เผยที่มา "เวหา แสนชนชนะศึก" นักเคลื่อนไหวม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ถูกจับครั้งล่าสุด พบทำทีเป็นนั่งร่วมพิธีทอดกฐินในศาลาการเปรียญ แต่งตัวดี อาศัยจังหวะร่วมตรวจนับเงิน ฉวยโอกาสลักเงินสดก่อนออกจากวัด
วันนี้ (6 พ.ย.) จากกรณีที่ทวิตเตอร์ @jjookklong3 หรือ เจ๊จุก คลองสาม ได้เผยแพร่ภาพตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จับกุม นายเวหา แสนชนชนะศึก อายุ 38 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมืองม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ในความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ภายในศาลาการเปรียญ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม หมู่ 5 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
อ่านประกอบ : "เวหา" อีกแล้ว ติดกำไลอีเอ็มคดีแอร์ไม่เย็นแท้ๆ ล่าสุดตำรวจรวบคดีล่าสุดลักทรัพย์ในวัด
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ศาลาการเปรียญวัดราษฎร์ศรัทธาราม (วัดปากลาดเก่า) มีการจัดงานทอดกฐิน โดยมีนายประกอบ ทองจันทร์ เป็นเจ้าภาพ ปรากฏว่าระหว่างการตรวจนับเงินเพื่อถวายแด่ทางวัด มีคนร้ายทำทีมาร่วมพิธีในงานทอดกฐิน ลักเงินในกองกฐินแล้วออกจากวัดไป ภายหลังนายประกอบได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สมศักดิ์ ขอเทียม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก สืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชาย รูปร่างสันทัด อายุประมาณ 35-40 ปี แต่งกายดี ทำทีเป็นนั่งร่วมพิธี บริเวณที่นั่งฝั่งเจ้าภาพและคณะผู้ใหญ่ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ มาถึงขั้นตอนการนับเงินปัจจัยเพื่อรอสรุปยอดถวาย ชายคนดังกล่าวอาศัยจังหวะนั้นแฝงตัวเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจนับเงิน ก่อนฉวยโอกาสลักเงินสดประมาณ 110,000 บาท แล้วออกจากวัดโดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 698 พิษณุโลก เป็นยานพาหนะ
ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี พร้อมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ กระทั่งทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนายเวหา แสนชนชนะศึก อายุ 38 ปี จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายจับ และเข้าตรวจค้นบ้านนายเวหา เมื่อวันที่ 4 พ.ย. พบของกลางเงินสด รถจักรยานยนต์ เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ เสื้อเชิ้ตคอจีนแขนยาวสีขาว รองเท้าผ้าใบสีเทา หมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ กระเป๋าผ้าสีขาว แว่นตากรองแสง โทรศัพท์มือถือ และของกลางอีกหลายรายการ
พร้อมกันนี้ สภ.เมืองพิษณุโลกได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยช่วงทำบุญทอดกฐิน ให้ทางคณะเจ้าภาพและวัดช่วยกันสังเกตบุคคลหรือมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาฉวยโอกาสก่อเหตุลักทรัพย์เงินทำบุญในลักษณะดังกล่าว
สำหรับนายเวหา ปัจจุบันมีคดีมาตรา 112 อยู่ 2 คดี คือ คดีแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก กับโพสต์ข้อความละเมิดอำนาจศาล และคดีโพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันลงในทวิตเตอร์ แต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ส่วนคดีฉ้อโกงจัดงานวิ่งเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน 2017 ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2561 จำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี