“สนธิ” ฝากถึง “พระไมค์-พระเพนกวิน” เข้าไปบวชต้องบริสุทธิ์ใจ เชื่อในคำสอนพระพุทธเจ้าเรื่องความกตัญญู และรู้ว่าการหาทางล้มล้างสถาบันกษัตริย์ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ เพราะตรงกันข้ามกับหลักศาสนาพุทธ
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้ให้ความเห็นกรณีการบวชเป็นพระภิกษุของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มราษฎร 2563 หรือ ม็อบสามนิ้ว ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ซึ่งได้เข้าอุปสมบทที่วัดผาลาด - สกทาคามี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 โดยมีฉายาทางธรรมว่า "เขมปัญโญ" แปลว่า ผู้มีความเกษมในปัญญา
ในพิธีบวชดังกล่าว มีคนหลายคนไปร่วมงาน อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายธเนศวร์ เจริญเมือง อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งตอนนี้เกษียณอายุไปแล้ว นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า ผู้ชุมนุมม็อบราษฎร ไปร่วมงานด้วย
นายณัฐวุฒิ ได้โพสต์ภาพนายพริษฐ์ แล้วเขียนว่า "อนุโมทนา สาธุ พระเขมปัญโญ เพนกวิน ขอสว่างในธรรม สงบในใจ สง่าในชีวิต ตลอดกาล" ส่วนนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ว่า "ขออนุโมทนา ลูกแม่บวชที่วัดผาลาด เชียงใหม่ ฉายา พระเขมปัญโญ"
ทั้งนี้ ก่อนบวช นายพริษฐ์มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มากกว่า 20 คดี คดีความมั่นคงอีกจำนวนมาก จากการเป็นแกนนำชุมนุมสนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ได้แก่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" ตอนนั้นเรียกร้อง 3 ข้อ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
นอกจากเพนกวิน พริษฐ์ แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนภาคตะวันออก แนวร่วมม็อบราษฎร และผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 ก็เข้าพิธีอุปสมบท 21 มิถุนายน 2566 ที่วัดบ้านฉาง จังหวัดระยอง
พริษฐ์ ตั้งใจจะบวช 1 พรรษา ขณะที่ไมค์ ระยอง เดิมทีแจ้งว่าจะบวช 15 วัน แต่ล่าสุดตัดสินใจอุปสมบทอย่างไม่มีกำหนด เพราะอาจจะรู้ซึ้งในรสพระธรรมและอยากปฏิบัติศาสนกิจ
เรื่องนี้มีชาวเน็ตจำนวนมากออกมาตั้งคำถามว่า เพนกวิน และ ไมค์ อุปสมบทได้หรือเปล่า เพราะเคยมีคดีอาญาติดตัว มีการอ้างอิงกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2536 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ หมวด 3 เรื่อง หน้าที่พระอุปัชฌาย์ ข้อ 14 ระบุ พระอุปัชฌาย์ต้องงดเว้นการให้บรรพชาอุปสมบทแก่คนต้องห้าม โดยข้อ 3 คือ "คนต้องหาในคดีอาญา" และข้อ 4 คนเคยถูกตัดสินจำคุกโดยฐานเป็นผู้ร้ายสำคัญ
“ประเด็นแรก บวชได้หรือเปล่า มาเปรียบเทียบกรณีของผมที่ผมเคยบวช คือสมัยนั้น เมื่อผมประท้วงเสร็จ แล้วก็มีการพักผ่อน ผมก็เลยไปขอบวชที่วัดชนะสงคราม โดยท่านเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม หรือว่าสมัยนั้นท่านเป็นสมเด็จหนกลาง ยังมีชีวิตอยู่ ปรากฏว่าเลขาฯ ท่านที่เป็นฆราวาส บอกว่าผมบวชไม่ได้ เพราะผมโดนแจ้งข้อหาคดีอาญาในการชุมนุม
“ผมก็มีความรู้สึกว่า เอ๊ะ ผมบวชนี่ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่ไม่เป็นไร ผมก็เลยแจ้งไปทางพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ว่า ผมคงบวชไม่ได้ ท่านก็บอกว่าให้ขึ้นมาบวชที่อุดรฯ แล้วท่านก็แจ้งให้กับหลวงปู่ใหญ่ วัดโพธิสมภรณ์ บอกว่าให้เป็นองค์อุปัชฌาย์ให้ผม ตกลงผมก็เลยได้บวชที่วัดโพธิสมภรณ์ องค์อุปัชฌาย์ท่าน เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ผม หลวงปู่ใหญ่ ซึ่งตอนนี้ท่านก็มรณภาพไปแล้ว พอบวชจบพิธีตอนเที่ยง ตอนบ่ายผมก็เข้าไปจำวัดที่วัดป่าบ้านตาด”
นายสนธิ กล่าวว่า เรื่องแรกไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก เป็นกฎมหาเถรสมาคม ซึ่งจริงๆ แล้วหลักการบวช แม้กระทั่งองคุลีมารฆ่าคนตายไม่รู้เท่าไร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อนุญาตให้บวช เพื่อสำนึกผิด
แต่ประเด็นที่สำคัญไปกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ว่าบวชได้หรือไม่ได้ แต่คำถามมีว่า แล้วบวชเพื่ออะไรล่ะ ?
ศาสนาพุทธเน้นเรื่องความกตัญญู พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า คนดีจะต้องมีเครื่องหมาย 2 ประการ คือ "กตัญญู" แปลว่า รู้คุณ และ "กตเวที" แปลว่า ตอบแทนคุณ ภาษาบาลีท่านว่า "นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา" แปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ คือ ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี
และอีกประการหนึ่ง ศาสนาพุทธนั้นเน้นที่สัจจะวาจา และที่สำคัญ ศาสนาพุทธนั้นเทิดทูน ปกป้องพระมหากษัตริย์
“การที่แกนนำเด็กสามนิ้วอย่างเพนกวิน บวช ไมค์ ระยอง บวช ก็แสดงว่ายอมรับและศรัทธาในพระพุทธเจ้า เชื่อในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ใช่หรือเปล่า ขนาดตอนบวชเป็นพระอยู่ พระไมค์ ยังมาเล่นเฟซบุ๊กอยู่เลยว่า "การติติงผู้ทำให้ศาสนาเสื่อม อาตมาคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรทำ"
“ดังนั้นถ้าบวชด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ สึกออกมาย่อมใช้ชีวิตดำเนินการตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ต้องมีความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องไม่คิดที่จะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ใช่หรือเปล่าครับ อยากจะถามคำนี้
“ถ้าจะถามผมว่าระหว่างพวกอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่หนุนหลังพวกเด็กรุ่นใหม่เพื่อจะออกมาต่อต้าน ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นคุณชาญวิทย์ เกษตรศิริ หรืออาจารย์ธเนศวร์ เจริญเมือง กับคำพูดของหลวงตามหาบัว มันคนละเรื่องกัน เพราะว่าหลวงตามหาบัวท่านบริสุทธิ์ ท่านมีฌาน ท่านมองเห็นอนาคต ส่วนคนพวกที่ผมเอ่ยชื่อ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ธเนศวร์ หรือชาญวิทย์นั้น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกิเลสที่หนาเตอะ เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าผมเชื่อในคำพูดของหลวงตามหาบัวมากกว่า ตลอดจนพ่อแม่ครูอาจารย์อีกทุกรูปที่อยู่ในประเทศไทย ยืนยันอย่างแน่ชัดว่าพระมหากษัตริย์นั้นมีคุณูปการต่อศาสนา และจำเป็นต้องเทิดทูนเอาไว้ และปกป้องสถาบันกษัตริย์ครับ
“ก็อยากจะฝากให้คนที่ไปบวช และกองเชียร์ของคน 2 คนนี้ ได้เข้าใจตรงกันว่าศาสนาพุทธนั้น ถ้าคุณบวชด้วยความบริสุทธิ์ใจ คุณต้องรู้ว่าสิ่งที่คุณทำในอดีต เรื่องหาทางล้มล้างสถาบันกษัตริย์นั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วมันตรงกันข้ามกับหลักศาสนาพุทธที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้สั่งสอนมาตลอดเวลา” นายสนธิกล่าว