xs
xsm
sm
md
lg

“หมอธีระ” เผยหนาวนี้ นทท.ยุโรปแห่มาไทย หวั่นสายพันธุ์ของโควิดเปลี่ยน แนะ ปชช.เพิ่มความระวังตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ เผยล่าสุดไทยพบการติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2.75 มากที่สุด เป็น 58% เชื่อปลายปี 65 นักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่หนีหนาวเข้าไทยจำนวนมากอาจทำสายพันธุ์ของโควิด-19 เปลี่ยนแปลง เตือน ปชช.เพิ่มการระวังพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน และสวมใส่หน้ากากให้ถูกวิธี

วันนี้ (29 พ.ย.) เฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า “จากข่าวหนึ่ง "ไทยพบการติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2.75 มากที่สุด เป็น 58% เนื่องมาจากมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น" ข้อสังเกตตรงไปตรงมา เป็นไปตามที่มีการประเมินไว้จากหลักฐานวิชาการด้านการระบาดและการแพทย์ ซึ่งน่าจะเป็น BA.2.75.2 ที่มีสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกันสูง

การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อกระตุ้นภูมินั้นจำเป็นก็จริง แต่ที่จำเป็นยิ่งกว่า คือการบอกกล่าวเล่าแจ้งให้ประชาชนทราบว่าพฤติกรรมป้องกันตัวระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องคือหัวใจสำคัญในการป้องกันตัวเอง

สอง "คาดว่าในช่วงปลายปี 2565 นี้ที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว จะมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่หนีหนาวเข้าไทยอีกจำนวนมากอาจทำให้สายพันธุ์ของโควิด-19 ที่พบในไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปอีก อาจพบสายพันธุ์ XBB มากขึ้นจากชาวยุโรป"

ข้อสังเกต ข้อความข้างต้นไม่น่าจะสอดคล้องตามหลักวิชาการ XBB และ BA.2.75.x พบมากในทวีปเอเชีย ดังนั้นหาก XBB จะปะทุขึ้น ย่อมน่าจะมาจากประเทศเอเชียด้วยกันเอง เช่น สิงคโปร์ หรือประเทศใกล้เคียงอื่นๆ

หน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้ามามากนั้น ที่น่าจะเข้ามาคือ BQ.1.x มากกว่า ไม่ใช่ XBB

ดังนั้น ส่วนตัวจึงเชื่อว่าไทยมีแนวโน้มจะระบาดจากซุปสายพันธุ์หลากหลาย และแม้จะมีทั้ง XBB, BA.2.75.x และ BQ.1.x ก็ตาม หากติดตามไปในอนาคต โอกาส BQ.1.x จะก้าวมานำ จะมีสูงกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่น เพราะ growth advantage สูง ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอติดตามกันไป เพราะปรากฏการณ์ซุปถ้วยนี้มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งสัดส่วนผู้ครองการระบาด พฤติกรรมป้องกัน ชนิดและความครอบคลุมของวัคซีน เงื่อนเวลา ฯลฯ”

คลิกโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น