจจะไม่ให้เงินสนับสนุนต่อ

ข้อมูลดังกล่าว ถูกคอนเฟิร์มโดย ข้อมูลเชิงลึกจากหลายแหล่ง รวมถึงโพสต์ของ “พลอย-เมนู อดีตสมาชิกทะลุวัง” ที่ปัจจุบันหลบลี้ หนีภัยไปอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดาแล้ว

ทุกคนสงสัยกันว่านอกจาก “กลุ่มไฟเย็น” ที่อยู่เบื้องหลังของ “แก๊งทะลุวัง” แล้ว “เงินทุนสนับสนุน” ของกลุ่มนี้นั้นมาจากที่ไหนอีก “ผักบุ้ง เนติพร” เอาเงินจากที่ไหนมาซื้อข้าวซื้อของ จ่ายค่าเช่าห้อง ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าดำรงชีวิต จ่ายค่าโน่นค่านี่ ซื้อเสื้อผ้า มือถือ มอเตอร์ไซค์ให้น้องหยก ให้สมาชิก ใครเป็นท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มทะลุวัง


“ตอนนี้ทุกอย่างจะค่อย ๆ ปรากฎและกระจ่างชัดขึ้นเรื่อย ๆ ผมกับทีมงานเก็บข้อมูลเรื่องนี้อย่างละเอียด ไว้จะนำมาเปิดโปงให้ท่านผู้ชมได้รับทราบ ฉีกหน้ากากนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังแก๊งนี้ให้ประชาชนได้เห็นกันชัด ๆ เลยว่า ไอ้นายทุนชั่วช้า จอมอำมหิตพวกนี้เป็นใครกันบ้าง!”

นายสนธิ กล่าวอีกว่า มีคำเตือนถึง บุ้ง เนติพร ที่เที่ยวไปอาละวาดคนโน้นคนนี้ คนที่โดนอาละวาดก็มีลูกน้อง มีลูกศิษย์ลูกหา ถ้าวันข้างหน้าลูกน้องเขาทนไม่ไหว แล้วเอาคืนด้วยความรุนแรง จะโทษใครไม่ได้ จึงขอเตือนให้หยุดพฤติกรรมถ่อยสถุลได้แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น