แม้ว่าชื่อของสาวสวยเสียงดี “นท พนายางกูร” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “นท เดอะสตาร์” จะห่างหายจากแวดวงนักร้องไปพักใหญ่ นั่นเป็นเพราะเธอทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับ “การดำน้ำ” กิจกรรมสุดโปรด และต่อยอดกิจกรรมดำน้ำที่เธอรัก มาช่วยผลักดันงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะธรรมชาติใต้ท้องทะเล
การดำน้ำช่วยเยียวยาทุกสิ่ง
นทเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นดำน้ำว่า ตั้งแต่จำได้ ชีวิตเธอก็ผูกพันกับสายน้ำมาตลอด เพราะที่บ้านสนับสนุนให้เรียนว่ายน้ำตั้งแต่เด็ก ทำให้การว่ายน้ำเป็นกีฬาสุดโปรดของเธอ มีโอกาสเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันกับโรงเรียนอื่นหลายครั้ง กวาดเหรียญรางวัลมานับไม่ถ้วน แต่เส้นทางในการเป็นนักกีฬามืออาชีพของเธอต้องสะดุดลง
“ความสุขของนทคือได้ว่ายน้ำ แข่งขันว่ายน้ำ แต่ก็แปลกที่ยิ่งโตขึ้น ทำไมเราไม่สูงเหมือนเพื่อนนักกีฬาคนอื่น ก็เลยตัดสินใจพักการแข่งว่ายน้ำไว้ก่อน แล้วหันไปลองฝึกทำกิจกรรมอื่นดูบ้าง เช่น เล่นดนตรี ทำงานศิลปะ” นทเล่าให้ฟังพร้อมรอยยิ้ม
แม้จะมีกิจกรรมและงานอดิเรกยามว่างมากมาย แต่ลึกๆ แล้วเธอก็ยังชื่นชอบและคิดถึงการว่ายน้ำอยู่เสมอ ก็เลยไปหากิจกรรมที่ใกล้เคียง นั่นคือการดำน้ำ ซึ่งเธอพบว่ายิ่งเรียนยิ่งสนุก ยิ่งเรียนยิ่งรัก เพราะการดำน้ำสามารถตอบโจทย์ทุกข้อสำหรับเธอ
“ถ้าถามว่าได้อะไรจากการดำน้ำ นทว่านทได้ทุกอย่าง นอกจากจะทำให้เรามีความสุข เพลิดเพลินกับความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลแล้ว การดำน้ำยังเป็นทั้งหมอและครูสำหรับนท หมอคือช่วยเยียวยาจิตใจ เวลาเศร้า ไปดำน้ำมันหายเศร้าทันที เหมือนมหาสมุทรโอบกอดเรา ส่วนที่เป็นครูคือ นทรู้สึกว่าอีโก้เราลดลง เพราะเมื่อเทียบกับทะเล มหาสมุทรแล้ว ตัวเราเล็กมาก นี่คือสิ่งที่การดำน้ำสอนเรา”
ความมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล
หากใครได้ติดตามอินสตาแกรมของเธอ @notep มักจะเห็นเธอโชว์การดำน้ำแบบ Free Dive (ฟรีไดฟ์) หรือการดำน้ำลึกแบบไม่มีถังออกซิเจนหรืออุปกรณ์ช่วยหายใจอย่างอื่น มีเพียงฟินหรือตีนกบ และหน้ากากดำน้ำ ด้วยลีลาพลิ้วไหว ท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามของท้องทะเลอยู่เสมอ
นทบอกว่า โชคดีที่เมืองไทยมีแหล่งดำน้ำสวยๆ เยอะมาก ไม่แพ้แหล่งดำน้ำชื่อดังของต่างประเทศ โดยเฉพาะที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งดำน้ำที่เธอประทับใจมากที่สุด เพราะนอกจากความสวยงามของแนวปะการังแล้ว ระบบนิเวศของที่นี่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ทำให้การดำน้ำหลายๆ ครั้งได้พบกับปลาทะเลหรือสัตว์ทะเลอื่นๆ แทบจะไม่ซ้ำกันเลย
“ดำน้ำทุกครั้ง ประทับใจทุกครั้ง ที่ชอบมากๆ คือ ได้เจอปรากฏการณ์ปลาข้างเหลือง ได้เจอม้าน้ำเกาะกลุ่มนับ 10 ตัว มันมหัศจรรย์มาก เราถึงอยากให้ธรรมชาติสวยๆ แบบนี้มันอยู่กับเราไปนานๆ”
เดินหน้าโปรเจกต์เพื่อสิ่งแวดล้อมใต้ทะเล
นทเล่าว่า ช่วงที่เริ่มเรียนดำน้ำใหม่ๆ ธรรมชาติใต้ท้องทะเลสวยมาก แต่ระยะหลังเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการทำร้ายธรรมชาติโดยความไม่ได้ตั้งใจของนักท่องเที่ยว ซึ่งเธอเองก็ยอมรับว่าช่วงที่ได้ลงไปสัมผัสโลกใต้น้ำใหม่ๆ เธอก็ไม่ต่างจากคนอื่น ที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความงดงามราวกับสวรรค์ใต้ท้องทะเล จนอดใจไม่ไหวที่จะไปแตะต้องและสัมผัสกับปะการังอย่างใกล้ชิด ซึ่งมารู้ภายหลังว่าการทำเช่นนั้นเป็นการทำลายธรรมชาติอย่างไม่รู้ตัว
“นทเชื่อว่านักท่องเที่ยวหรือนักดำน้ำมือใหม่หลายคน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำร้ายธรรมชาติ แต่เขาทำเพราะไม่รู้ เพราะบ้านเรามีคนพูดเรื่องนี้น้อยมาก ดังนั้นเมื่อเรารู้แล้ว เราก็ต้องแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นบ้าง อาศัยที่เราเป็นบุคคลสาธารณะ อาชีพการทำงานของเราคนรู้จักเยอะ เอามาช่วยเป็นกระบอกเสียง เป็นพลังผลักดันให้มันดัง”
จากนั้นเป็นต้นมา นทก็เริ่มกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและโลกใต้ทะเลอย่างจริงจัง ทั้งร่วมเป็นนักดำน้ำอาสาสมัคร ดำน้ำตัดเศษอวนใต้ทะเล หรือ ghost gear ปัจจุบันนทมีโปรเจกต์ของตัวเองที่ชื่อ “High On Your Own Supply” เป็นโปรเจกต์พัฒนาเด็กๆ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ให้เกิดการเรียนรู้อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยใช้สื่อศิลปะและดนตรี สื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีการจัดค่ายการศึกษานอกห้องเรียน เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ฝึกคิดและสร้างสรรค์ผลงานที่สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม เช่น การทำป้ายรณรงค์สำหรับนักท่องเที่ยว การผลิตสื่อวิดีโอ เป็นต้น ซึ่งก็ได้การตอบรับทั้งจากเยาวชนที่มาเข้าค่ายและนักท่องเที่ยวที่ได้เห็นผลงานของเด็กๆ เป็นอย่างดี
สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมดำน้ำ เพื่อสัมผัสความงามโลกใต้ทะเล หรือเพื่อร่วมทำกิจกรรมดีๆ เพื่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับนท แต่ยังไม่มั่นใจ กล้าๆ กลัวๆ ที่จะเรียนดำน้ำ นทแนะนำว่า ถ้าสนใจจริงๆ ก็ไปลองเรียนเลย จะได้รู้ว่าการดำน้ำมันสนุก มันดีอย่างที่นทหรือหลายคนพูดไว้หรือไม่
ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเรียนที่ไหน ซื้ออุปกรณ์อะไรบ้าง หรือถ้าเป็นนักดำน้ำที่กำลังมองหาทริปดำน้ำ อุปกรณ์ดำน้ำดีๆ อุปกรณ์เสริม กล้องถ่ายภาพใต้น้ำตัวใหม่ แนะนำให้ไปที่งาน Thailand Dive Expo 2023 (ไทยแลนด์ไดฟ์เอ็กซ์โป) ซึ่งจัดพร้อมกับงาน Thailand Golf Expo และ Outdoor Fest 2023 (ไทยแลนด์กอล์ฟเอ็กซ์โป และ เอาต์ดอร์ เฟสต์) รวมแพกเกจโรงแรมที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ ตีกอล์ฟ ปีนเขา แคมปิ้ง ที่ไม่ควรพลาด โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2566 เวลา 11.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 6-7 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการเข้าชมงาน และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.thailanddiveexpo.com