"ทนง ขันทอง" ชี้ราชวงศ์อังกฤษออกหน้าหนุนยูเครนรบรัสเซีย ราวกับว่าเป็นปัจจัยชี้ชะตาความอยู่รอดของจักรวรรดิในอนาคต ระบุตั้งแต่อดีตอังกฤษต้องคอยสกัดความรุ่งเรืองของเยอรมนี-รัสเซีย หวั่นกลายเป็นเจ้าครองยุโรป
วันที่ 15 พ.ค. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "สงครามจักรวรรดิครั้งสุดท้าย : ราชวงศ์อังกฤษหนุนยูเครนรบรัสเซีย"
นายทนงกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ราชวงศ์อังกฤษแสดงท่าทีให้การสนับสนุนยูเครน ทางศาสนจักรก็เช่นกันเมื่อปลาย มี.ค. สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 ก็เยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ เพื่อสนับสนุนให้เยอรมนีออกหน้าหนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซีย
อังกฤษมองตัวเองเป็นจักรวรรดิ และมองเยอรมนีกับรัสเซียเป็นคู่แข่ง เยอรมนีเข้มแข็งกว่าอังกฤษมาก ในด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยี ถ้าเยอรมนีจับมือกับรัสเซียจะทำให้ทั้งสองประเทศครองยุโรป อังกฤษเลยต้องคอยสกัดสองประเทศนี้มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
กรณีสงครามยูเครนเยอรมนีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ค้าขายกับรัสเซีย และมีการลงทุนในจีน สงครามยูเครนเป็นการตัดขาดไม่ให้คบค้ากับรัสเซียและจีนได้ แล้วยังมีเสียงเรียกร้องจากอเมริกาให้เยอรมนีส่งรถถังไปช่วยยูเครน ลังเลไปลังเลมา ท้ายที่สุดก็ต้องยอม
หลายคนเชื่อกันว่าราชวงศ์อังกฤษไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จริงๆ แล้วเกี่ยวอย่างลึกซึ้ง ปกติอังกฤษจะทำอย่างแยบยลในการดำเนินนโยบาย แต่น่าแปลกใจกรณียูเครน อังกฤษทุ่มสุดตัวทีเดียว เหมือนกับว่ายูเครนซึ่งเป็นสงครามตัวแทนเป็นปัจจัยที่จะชี้ชะตาความอยู่รอดของจักรวรรดิในอนาคต อังกฤษตอนนี้จึงไม่อ้อมค้อมอีกแล้ว ราชวงศ์ต้องลงมาเล่นเองโดยตรง