xs
xsm
sm
md
lg

รัฐเอื้อเอกชน ต้นเหตุวิกฤตฝุ่นพิษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาธิการมูลนิธิชีววิถีแจกแจงปัญหาหลักฝุ่นพิษมาจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรม ตัวการใหญ่ก็เป็นเอกชนไทยที่ต้องทำป้อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ แนะรัฐอยากแก้ปัญหาต้องกล้าจัดการบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง เหมือนที่สิงคโปร์เคยทำสำเร็จ



วันที่ 30 มี.ค. 2566 นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "รัฐเอื้อเอกชน ต้นเหตุวิกฤตฝุ่นพิษ"

นายวิฑูรย์กล่าวว่า ประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาปัญหาฝุ่นพิษกลายเป็นภัยพิบัติทั่วประเทศ ยุคแรกที่เกิดปัญหานี้อย่างชัดเจนก็คือยุคที่มีการขยายพื้นที่การปลูกพืชไร่ของไทยขนานใหญ่ และเกิดขึ้นพร้อมๆ กับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

จะพบว่าช่วงที่ฮอตสปอตสูงๆ ที่มีการขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพด ก็จะเป็นช่วงที่ข้าวโพดราคาสูง ชี้ชัดว่าแหล่งกำเนิดสำคัญมาจากการขยายพื้นที่เกษตรกรรม

เทียบทั้งประเทศพื้นที่เผามามากสุดจะเป็นอ้อย ประมาณ 61 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งปัญหาหลักในการก่อฝุ่นพิษในภาคกลาง ในประวัติศาสตร์การเผาเกิดที่ภาคเหนือก่อน มาระยะ 5-6 ปีที่ผ่านมา กทม. และภาคกลางถึงเกิดปัญหาฝุ่นพิษ สอดคล้องกับการขยายพื้นที่ปลูกอ้อยชัดเจน ส่วนข้าวโพดอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์ และส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ

ในช่วง 5 ปีหลังพื้นที่การเผาในพื้นที่เกษตรกรรมในประเทศเริ่มลดลง ใกล้เคียงกับการเผาในพื้นที่ป่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการจัดการทั้งภาคประชาชน เอกชน และรัฐบาล แต่มันไม่ได้อยู่แค่ในประเทศ ในประเทศลดลง แต่การขยายตัวของการผลิตอาหารสัตว์ ผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น ในประเทศรอบบ้านประเทศไทย ซึ่งก็เป็นเอกชนไทยที่ไปลงทุนไว้

นายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหา สิงคโปร์เคยเจอปัญหาแบบไทย เขาจัดการกับบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการปลูกปาล์มก่อนเลย ก็คือหากยังไปส่งเสริมการขยายพื้นที่ปลูกปาล์ม และค้าน้ำมันปาล์ม ที่มาจากการเผาป่ารัฐบาลไม่อนุญาตนำเข้าผลผลิตเหล่านั้น และสิงคโปร์ยังให้ค้าปลีกต้องรับผิดชอบด้วย

ส่วนของไทย รัฐกลับส่งเสริมเกษตรกรรมแปลงใหญ่ ตนคิดว่ารัฐบาลไทยอาศัยเอกชนในการสร้างความมั่นคง นโยบายทั้งหลายจึงเอื้อเอกชนมากกว่าเพื่อประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น