xs
xsm
sm
md
lg

ป่วนแน่! “ก้าวไกล” ยึดเก้าอี้ประธานสภาฯ ลุยแก้ 112 "สนธิ" จี้ “เพื่อไทย”ถอนตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” มองขาด “ก้าวไกล” อยากได้ตำแหน่งประธานสภาฯ หวังรับร่างแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 เข้าบรรจุวาระ ถึงท้ายที่สุดจะไม่ผ่าน แต่ได้ถือโอกาสอภิปรายด้อยค่าสถาบันในสภา ประเทศวุ่นวายแน่ แนะทางแก้ง่ายนิดเดียว “เพื่อไทย” ต้องไม่ยอม และตัดสินใจเด็ดขาดถอนตัวออกมา อาจดึง “พลังประชารัฐ” ร่วมตั้งรัฐบาล โดยขอร้องให้ “บิ๊กป้อม” ไม่รับตำแหน่ง ซึ่งมีความเป็นไปได้



ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้เปิดเผยให้เห็นถึงเบื้องหลังการที่พรรคก้าวไกลต้องการได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแม้พรรคเพื่อไทยจะยังไม่ยินยอม โดยหากถึงที่สุดแล้วพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ประเทศไทยจะวุ่นวายแน่นอน เพราะว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนแล้วว่าจะผลักดันการแก้ไข หรือการยกเลิก มาตรา 112 ซึ่งหมายถึงการเดินทางไปสู่การไม่มีสถาบันกษัตริย์ในที่สุด

ทั้งนี้ เพราะประธานสภาฯ จะเป็นคนพิจารณาวาระต่างๆ ที่ ส.ส.ยื่นเข้าสภาฯ เมื่อ ส.ส. ยื่นเข้าสภาฯ แล้ว ถ้ามีวาระในการแก้ไข 112 ถ้าเป็นประธานสภาฯ ของพรรคก้าวไกล ก็จะให้เอาเข้าพิจารณา การพิจารณาวาระนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ผ่านในที่สุด แต่กว่าจะถึงวันที่ไม่ผ่าน คนชั่วๆ ทั้งหลายก็จะขุดคุ้ยเรื่องราวต่างๆ ของสถาบันกษัตริย์ ซึ่ง 99 เปอร์เซ็นต์ ไม่จริง เอามาโจมตี เอามากล่าวหา นี่คือเวทีที่เปิดและไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะมันเป็น ส.ส. ย่อมได้รับการคุ้มครอง


“อันตรายไหมท่านผู้ชม และนี่คือเป้าจริงๆ ของพรรคก้าวไกล เป้านี้ คนที่นำหน้าเอาเป้านี้เข้ามาก็คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คนอยู่เบื้องหลังก็คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล ช่อ-พรรณิการ์ วานิช

“และที่น่าเสียใจมากๆ สำหรับพรรคเพื่อไทย มีคนพรรคเพื่อไทยบางคน ซ้ายจัด แอบแฝงอยู่ แอบจับมือกับพรรคก้าวไกล เพื่อจะผลักดันให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาฯ คนพวกนี้อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย ถ้าท่านอยู่ในวงการท่านก็พอจะรู้ว่ามีใครบ้าง คนพวกนี้เป็นคนที่ไม่เอาสถาบันกษัตริย์มาตั้งนมตั้งนานแล้ว เป็นเพียงแต่ว่าซ่อนเร้นตัวเองได้เก่ง แต่พวกผมรู้หมดเลยว่ามีใครบ้าง”
นายสนธิ กล่าว

พรรคก้าวไกลได้เสนอนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก สมัย 2 เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้น สนับสนุนให้นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายสุชาติ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา 8 สมัย ล่าสุด เป็นสมัยที่ 9 ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย


นายสนธิ กล่าวว่า การปล่อยตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล ซึ่งคือนายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นการเปิดประตูสู่การล้มล้างสถาบัน เพื่อส่งคนเข้าไปผลักดันร่างกฎหมายแก้ไข 112 ให้สำเร็จ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ก็ได้ถือโอกาสดิสเครดิจสถาบันไปเลย

สถาบันพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้มีปากเสียงออกมาโต้เถียงเรื่องนี้ ท่านนั่งเฉยๆ คนที่รอบตัวท่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้สถาบันกษัตริย์ต้องพึ่งพรรคเพื่อไทย ถ้าเอานายสุชาติ ตันเจริญ ขึ้นมา


“ทำไมผมถึงสนับสนุนคุณสุชาติ ตันเจริญ ? เพราะคุณชวน หลีกภัย เป็นคนพูดเองว่า ในยุคสมัยที่คุณชวน เป็นประธาน ได้มอบหมายให้คุณสุชาติ ซึ่งเป็นรองประธานฯ คนที่ 1 รับผิดชอบร่างพระราชบัญญัติที่เสนอเข้ามายังสภาฯ ทุกฉบับ โดยร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอ เคยเสนอยกเลิกมาตรา 112 ถ้ายื่นเข้ามาจะมีคุณสุชาติ เป็นคนดูแล ซึ่งคุณสุชาติ เคยรับวาระญัตตินี้มา แล้วคุณสุชาติ บอกว่า นี่คือการล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 1 ก็เลยไม่รับเข้ามาเป็นญัตติ เข้ามาพิจารณา ก็จบไปแล้ว

“แต่ถ้าประธานสภาฯ เป็นคนของพรรคก้าวไกล แน่นอนที่สุด ก็บรรจุเข้าไปในวาระทันทีเลย ก็เลยเป็นไปตามกระบวนการของการพิจารณาญัตติร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร”
นายสนธิ กล่าว

นายปดิพัทธ์ เป็น ส.ส. 2 สมัย อายุ 42 ปี ลงครั้งแรก็ชนะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. 3 สมัย ตอนนี้นายปดิพัทธ์เป็นถึงกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล


“คุณปดิพัทธ์ ไม่ใช่ธรรมดา (รูปซ้าย) นายปดิพัทธ์ ชูสามนิ้ว แล้วเอามือแปะที่ตา ก็เห็นด้วยกับพวกสามนิ้ว เอาคนที่หมกมุ่น ฝักใฝ่ในการล้มล้างสถาบันกษัตริย์มาเป็นประธานสภาฯ ได้อย่างไร ถ้าได้ แล้วเป็นอย่างนั้น ก็แสดงความเจตนารมณ์ของพรรคก้าวไกลคือการล้มล้างสถาบันกษัตริย์

“ผมจะถามคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซิ ที่ผมต้องเอ่ยชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะรู้จักกันดี ถ้าท่านเห็นด้วย ผมจะเสียใจมาก หรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถ้าท่านเห็นด้วย ผมก็เสียใจมาก หรือแม้กระทั่งคุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่มีเลขาฯ พรรคชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นนายตำรวจสมัยอยู่กองปราบปราม เคยทำงานให้กับสถาบันกษัตริย์มาหลายครั้ง ถ้าคนพวกนี้ยังสนับสนุนอยู่ ผมเชื่อว่าคนพวกนี้คือคนขายชาติ พรรคก้าวไกลนี่ขายชาติอยู่แล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เดี๋ยวผมจะมาเรียงลำดับให้ดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
นายสนธิกล่าว


ทั้งนี้ นายปดิพัทธ์ หรือ "หมออ๋อง" จบคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โปรไฟล์การทำงานคือเป็นสัตวแพทย์ปฏิบัติการ 2 ปี ถ้าเราดูทั้งหมดแล้ว หมากที่ก้าวไกลกำลังเดินอยู่ทั้งหมดทั้งมวล ต้องดูให้ดี อย่าไปหลง แล้วจำชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เอาไว้ จำชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เอาไว้ จำชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เอาไว้ จำให้แม่น เพียงเพราะว่าอยากได้ตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี พร้อมที่จะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่จะสนับสนุนให้คนที่จะรับญัตติการแก้มาตรา 112 ซึ่งเป็นคนของพรรคก้าวไกล เพื่อที่จะให้มีการยื่นญัตติเข้าไปแล้วก็เอาเข้าไปโต้เถียงกันในสภาฯ แซะ เสียดสี หยามเหยียดกษัตริย์


ที่น่าเสียใจ คนบางคนที่ผมรู้จัก ที่มีจุดยืนในเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ยังมาเชียร์ว่าพรรคก้าวไกลอันดับหนึ่ง ก็ต้องให้พรรคก้าวไกลได้ประธานสภาฯ หรือว่าเป็นนายกรัฐมนตรี

“ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมฟันธงได้เลยว่าพรรคก้าวไกล คือพรรคที่จะทำให้ประเทศชาติแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ อยู่เบื้องหลังการชักใยกลุ่มทะลุวัง อยู่เบื้องหลัง "น้องหยก" ออกมาสร้างกระแส ปีนรั้ว ย้อมผม แต่งชุดไพรเวตไปโรงเรียน

“รังสิมันต์ โรม ออกมาสนับสนุนการเปลี่ยนวันชาติ จากวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 9 วันที่ 5 ธันวาคม ให้เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน ซึ่งผมเคยเรียนท่านผู้ชมแล้ว เอาหลักฐานมาให้ท่านผู้ชมได้ดูว่า 2475 นั้น ไม่ใช่เป็นวันเปลี่ยนแปลง 2475 ไม่ใช่คณะราษฎร แต่เป็นคณะโจร เข้ามาล้มล้างกษัตริย์ เพื่อที่จะปล้นสะดมชิงทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์”



นายสนธิกล่าวอีกว่า นายรังสิมันต์ โรม และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.สนิทสนมกันมาก เพราะเป็นคนใต้ด้วยกัน จึงอยากฝากไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ด้วย ถ้าเป็นตำรวจที่จงรักภักดีในสถาบันกษัตริย์ ต้องแสดงทีท่าออกมาแล้ว หรืออย่างน้อยต้องไปบอกนายรังสิมันต์ โรม ว่าไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้

แล้วการที่นายธนาธร และคณะก้าวไกล เดินสายไปเสวนาที่ภาคใต้ ภาคโน้นภาคนี้ ไปทำไม ? ไปยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความรุนแรง งานนี้แก้ได้ง่ายนิดเดียว ถ้าพรรคก้าวไกล คนส่วนใหญ่ในพรรคก้าวไกล เก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นคนที่จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แม้กระทั่งนายทักษิณ ชินวัตร ยังให้สัมภาษณ์มาชัดเจนเลยว่า เรื่องความจงรักภักดีนั้น แน่นอนที่สุด ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มีอีแอบอยู่หลายคนที่อยู่ พยายามขัดขวางภายในพรรคเพื่อไทย เพราะว่าตัวเองสนิทสนมกับพวกพรรคก้าวไกล เพราะตัวเองมีวาระในการล้มล้างสถาบันกษัตริย์เช่นกัน แต่ตัวเองแอบเอาไว้

ทำไมนายธนาธรจะต้องเดินสายไปที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ไปปลุกระดมไปหมด นายธนาธรต้องการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพราะว่าถ้านายพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะปลุกระดมคนที่เดินสายเอาไว้ออกมาลงถนน แล้วถ้ามีการปราบปรามขึ้นมา ก็จะเข้าทางของประเทศทางตะวันตก ก็คือสหรัฐอเมริกา ซึ่งพรรคก้าวไกลปวารณาตัวว่าจะเป็นพรมเช็ดเท้าให้กับอเมริกา


“นายพิธา อ้างว่ามีประชาชน 14 ล้านคน ที่เลือกพรรคก้าวไกล ให้ฉันทามติในการแก้ 112 ผมก็อยากจะถามพ่อแม่พี่น้อง 14 ล้านคน ว่าจริงๆ แล้วคุณเลือกพรรคก้าวไกลเข้ามาเพราะว่าพรรคก้าวไกลจะแก้ ม.112 และจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ใช่หรือไม่ ? ถ้าใช่ก็แสดงว่าโอกาสที่จะนองเลือดมีจริงๆ เพราะคนที่รักพระเจ้าอยู่หัวยังมีอีกเยอะในประเทศไทย มีอีกมากมาย


“ท่านผู้ชมอ่านเกมออกหรือยัง ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้ประธานสภาฯ กลายเป็นพรรคเพื่อไทยแทน อย่างน้อยที่สุด การใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นจุดที่จะมาโจมตีสถาบันกษัตริย์ ก็ไม่มี อย่างน้อยผมเชื่อว่าคุณสุชาติ ตันเจริญ ก็จะไม่ยอมรับญัตตินี้ให้เข้าในสภาฯ เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานของ ส.ส.ทุกๆ คน”

นายสนธิ กล่าวอีกว่า วันนี้พรรคก้าวไกลต้องการจะยื้อไปเรื่อยๆ ไปจนกระทั่งถึงวาระที่ ส.ว.หมดสิทธิยกมือเลือกนายกฯ แล้วเวลาเลือกนายพิธาจะได้ไม่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. ประเทศไทยวิกฤตทุกวินาที ที่สำคัญที่สุด คนที่เคยแสดงออกว่าจงรักภักดี แต่ลับหลังเลื่อยขาเก้าอี้ และพยายามส่งเสริมให้พรรคก้าวไกลมีอำนาจ โดยไม่สนใจหลักการ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เลย


“จริงๆ เรื่องนี้แก้ง่ายนิดเดียว คุณทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจเด็ดขาดไปเลย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล พรรคก้าวไกลก็ไปไม่เป็น แต่ก็ไปกลัวกระแส กระแสอะไร ? คุณสามารถที่จะทำงานได้ ไม่ได้เลวกว่าพรรคก้าวไกล ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ และคุณก็ยังจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ คุณไม่เอา 3 ป. ผมก็ไม่เอา 3 ป. ไม่มีใครเขาว่าอะไร เขาเห็นด้วย


“คุณไม่เอาประยุทธ์ ไม่เอาประวิตร ไม่เอาอนุพงษ์ ก็ไม่ต้องเอา ผมเห็นด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว อยู่ที่พรรคเพื่อไทย อยู่ที่คุณทักษิณแล้ว อยู่ที่คุณเศรษฐา ทวีสิน แล้ว ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องไปกลัวกระแส กระแสมันไม่มี กระแสมันก็คือต่อต้าน 3 ป. ถ้าคุณจะรวมพรรคพลังประชารัฐเข้ามาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คุณก็ต้องบอกลุงป้อมสิ ลุงป้อม ผมขอเถอะ อย่าเข้ามาเลย ผมเชื่อว่าลุงป้อมก็ไม่มา ก็จะออกจากตำแหน่ง พร้อมจะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน ซึ่งไม่รู้จะมีหลานกี่คน


“ถอนไปเถอะครับ อย่าไปฟังเลย ส.ส.ที่เคยแตกพรรคไปอยู่ที่อื่น พอตอนนี้เห็นคุณจะแลนด์สไลด์แล้วกลับมาขออยู่ในบัญชีรายชื่อ อย่าไปฟัง ฟังจิตใต้สำนึกของคุณเองดีกว่า” นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น