1.เศร้า! "น้องดอม" 1 ใน 13 ทีมหมูป่า เสียชีวิตแล้วที่อังกฤษ หลังได้ทุนมูลนิธิซิโก้ไปเรียนฟุตบอลไม่ถึง 6 เดือน ครูเวรพบหมดสติในห้องพัก!
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข่าวเศร้า "น้องดอม" ดวงเพชร พรหมเทพ วัย 17 ปี 1 ใน 13 ทีมหมูป่า ที่เคยติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เสียชีวิตแล้ว ที่ประเทศอังกฤษ โดยเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Supatpong Methigo ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวการจากไปของน้องดอมว่า "ลูกศิษย์ดอมเสียชีวิตแล้ว" "เมื่อเช้าโยมยายของเจ้า #ดอมหมู่ป่าอคาเดมี่ (เราเคยสอนธรรมะให้สมัยประถม) มาใส่บาตรพระ แจ้งว่า น้องเสียชีวิตแล้ว บ้านน้องอยู่ใกล้กับวัดนี่ล่ะ น้องเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนมาก เขียนหนังสือตัวบรรจง สวดมนต์เก่ง ได้รางวัลจากเราตลอด.... ตอนติดถ้ำหลวงโยมยาย ก็ออกมาใส่บาตรขอพรพระทุกวัน ขอให้น้องรอด ขอมีปาฏิหาริย์..."
"อุตส่าห์รอดพ้นจากติดถ้ำหลวงมาได้ ไปเรียนโรงเรียนกีฬาที่ จ.เชียงใหม่ จนได้ทุนไปเรียนกีฬาต่อที่ประเทศอังกฤษ .." "โยมยายแจ้งว่า เสียเพราะอุบัติเหตุ ยังไม่แน่ชัด ขอให้ดวงวิญญาณเจ้าดอม" "ดวงเพชร พรหมเทพ ได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ภพภูมิที่เจ้าปรารถนา หวังว่าธรรมะของพระอาจารย์ที่ได้สั่งสอน จะติดตัวเจ้าไปทุกหนทุกแห่ง และเกิดชาติหน้าฉันใด ก็ขอได้มาเป็นลูกศิษย์กันอีก เน้อ #ripดอมหมู่ป่าอคาเดมี่"
ขณะที่มูลนิธิซิโก้ ของเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย ซึ่งน้องดอมได้รับทุนจากมูลนิธิฯ ไปเป็นนักเรียนฟุตบอลที่อังกฤษ ก็ได้ออกมาโพสต์ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจและร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของน้องดอม ดวงเพชร พรหมเทพ นักเรียนทุนมูลนิธิซิโก้ ส่วนรายละเอียดและสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น มูลนิธิซิโก้จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้านพ่อแม่และญาติพี่น้อง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับทีมหมูป่าอะคาเด ต่างอยู่ในภาวะเศร้าโศกเสียใจและติดตามข่าวสารจากประเทศอังกฤษอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ น้องดอมถือเป็นคนที่มีนิสัยดีและมีอัธยาศัยดี จนเป็นที่รักใคร่ของผู้คน แม้แต่ช่วงที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวงใหม่ๆ และมีการจัดพิธีวันแม่ น้องดอมยังเขียนข้อความบนกระดาษสา ระบุว่า "ผม ด.ช.ดวงเทพ พรหมเพชร ขอขอบคุณแม่ที่ช่วยดูแลผม...." ขณะที่ผู้คนในโลกออนไลน์ ต่างพากันแสดงความเสียใจต่อการจากไปของน้องดอมจำนวนมาก
ด้านนายนพรัตน์ กันทะวงศ์ หรือโค้ชนก หัวหน้าผู้สอนกีฬาฟุตบอลทีม Teen Talk (หมูป่า) Academy อ.แม่สาย ซึ่งเคยอยู่กับเยาวชนทีมหมูป่ามาเนิ่นนานตั้งแต่ก่อนจะเกิดเหตุติดถ้ำหลวง กล่าวว่า นับตั้งแต่รู้จักกับน้องดอม ก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของเขา และที่สำคัญ เขาเป็นคนมีอัธยาศัยดีมาก จนเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้คน ทั้งรุ่นพี่ เพื่อนฝูง และรุ่นน้อง…จากการที่ได้สัมผัสกับเขา ก็คาดหวังว่าอนาคตในวงการฟุตบอลของเขา จะยังก้าวหน้าไปอีกยาวไกล แต่เมื่อมาด่วนเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงรู้สึกช็อกมาก
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยเบื้องต้นว่า "น้องดอม" หกล้มภายในห้องพักได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจนเพื่อนๆ มาพบ และนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยที่ต้องใส่เครื่องหายใจอยู่ 2-3 วัน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้าน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย และปัจจุบันเป็นเฮดโค้ชของทีมฮองอันห์ยาลาย ในวีลีก เวียดนาม ประธานมูลนิธิซิโก้ ซึ่งมอบทุนให้"น้องดอม" ไปเรียนที่ฟุตบอลอังกฤษ ได้แถลงข่าวผ่านระบบ Zoom โดยมีครอบครัวของน้องดอมรับฟังด้วย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. โดยซิโก้กล่าวทั้งน้ำตาขณะยังอยู่ประเทศเวียดนามว่า ตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวน้องดอมมาก เพราะน้องดอมถือเป็นนักเรียนทุนที่มูลนิธิสนับสนุนให้ไปเรียนทั้งภาษาอังกฤษและฟุตบอลที่ Brooke House College Football Academy เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เขาได้แสดงความตั้งใจมั่นและมีแววด้านฝีเท้าในรายการต่างๆ มาก่อนหน้านี้ โดยน้องดอมฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพและติดทีมชาติไทยด้วย ทำให้มูลนิธิให้ทุนไปอังกฤษเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 เป็นต้นมา เพื่อให้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา หรือหากจะเรียนต่อถึงระดับมหาวิทยาลัยก็ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12 ก.พ.) ตนได้รับแจ้งว่า น้องดอมถูกพบว่าหมดสติอยู่ภายในห้องพักของตัวเองตามลำพัง เพราะเป็นวันหยุดและทุกคนออกไปนอกที่พักกันหมด ผู้ที่พบเป็นครูเวรที่ตรวจตามห้องต่างๆ จึงได้แจ้งโรงพยาบาลใกล้เคียงและนำตัวน้องดอมส่งไปรับการรักษาอย่างเร่งด่วน
กระทั่งผ่านไป 3 วัน ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าน้องมีการหายใจอ่อนลงและไม่ตอบสนองในที่สุด ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก ล่าสุดทางสถานเอกอัคราชทูตของไทยเราได้ประสานไปยังพ่อและแม่ของน้องดอมแล้ว เหตุการณ์ถือว่าเร็วมาก เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และตนจะรับประสานงานเพื่อจัดการเรื่องนี้ต่อไป เบื้องต้นคือรอเอกสารเกี่ยวกับการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดทางการแพทย์ จึงต้องรอให้มีการแจ้งอีกครั้ง
โค้ชซิโก้กล่าวอีกว่า ตามปกติน้องดอมเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง และตามกฎของการเดินทางไปต่างประเทศก็จะต้องมีการตรวจร่างกายประกอบการออกวีซ่าอยู่แล้ว รวมทั้งไม่เคยมีประวัติการป่วย เขาเป็นศูนย์หน้าที่วิ่งได้เร็ว ฉลาด มีความกระตือรือร้นในการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ เราก็ติดตามเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนที่เป็นเด็กไทยอยู่ด้วยหลายคน ส่วนการฝึกจนทำให้ปะทะกันก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะถ้ามีครูก็ต้องรับทราบ
“ตอนนี้ผมจึงตอบได้เพียงเท่านี้ ส่วนการจะนำร่างของน้องกลับประเทศไทยอย่างไรนั้น ทางกงสุลใหญ่ของไทยจะช่วยเหลือ โดยผมจะรับประสานงานให้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยอมรับว่ากำลังช็อกกับเรื่องนี้ รู้สึกเสียดายที่น้องดอมยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน และเป็นห่วงพ่อแม่ของน้องรวมถึงแฟนคลับด้วย”
ด้านนายบรรพต และนางธนพร พรหมเทพ บิดา และมารดา รวมไปถึงนางคำเอ้ย พรหมเทพ ย่าของน้องดอม ได้ขอร้องให้โค้ชซิโก้ช่วยประสานขอพระภิกษุที่ประเทศอังกฤษช่วยนำน้องออกจากโรงพยาบาลที่ประเทศอังกฤษเพื่อกลับบ้านเกิดด้วย โดยเฉพาะนางธนพรเกรงว่า ลูกชายจะหลงทางกลับบ้านไม่ได้ รวมทั้งอยากรับร่างของลูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนา อ.แม่สาย แต่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย รวมทั้งน้องดอมก็เกือบจะเป็นเสาหลักให้ทางบ้านแล้วด้วย
ด้านโค้ชซิโก้ได้ปลอบโยนและร้องไห้พร้อมรับปากว่า จะรับประสานงานให้ เพราะที่เมืองเลสเตอร์หรือแมนเชสเตอร์มีวัดไทยตั้งอยู่ด้วย ทั้งนี้ โค้ชซิโก้ระบุว่า น้องดอมเป็นเหมือนลูกของตนและบรรดาเพื่อนฝูงก็รักใคร่เขามาก ส่วนตัวเขาก็มุ่งมั่นโดยแจ้งว่า หากพ้นระยะเวลา 3 ปีก็อยากจะอยู่อังกฤษต่อด้วย ซึ่งตนก็พร้อมสนับสนุนให้เป็นรายแรกของมูลนิธิ แต่เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ก็รู้สึกช็อกมาก
วันต่อมา (16 ก.พ.) เพจ “Zico Foundation” ได้โพสต์ประกาศจาก “Brooke House College” และ “Brooke House College Football Academy” โรงเรียนมัธยมฟุตบอลที่น้องดอมเรียนอยู่ โดยทางเพจได้แปลเป็นภาษาไทย ใจความว่า "ครูใหญ่ของ Brooke House College รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า ดอมเสียชีวิตแล้วเมื่อบ่ายวันอังคาร หลังจากที่รีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาฉุกเฉินในวันอาทิตย์ โรงเรียนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของดอม ญาติของเขา และเพื่อนๆ ของเขาด้วย...”
ขณะที่ "โค้ชเอก" เอกพล จันทะวงษ์ อดีตโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่เคยไปติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนร่วมกับนักฟุตบอลเยาวชนที่มี "ดอม" เป็นกัปตันทีม ได้โพสต์ว่า "รอมาทั้งวัน ก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่ก็ไร้ซึ่งปาฏิหาริย์ใดๆ ข่าวที่ออกมาปกติจะเป็นแต่ข่าวปลอม แล้วทำไมครั้งนี้ไม่ใช่ข่าวปลอมเหมือนเคยละ ไหนว่าอีกสองปีให้ไปเชียร์ดอมตอนเล่นบอลให้ทีมชาติไง แล้วทำไมถึงผิดคำสัญญาละครับ แล้วไหนโปรแกรมที่จะกลับมาเตะกับน้องๆในทีมและปั่นจักรยานด้วยกันอีก ตั้งแต่เล็กจนโตก็บอกแต่อยากจะติดทีมชาติ แล้วทำไมถึงไม่ทำตามคำพูดละครับน้อง หลับให้สบายนะครับน้องชาย ชาติหน้ามีจริงเราคงได้พบกันใหม่นะครับน้องชาย ดอม ดวงเพชร พรหมเทพ น้องจะอยู่ในใจพี่ตลอดไป"
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีการจัดพิธีเชิญวิญญาณของน้องดอม ให้กลับมายังมาตุภูมิ บ้านเกิด อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยนำรูปน้องดอมขนาดใหญ่ มาตั้งไว้กลางวิหาร และทางคุณแม่น้องดอม ได้นำเสื้อผ้าที่น้องดอมชอบใส่ และรองเท้าคู่ใจมาวางไว้ เพื่อทำพิธีเรียกดวงวิญญาณ
ด้านนางธนพร พรหมเทพ มารดาของน้องดอมกล่าวทั้งน้ำตาว่า การได้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องดอมกลับประเทศครั้งนี้ ทำให้ทางตนและครอบครัวมีความสบายใจขึ้น โดยหวังว่าวิญญาณน้องดอมจะกลับมายังบ้านที่ประเทศไทย ที่เหลือคือการนำร่างของน้องดอมกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีของชาวล้านนา ซึ่งทราบว่าตอนนี้ทางประเทศอังกฤษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งทางครอบครัวเข้าใจดีว่าอาจจะมีขั้นตอนหลายอย่าง เพราะเราไปอยู่ประเทศเขา แต่ทางครอบครัวก็จะรอ โดยหวังว่าจะได้นำร่างของน้องดอมกลับมาภูมิลำเนาได้โดยเร็ว
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ได้ประสานงานในการจัดพิธีสวดอัญเชิญดวงวิญญาณน้อมดอม ณ โรงเรียน Brooke House College และพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่วัดมหาธาตุ สหราชอาณาจักร คิงส์บรอมลี่ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. พร้อมยืนยัน สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมทั้งได้พบผู้บริหารโรงเรียนฯ ได้หารือกันเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องต่างๆ ตามความประสงค์ของครอบครัวน้องดอม
2.รวบ “เบนซ์ เดม่อน” มาเก๊า 888 ตามหมายจับคาสนามบิน คอตก นอนคุก หลังศาลไม่ให้ประกัน แม้ยื่นหลักทรัพย์ 12 ล้าน โทษสูงหวั่นหลบหนี!
ความคืบหน้าคดีเว็บพนันออนไลน์ "มาเก๊า 888" หลัง ดิว อริสรา นักแสดงสาว ออกมาโพสต์แฉพี่น้อง 4 บ. โดยหนึ่งในนั้นมีนายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ "เบนซ์ เดม่อน" ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต และเป็นอดีตคนรักของดิวด้วย ต่อมา ตำรวจ บช.สอท. และตำรวจ PCT ร่วมกันขยายผลทลายเครือข่าย "มาเก๊า 888" เและออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้ง "เบนซ์ เดม่อน" อายุ 37 ปี ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
ปรากฏว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ก.พ. “เบนซ์ เดม่อน” ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง โดยสายการบินไทย มายังประเทศไทย เพื่อสู้คดีฐานเป็นเจ้าของเว็บพนันมาเก๊า 888 เมื่อมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เบนซ์ เดม่อน ได้ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคุมตัวหลังจากลงเครื่องบินทันที เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา จากนั้นได้ส่งตัวให้ตำรวจ บช.สอท. เพื่อดำเนินการสอบปากคำต่อไป
ต่อมา นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนายชัยวัฒน์ เผยหลังเข้าพูดคุยกับพนักงานสอบสวน ว่า นายชัยวัฒน์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และพร้อมสู้คดีในชั้นศาล และว่า "เบนซ์ เดม่อน" มีความเครียด เนื่องจากไม่เคยเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และมีโรคประจำตัว เป็นโรคซึมเศร้า โดยมีเอกสารทางการแพทย์มายืนยันกับเจ้าหน้าที่
นายพิสิษฐ์ เผยอีกว่า น้องชายของเบนซ์ เดม่อน อีก 2 คน ที่ถูกดาราสาวโพสต์พาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันมาเก๊า 888 ไม่ได้เดินทางเข้าประเทศไทยมาด้วย เพราะไม่ได้ถูกออกหมายจับ
มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่เบนซ์ เดม่อน จะเดินทางถึง บช.สอท.3 ได้ระบุกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า “ผมมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องเว็บไซต์พนันออนไลน์ และไม่อยากพูดอะไรเพิ่มเติม”
วันต่อมา (15 ก.พ.) พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ได้คุมตัวเบนซ์ เดม่อน ไปขอศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขัง ข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันฟอกเงิน
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์ว่า พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สุขไทย ผู้กล่าวหาที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี สารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนเว็บไซต์การพนันออนไลน์ www.huaysodplus.com ซึ่งมีการร้องเรียนอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ พบเป็นเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่มีการชักชวนเล่นการพนันในรูปแบบต่างๆ เช่น บาคาร่า สล็อต ล็อตเตอรี่ หวย ฯลฯ จึงได้ให้สายลับขอปกปิดนาม (เพื่อหวังเงินรางวัลนำจับ) ทำการสมัครเป็นสมาชิกทำการโอนเงินและร่วมเล่นการพนันสมัครเป็นสมาชิกทำการโอนเงินและร่วมเล่นการพนันดังกล่าว
จากแนวทางการสืบสวนได้พบการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนายชัยวัฒน์ หรือเบนซ์ เดม่อน ผู้ต้องหานี้ ได้ร่วมกันกับพวกรวม 13 คน ชักชวนให้ลูกค้าซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) บาคาร่า รวมถึงสายลับด้วย และยังพบว่าผู้ต้องหากับพวกรวม 13 ราย มีการโอน รับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันได้แก่ เงินหมุนเวียนในบัญชีที่ได้มาจากการชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้ามาร่วมเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ต้องหากับพวกรวม 13 รายนี้ มีการถ่ายโอนทรัพย์สินระหว่างกันอย่างชัดเจน จึงได้ทำรายการสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชา และผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 13 คน
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับลักษณะการกระทำความผิดของผู้ต้องหา เป็นเครือข่าย หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี และยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง
ด้านศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้ หลังจากนั้น ญาติของนายชัยวัฒน์ หรือเบนซ์ เดม่อน ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีอัตราโทษสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ถือว่าข้อหาหนัก พฤติการณ์เป็นขบวนการก่อความเสียหายแก่สังคมร้ายแรง ขัดต่อศีลธรรม พยานหลักฐานปรากฏเส้นทางการเงินจากพนันเข้าบัญชีของผู้ต้องหาจำนวนหลายล้านบาท อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านประกัน ทำให้น่าเชื่อว่าอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานระหว่างสอบสวนได้ กรณีไม่สมควรให้ประกัน ให้ยกคำร้อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงพาตัวผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
3. ศาลแพ่งลดคุ้มครอง "แทนไท" หลัง "สนธิ" งัดคำพิพากษาศาลเคยยึดทรัพย์แทนไทเปิดเว็บพนัน-ฟอกเงิน ด้านสภาสื่อชี้ แทนไทฟ้องสนธิ เข้าข่ายใช้ ก.ม.ปิดปากสื่อ!
จากกรณีที่นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ในฐานะผู้ดำเนินรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ค (Sondhitalk)” ต่อศาลแพ่งและศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านบาท กรณีนายสนธิกล่าวในรายการว่า นายแทนไทได้เงินจากการทำผิดกฎหมาย ดำเนินธุรกิจสีเทา รวมทั้งมีการฟอกเงิน พร้อมขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวให้นายสนธิหยุดเผยแพร่ข้อความที่หมิ่นประมาท ซึ่งศาลแพ่งได้ไต่สวนและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยห้ามนายสนธิพูดถึงนายแทนไทในลักษณะดังกล่าว และห้ามพูดว่าบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ รวมทั้งให้ระงับการเข้าถึงคลิปรายการที่เคยพูดถึงนายแทนไททั้งหมด
ขณะที่นายสนธิ กล่าวในรายการเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า ตนเป็นสื่อมวลชน แล้วเอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาพูดจากคำพิพากษาที่ศาลแพ่งเคยพิพากษาว่า นายแทนไทเปิดเว็บพนัน ฟอกเงิน แล้วสั่งยึดทรัพย์ไป 176 ล้าน แล้วศาลกลับมีคำสั่งคุ้มครองนายแทนไท ที่โดนศาลแพ่งพิพากษายึดทรัพย์ แล้วสั่งให้ตนลบข้อมูลที่คาดว่าจะหมิ่นประมาทนายแทนไททั้งหมด
ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นายสนธิ พร้อม น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินคำร้องฯ ด้วย
ซึ่งหลังจากศาลแพ่งไต่สวนนายสนธิ ศาลจึงมีคำสั่งว่า พยานหลักฐานที่จำเลยได้นำสืบมา ปรากฎหลักฐานในเบื้องต้นว่า ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ระบบคอมพิวเตอร์ คือบริษัทอื่นซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี และจำเลยมีสำเนาคำสั่งของศาลแพ่งเกี่ยวกับคดีฟอกเงินโดยความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการเล่นการพนัน มีชื่อโจทก์ เป็นผู้คัดค้านที่ 1 จึงมีคำสั่งใหม่เป็น ห้ามจำเลยพูดหรือแสดงข้อมูลใดๆ ว่า บริษัทไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นลักกระแสไฟฟ้า เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ด้านคณะกรรมการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้จัดให้มีการประชุมเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาและแสดงความกังวล คือกรณีที่มีความพยายามใช้กระบวนการทางกฎหมายเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยมีการยกตัวอย่างการแทรกแซงหลายกรณี เช่น การฟ้องร้องคดีและขอให้สื่อมวลชนยุติการเสนอข่าว ซึ่งล่าสุดคือกรณีนายแทนไท ณรงค์กูล ได้ให้ทนายความยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ในฐานะผู้จัดรายการ “สนธิทอล์ก” ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท
โดยที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า กรณีดังกล่าวเป็นการใช้กฎหมายเพื่อปิดปากสื่อมวลชน และอาจจะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 34 และมาตรา 35 หรือไม่ โดยมาตรา 34 บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจํากัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทํามิได้เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เว้นแต่โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน” และในมาตรา 35 วรรคแรก บัญญัติว่า “บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร หรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ”
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หาทางออก โดยนอกจากจะมีการจัดเสวนาแล้ว อาจจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า กรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามนายสนธิกล่าวพาดพิงถึงนายแทนไท รวมทั้งสั่งให้ลบข้อมูลออกจากระบบนั้น ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 และ 35 หรือไม่ รวมทั้งอาจยื่นร้องต่อคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ให้พิจารณาเรื่องนี้ด้วย
4. ดีเอสไอส่งฟ้อง "ดีเจแมน-ใบเตย" พร้อมพวก คดีโกงแชร์ Forex-3D แล้ว ด้านอัยการนัดฟังคำสั่ง 16 มี.ค.นี้!
จากกรณีที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้มีหนังสือแนะนำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน คดี Forex-3D เพิ่มเติมอีกจำนวน 16 ราย และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว จำนวน 8 ราย ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 12 และ มาตรา 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 มาตรา 14 และเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน จำนวน 8 ราย โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ นำสำนวนคดีพิเศษ จำนวน 42 แฟ้ม 18,450 แผ่น พร้อมตัวผู้ต้องหา ไปส่งมอบแก่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน และบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนใน Forex-3D อันเกิดจากการกระทำของดารา นักร้อง นักแสดง บุคคลผู้มีชื่อเสียงหรือบุคคลใดๆ ให้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษขอยืนยันว่า หากพบพยานหลักฐานว่ามีผู้ใดกระทำความผิดเพิ่มเติมอีก กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ 8 รายชื่อ ที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเห็นควรสั่งฟ้อง พบว่า มีชื่อนายพัฒนพล มินทะขิน สกุลเดิม กุญชร ณ อยุธยา หรือดีเจแมน, น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย และนายดาริล ยัง แฟนหนุ่ม ของซาร่า คาซิงกินี รวมอยู่ด้วย
วันเดียวกัน (14 ก.พ.) ด้านนายโกศลวัตน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยหลังพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำสำนวนคดีแชร์ Forex-3d มาส่งให้อัยการสำนักงานคดีพิเศษว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ ทางนายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ จะนำเสนอรายงานการรับคดีและสำนวนส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาตามคำสั่ง และว่า ตนยังไม่เห็นสำนวน จึงไม่ทราบว่ามีชื่อบุคคลใดเป็นผู้ต้องหาในสำนวนนี้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ทางอัยการจะตรวจสอบสำนวนอย่างละเอียด และเร่งรัดให้ทันกรอบฝากขังตามขั้นตอนกฎหมายอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า อัยการคดีพิเศษได้นัดฟังคำสั่งว่า จะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 16 มี.ค.นี้
ด้าน "ใบเตย" ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรม โดยโพสต์ภาพคู่ "ดีเจแมน" สามี พร้อมระบุแคปชั่นว่า "ขอบคุณสำหรับทุกความห่วงใย ทุกสายที่โทรเข้ามา ก่อนอื่นเลยใบเตยต้องชี้แจงก่อนว่า ข่าวที่ได้ถูกนำเสนอไปในวันนี้ ในรูปแบบข้อเท็จจริงขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นเราต้องพบ Dsi ตั้งแต่เริ่ม พอทาง Dsi สั่งฟ้องก็ต้องไปต่อที่อัยการ ซึ่งเป็นตามขั้นตอนของกฎหมายค่ะ ใบเตยและพี่แมนก็ได้ทราบเบื้องต้นในหลักกฎหมายตรงนี้มาตลอด วันนี้ก็ได้ไปรายงานตัวต่อทางสำนักอัยการเรียบร้อย ปล (และเรายังไม่ได้โดนอัยการสั่งฟ้องนะคะ) นับจากนี้ทางอัยการก็จะพิจารณาต่อไปค่ะ นี่คือความจริงตามหลักกฎหมายในตอนนี้ค่ะ”
5. ศาลอาญาออกหมายจับ "ทอม เครือโสภณ" นักธุรกิจดัง เบี้ยวฟังคำพิพากษาคดีหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล"!
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ เป็นโจทก์ฟ้องนายจุลภาค หรือ ทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท
คดีนี้ โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2563 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่ชื่อ Tom Julpas Kruesopon ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ติดตามเฟซบุ๊กของจำเลยสามารถมองเห็นรับรู้และเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้
โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2563 จำเลยใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม โดยแพร่ภาพและคลิปผ่านเฟซบุ๊กทำนองว่า เราต้องหยุดหลอกตนเองเสียทีว่าประเทศไทยไม่มีการโกงกิน แต่คนที่เขาอยู่รอดได้ คือเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่การโกงกินเป็น แต่พอมาทักษิณ มันไม่... เขาเรียกว่าอะไรล่ะ... มันไม่แบ่งเค้กกัน... ก็เลยทำให้คนที่เขาอยากกินด้วย เขาอึดอัดขึ้นมา อาทิ สนธิ ลิ้มทองกุล อันนี้คุณต้องเข้าใจเรื่องสนธิ ลิ้มทองกุล นะ ผมขอโทษทีนะ ถ้าเล่าไปเล่ามานะ และข้อความทำนองว่า ผมจะมาเล่าฟังว่าจุดแตกหักคืออะไร จะได้เข้าใจว่า ทำไมคุณทักษิณวันนี้ถึงไม่อยู่ประเทศไทยแล้ว คุณทักษิณเป็นคนที่ถืออำนาจอยู่ในมือทุกอย่าง แล้วตอนนั้นก็จะมี license (ใบอนุญาต) เรื่องทีวีออกมาใหม่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่คิดว่าเขาสนับสนุนคุณทักษิณ รักคุณทักษิณ คุณทักษิณเป็นคนที่ช่วยปลดหนี้ให้คุณสนธิเป็นพันๆ ล้าน และข้อความอื่นที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข้อความเท็จทั้งสิ้น เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง ดังนั้นการที่จำเลยแพร่ภาพสดและวีดีโอ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้ว่า การที่โจทก์ออกมาต่อต้านนายทักษิณ ชินวัตร ในช่วงปี 2548-2552 เกิดจากการไม่ได้รับส่วนแบ่ง หรือไม่ได้รับผลตอบแทนตามสัญญาจากนายทักษิณ ชินวัตร และทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นคนปลดหนี้เป็นพันๆ ล้าน ทั้งที่ความจริงแล้ว โจทก์ไม่เคยมีสัญญาหรือมีข้อตกลงว่า จะต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทน และในขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมี license (ใบอนุญาต) ทีวีใหม่ๆ ออกมาแต่อย่างใด
เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ ในระหว่างการสืบพยาน นายจุลภาค หรือทอม จำเลย ได้แถลงต่อศาล ยอมรับสารภาพ และขอเจรจาไกล่เกลี่ย โจทก์จึงขอให้จำเลยลงข้อความขอโทษลงในเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน และทำข้อตกลงให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน 3 แสนบาท แต่ปรากฏว่า จำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ โดยยังไม่ลงข้อความขอโทษลงในเฟซบุ๊ก จึงขอให้ศาลนัดฟังคำพิพากษา
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 17 ก.พ. นายสนธิ โจทก์ และ น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ เดินทางมาศาล ส่วนจำเลย ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา เมื่อถึงเวลานัด ทนายโจทก์แถลงว่า ได้มีการติดต่อจำเลยทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจะส่งข้อความที่จะให้จำเลยโพสต์ข้อความขอโทษและกล่าวขอโทษโจทก์แล้ว แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงตามที่แถลงไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 20 ธ.ค.2565 โจทก์ได้ติดตามทวงถามเพื่อให้จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงหลายครั้ง แต่จำเลยยังคงเพิกเฉย มีเพียงการชำระค่าเสียหายให้กับโจทก์เพียง 2 งวด เป็นเงินจำนวน 200,000 บาทเท่านั้น ซึ่งจำเลยยังคงค้างชำระเงินค่าเสียหายอีก 1 งวด จำนวน 100,000 บาท จนถึงปัจจุบันจำเลยก็ยังไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงให้ครบถ้วน จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำเลย
ด้านศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วแต่ไม่มาศาล และไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงไม่อาจมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยในวันดังกล่าวได้ ให้ยกคำร้องจำเลยไม่มาศาล โดยไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้อง และเจ้าหน้าที่ศาลได้ประกาศเรียกตัวจำเลยเข้าห้องพิจารณาแล้ว กรณีมีพฤติการณ์แสดงว่า จงใจไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงให้ครบถ้วนและหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จึงให้ออกหมายจับจำเลยเพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษา และถือว่านายประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับนายประกันเต็มสัญญา และเลื่อนไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 มี.ค.2566 เวลา 09.00 น.