รัสเซียในวันเสาร์ (13 พ.ค.) เผยว่ากองกำลังของพวกเขากำลังรุกไล่อยู่ภายในบัคมุต และสามารถแย่งชิงการควบคุมพื้นที่หนึ่งในเมืองทางตะวันออกของยูเครนแห่งนี้ได้สำเร็จ ความคืบหน้าซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กำลังเดินทางเยือนยุโรป และได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ในกรุงโรม
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลงว่า "ในทิศทางโดเนตสก์ การจู่โจมสามารถปลดปล่อยช่วงตึกหนึ่ง ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอาร์เตมอฟสก์" อ้างอิงเมืองบัคมุตในภาษารัสเซีย
ถ้อยแถลงนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากหัวหน้าวากเนอร์ กรุ๊ป กลุ่มนักรบอาสาสมัครรัสเซีย ซึ่งเป็นหัวหอกในการจู่โจมบัคมุต ออกมากล่าวอ้างเป็นประจำว่าทหารรัสเซียกำลังล่าถอยไปทางด้านข้างของเมือง ปล่อยให้กองกำลังของเขาไม่มีที่กำบังอยู่บริเวณใจกลางเมือง
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียก็เคยบอกว่าได้จัดวางกองกำลังใหม่ทางเหนือของบัคมุต บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการถอนทหารออกจากแนวหน้า อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ (13 พ.ค.) กระทรวงกลาโหมรัสเซีย มีท่าทีเปลี่ยนไป และบอกว่ากองทัพกำลังให้การสนับสนุนกองกำลังของวากเนอร์
"หน่วยกองกำลังทางอากาศได้มอบแรงสนับสนุนการจู่โจมปลดปล่อยเมืองและตรึงศัตรูไว้บริเวณด้านข้าง" กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ พร้อมบอกต่อว่าได้ใช้ปฏิบัติการทางอากาศ และปืนใหญ่โจมตีเป้าหมายทหารยูเครนใกล้ถิ่นฐานหลายแห่งในแคว้นโดเนตสก์ ในั้นรวมถึงเมืองชาซิฟ ยาร์
ความก้าวหน้าของฝ่ายรัสเซีย เกิดขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี อยู่ระหว่างเดินทางเยือนยุโรป ในนั้นรวมถึงกรุงโรม ของอิตาลี และเขาได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตปะปาฟรานซิสในวันเสาร์ (13 พ.ค.)
เซเลนสกี ได้พูดคุยกับพระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระชนมายุ 86 พรรษา เป็นเวลา 40 นาที ที่วาติกัน หลังจากก่อนหน้านี้ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี ผู้ซึ่งให้การสนับสนุนเคียฟอย่างแข็งขัน ในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
"ผมขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ให้ความสนพระทัยต่อชะตากรรมอันน่าเศร้าของชาวยูเครนหลายล้านคน" เซเลนสกี เผยผ่านเทเลแกรม หลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020
ผู้นำยูเครนเผยว่า เขาและสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้หารือกันเกี่ยวกับชะตากรรมเด็กหลายแสนคน ที่เคียฟบอกว่าถูกบังคับเนรเทศไปยังรัสเซีย เช่นเดียวกับแผนสันติภาพของพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเน้นย้ำเสียงเรียกร้องสันติภาพในยูเครน และหาทางมีบทบาทเป็นคนกลางไกลเกลี่ย แม้ความพยายามต่างๆ ของพระองค์ยังไม่ผลิดอกออกผลใดๆ หนำซ้ำยังถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีไม่ยอมกล่าวโทษรัสเซีย สำหรับสงครามที่เกิดขึ้น
สำนักวาติกัน กล่าวโดยไม่ได้พาดพิงถึงรัสเซีย ระบุว่า ทั้ง 2 ท่านหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมและการเมืองในยูเครน อันมีต้นตอจากสงครามที่กำลังเกิดขึ้น และความจำเป็นของการแสดงออกถึงความมีมนุษยธรรมต่อผู้คนที่เปราะบางมากที่สุด
ถือเป็นครั้งแรกที่เซเลนสกีเดินทางเยือนอียูและสมาชิกนาโตอย่างอิตาลี นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน และเขามีกำหนดเดินทางเยือนเยอรมนีต่อในวันอาทิตย์ (14 พ.ค.)
ก่อนหน้าที่เซเลนสกีจะเดินทางเยือนเบอร์ลิน ทางเยอรมนีแถลงในวันเสาร์ (13 พ.ค.) เปิดตัวแพกเกจความช่วยเหลือด้านอาวุธรอบใหม่แก่ยูเครน มูลค่า 2,700 ล้านยูโร (ราว 2,950 ล้านดอลลาร์) ถือเป็นความช่วยเหลือครั้งใหญ่จากเบอร์ลิน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกราน
"เราต่างหวังให้สงครามที่ชาวยูเครนต้องเดือดร้อนจากฝ่ายรัสเซียนี้จบลงโดยเร็ว แต่ช่างน่าเสียดายที่ยังคงไม่เห็นสัญญาณนั้นเลย" บอริส พิสทอเรียส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ระบุในถ้อยแถลง "นี่คือเหตุผลที่เยอรมนีจะต้องให้ความช่วยเหลือยูเครนเท่าที่จะทำได้ ตราบใดที่มันยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่"
แพกเกจดังกล่าวจะรวมถึงรถถังเลพเพิร์ด-1 อีก 30 คัน รถหุ้มเกราะมาร์เดอร์ ระบบป้องกันทางอากาศ และโดรนลาดตระเวน นิตยสาร Der Spiegel ระบุว่า นี่เป็นแพกเกจอาวุธที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีนับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว เยอรมนีให้การสนับสนุนทางทหารรวมมูลค่า 2,000 ล้านยูโร ส่วนปีนี้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 2,200 ล้านยูโร แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดใดๆ นอกจากนี้เบอร์ลินยังรับปากด้วยว่าจะจัดส่งรถถังเลพเพิร์ด-2 ให้เพิ่มเติมอีก และได้เริ่มการฝึกสอนทหารยูเครนใช้งานรถถังรุ่นดังกล่าวแล้ว
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)