ตัวแทนเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยย้ำเรียกร้อง "กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์" คัดค้านกลับไปเป็นยาเสพติด ลั่นนำขึ้นบนดินแล้วกางปัญหาออกมาเพื่อควบคุมแก้ไขได้ ไม่เข้าใจเกิดอะไรขึ้นทุกพรรคเคยเห็นชอบด้วยหมด แต่พอใกล้เลือกตั้งกลับเล่นเกมการเมืองกัน
วันที่ 8 มิ.ย. 2566 นายชัชปัฐวี อัฏฐพรเมธา ผอ.สถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ตัวแทนสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "วันกัญชาไทย คัดค้านกลับไปเป็นยาเสพติด"
นายชัชปัฐวีกล่าวถึงการจัดตั้งกลุ่มว่า เกิดจากการรวมตัวของผู้ป่วย และผู้ที่ต้องการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย เรารวมตัวตั้งแต่ก่อนปลดล็อกกัญชาด้วยซ้ำ จุดมุ่งหมายของการจัดกิจกรรมพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เพื่อต่อต้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะเป็นการก้าวถอยหลัง 9 มิ.ย. ครบรอบ 1 ปีที่ปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด แทนที่จะได้เฉลิมฉลอง กลายเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องไม่ให้เอากลับไปเป็นยาเสพติด
เอาขึ้นมาอยู่บนดิน แล้วกางปัญหาออกมาว่ามีอะไรบ้าง ดีกว่าอยู่ใต้ดินเราไม่สามารถควบคุมได้ จะได้รู้ใครใช้ทำอะไร จะได้บริหารจัดการได้ รัฐก็ได้ประโยชน์ในแง่ภาษีด้วย
มีข่าวออกมามากเรื่องข้อเสียของกัญชา แน่นอนมันก็มีข้อดี ข้อเสีย แต่ช่วงนี้กัญชาเป็นนโยบายใหม่ และเป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วย เอาขึ้นมาบนดินแล้วมาคุยกัน ทำให้ถูกต้อง แต่ตอนนี้ไม่มีกฎหมายเฉพาะเพราะไม่ผ่านสภา ไม่ครบองค์ประชุมสักที เราไม่สามารถเอาคนกลุ่มเดียวที่ทำไม่ถูก มาจำกัดการเข้าถึงของคนทั้งประเทศได้
นายชัชปัฐวีกล่าวอีกว่า เราไม่ได้เรียกร้องกัญชาเสรี แค่ต้องการให้เสรีในทางการแพทย์ อยากให้มองเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่ต่างจากเรื่องอื่น อย่างเหล้า บุหรี่ เอาขึ้นบนดินแล้วแก้ปัญหา และควบคุมได้
เมื่อถามว่ากัญชาได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่มทุนจริงหรือไม่ นายชัชปัฐวีกล่าวว่า แน่นอนจุดเริ่มต้นก่อนปลดล็อก คนที่เข้าถึงได้ต้องมีความพร้อม มีทุนในการสร้างโรงเรือน ตอนนั้นเป็นยาเสพติดทำเพื่อการแพทย์ ต้องใช้งบสูงมาก ก็ยอมรับว่าต้องมีทุน แต่พอปลดล็อก ประชาชนในครัวเรือนเข้าถึงได้ ทุกครัวเรือนปลูกได้ ใช้ได้ ขายได้ ขอแค่ทำตามระเบียบ ขออนุญาตให้ถูกต้อง
นายชัชปัฐวีกล่าวอีกว่า ในสภาตอนประกาศจะปลดล็อกไม่มีใครคัดค้าน ทุกพรรคเห็นด้วยหมด แต่พอมีเรื่องการเมืองเข้ามา พอใกล้เลือกตั้งก็เห็นการเปลี่ยนแปลง เคยเข้าไปคุยกับพรรคต่างๆ รวมถึงก้าวไกล ก็ร่วมร่าง พ.ร.บ.กันด้วยซ้ำ ทุกคนเห็นตรงกันอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากให้กลับไปเป็นยาเสพติด นายพิธาเองก็บอกว่าหายป่วยเพราะกัญชา
หลังจากผ่านวาระหนึ่ง มีกรรมาธิการจากหลายๆ พรรค ทุกพรรคร่วมกันทำ พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย ทุกพรรคช่วยกัน แต่ไม่ผ่านวาระ 3 เพราะไม่ครบองค์ประชุม เกิดอะไรขึ้น แล้วโยนว่าเป็นนโยบายที่ผิดพลาดของภูมิใจไทย ต้องเอากลับไปเป็นยาเสพติด มองแล้วไม่มีเหตุผล