คปพ.แนะพรรคการเมืองหาเสียงลดราคาพลังงานต้องแจงสูตรให้ชัดว่าทำได้จริง ไม่ใช่ประกาศมั่วๆ พอถึงเวลาทำไม่ได้
วันที่ 1 มี.ค. 2566 นายรุ่งชัย จันทสิงห์ กรรมการเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "พรรคการเมืองตอบประชาชน อนาคตพลังงานไทย"
จากกรณีที่เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) จัดงานเสวนาพรรคการเมืองตอบประชาชน "อนาคตพลังงานไทย" ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา โดยเชิญตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วม
นายรุ่งชัยกล่าวว่า ภาพรวมทุกพรรคที่เข้าร่วมเห็นด้วยว่าโครงสร้างราคาพลังงานน้ำมันกับก๊าซเกิดจากโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม อย่างน้ำมันก็คือโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่นมีการอ้างอิงที่สิงคโปร์ย้อนหลัง 2 วัน แล้วก็บวกค่าใช้จ่ายสมมติว่านำเข้า ทำให้แพงขึ้น 1-1.50 บาท ถ้าแก้ตรงนี้ได้น้ำมันจะถูกลงหนึ่งบาท ประเด็นที่สองที่พรรคต่างๆ เห็นด้วย คือค่าการตลาดว่าควรควบคุมไม่ให้มีกำไรเกินควร ส่วน LPG ทุกคนเห็นด้วยว่าโครงสร้างไม่เป็นธรรม อ้างอิงต่างประเทศเหมือนกัน
ค่าไฟฟ้าก็เห็นด้วยว่าจะลดราคา แต่การโฆษณาว่าจะลดราคาก๊าซ ไฟฟ้า น้ำมัน ช่วยกรุณาให้รายละเอียดด้วย ว่าจะลดอย่างไร มันต้องแก้กฎหมาย แล้วมันกระทบผู้ประกอบการ ไปดูสูตรก่อนว่าคุณมีอำนาจหรือไม่ ถึงวันนั้นมันลดไม่ได้จะทำอย่างไร
นายรุ่งชัยกล่าวอีกว่า คนที่จะมาเป็น รมว.พลังงาน ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่จำเป็นต้องอยู่ธุรกิจพลังงานมาก่อน ขอให้เป็นนักบริหารที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
น่าจะมีกฎหมายห้ามรัฐมนตรี หรือข้าราชการระดับสูงไปนั่งในบอร์ดบริษัทพลังงานที่ตัวเองกำกับดูแล หลังเกษียณก็ต้องเลย 5 ปีไปแล้วถึงนั่งบอร์ดได้ เพราะต่อให้เกษียณไปก็ยังมีคอนเนกชันอยู่ ตนเชื่อว่าถ้าแก้ไขกฎหมายนี้ได้จะปฏิรูปสำเร็จ
นายรุ่งชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า ให้จับตาพรรคการเมือง พรรคไหนเสนอลดราคาพลังงานแบบสุดโต่ง ควรเขียนสูตรมาด้วย แสดงโครงสร้างที่มาที่ไป แล้วแสดงกฎหมาย มติ กบง.ที่ต้องไปแก้ ขนาดนายกฯ ปัจจุบันอำนาจเต็ม 8 ปี ยังสั่งไม่ได้เลย ประชาชนควรรู้ทันนักการเมือง ถ้าประกาศนโยบายมั่วเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือก เลือกที่เป็นไปได้ และเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วสิ่งที่หาเสียงไว้ ขอให้ทำตามที่หาเสียง
