xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : ล้างบางแก๊งศูนย์เหรียญ | โศกนาฎกรรมอิแทวอน | โหนกระแสกฎหมายขายชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ต.ค. - 5 พ.ย. 2565)


อันดับ 1 : ล้างบางแก๊งศูนย์เหรียญ "ต่อศักดิ์-บิ๊กโจ๊ก" ลุยค้นเครือข่ายทุนสีเทาชาวต่างชาติ ยึดทรัพย์มาได้นับร้อยล้าน

กรณีตำรวจตรวจค้นอาคารจินหลิง และอาคารลีลา ย่านสาทร กรุงเทพฯ ลักลอบเปิดสถานบันเทิงและค้ายาเสพติดเมื่อวันที่ 26 ต.ค. มีการขยายผลจับกุมต่อเนื่อง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตรวจค้นสถานบันเทิง ผับ บาร์ บ้านพัก อาคาร ที่พัก บริษัทของนายทุนต่างชาติและนอมินีรวม 42 จุด หนึ่งในนั้นคือบ้านนายเดวิด หรือนายสุ่ย ไท่ เหว่ย ผู้บริหารร้านเบบี้เฟซย่านเอกมัย ยึดรถยนต์หรูโรลส์รอยซ์ รถเฟอร์รารี่ และรถลัมโบร์กินีป้ายแดง 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า นายเดวิดเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ สถานบริการผิดกฎหมาย และยาเสพติด

วันต่อมา ตำรวจไซเบอร์ตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ซึ่งขยายผลจากรถหรูปอร์เช่ ที่ยึดจากอาคารจินหลิง จับผู้ต้องหา 15 คน พร้อมเงินสด 42 ล้านบาท รถหรูกว่า 10 คัน โฉนดที่ดินหลายรายการ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยมีหัวหน้าแก๊งวัย 25 ปี สวมบัตรประชาชนไทย ถือพาสปอร์ตทั้งไทยและกัมพูชา อีกวันหนึ่งค้นห้องชุดหรูกลางกรุง อาคารมหานคร และอาคารบันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ พบเงินสด 19 ล้านบาท รถหรูโรลส์รอยซ์ 1 คัน รถเบนซ์ 2 คัน รถตู้ 2 คัน เครื่องประดับราคาแพง รวมมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท เจ้าของคือนายหวังเจิ้นหนาน หลานชายนายตู้ ห่าว แต่เจ้าตัวรู้ทันหลบหนีขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปสิงคโปร์


อันดับ 2 : โศกนาฎกรรมอิแทวอน ผู้คนเบียดเสียดทางขึ้นเนิน ตาย 156 บาดเจ็บ 173 ราย หนึ่งในนั้นคือครูสาวชาวไทย

โศกนาฎกรรมย่านอิแทวอนในเกาหลีใต้ และหนึ่งในนั้นมีคนไทยเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค. เกิดเหตุผู้คนจำนวนมากที่มาร่วมฉลองปาร์ตี้วันฮาโลวีนบริเวณซอยสถานบันเทิงข้างโรงแรมฮามิลตัน เยื้องกับสถานีรถไฟใต้ดินอิแทวอน ซึ่งซอยดังกล่าวมีลักษณะเป็นซอยแคบ และเป็นทางขึ้นเนินยาว 40 เมตร แต่ผู้คนเบียดเสียดกัน กระทั่งมีคนล้มลงเป็นโดมิโน ถูกทับเป็นชั้นๆ ขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส มีผู้เสียชีวิตวันเกิดเหตุรวม 153 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวม 156 ราย โดยมีชาวต่างชาติ 26 คน หนึ่งในนั้นคือ น.ส.ณัฐธิชา มาแก้ว หรือแบมแบม อายุ 27 ปี ครูสอนภาษาเกาหลี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์

ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ได้ดำเนินการส่งร่างของ น.ส.ณัฐธิชากลับประเทศไทยในวันที่ 4 พ.ย. พร้อมประสานเงินช่วยเหลือจากประเทศเกาหลี ได้แก่ เงินชดเชย 20 ล้านวอน และค่าจัดงานศพ 15 ล้านวอน รวม 35 ล้านวอน หรือประมาณ 930,000 บาท ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ทางการเกาหลีใต้กำลังตรวจสอบว่าตำรวจและดับเพลิงบกพร่องต่อหน้าที่หรือไม่ เพราะวันเกิดเหตุสายด่วนตำรวจได้รับแจ้งเหตุผู้คนเบียดเสียด 11 ครั้ง แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ด้านผู้บาดเจ็บ 173 คน กลับบ้านแล้ว 135 คน รักษาตัว 38 คน ทั้งหมดจะได้รับเงินชดเชย 5-10 ล้านวอน หรือประมาณ 130,000-270,000 บาท


อันดับ 3 : โหนกระแสกฎหมายขายชาติ ดาหน้าค้านรัฐบาลแก้กฎหมาย ต่างชาติลงทุน 40 ล้าน ซื้อที่ดินอยู่อาศัยได้ 1 ไร่

กรณีร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว โดยให้ต่างชาติที่นำเงินมาลงทุนในประเทศไทย 40 ล้านบาทขึ้นไป เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี สามารถซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ 1 ไร่ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ถูกฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยโจมตีว่าเป็นกฎหมายขายชาติ ทั้งที่เป็นการปรับปรุงกฎหมายฉบับเดิมเมื่อปี 2545 สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่เปิดช่องให้คนต่างด้าวซึ่งประสงค์จะได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ โดยไม่ได้กำหนดกรอบของที่ดินที่ซื้อได้ คราวนี้ให้รัดกุมเฉพาะชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 3 ปี

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่า มาตรการนี้ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากวิกฤตโควิด-19 ไม่มีเจตนาขายชาติ และจะออกกฎเกณฑ์ไม่ให้ซื้อที่ดินแปลงติดกัน อีกทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องนำไปรับฟังความเห็นประชาชนก่อน อาจกำหนดให้เข้มงวดหรือยากกว่านี้ หรืออาจจะล้มเลิกไปเลย ส่วนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า การซื้อที่ดินต้องใช้เพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น ใครทำผิดเงื่อนไขถูกยกเลิกสิทธิ์ได้ตลอดเวลา ส่วนที่กังวลว่าจะเป็นช่องทางฟอกเงินนั้น มีการคัดคุณสมบัติคนซื้อ ทุกวันนี้นักลงทุนมองประเทศไทยเป็นฐานลงทุนใหม่ อย่ามองประเทศเชิงลบ


อันดับ 4 : ล้างบางครูยุ่น กลุ่มเส้นด้ายแจ้งเอาผิดทำร้ายจิตใจเด็ก ปิดตำนานไม่ต่อใบอนุญาตมูลนิธิคุ้มครองเด็ก

เมื่อวันก่อน กลุ่มเส้นด้าย ไปแจ้งความที่ สภ.อัมพวา ให้ดำเนินคดีกับนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และอดีต ส.ว. ข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจเด็ก และใช้แรงงานเด็กโดยผิดกฎหมาย หลังบนโซเชียลฯ แชร์คลิปครูยุ่นทำโทษใช้ไม้ตีเด็กในมูลนิธิฯ และใช้คำพูดรุนแรง ก่อนจะพาตำรวจไปช่วยเหลือกลุ่มเด็กที่ถูกทำร้ายออกมาได้ 8 คน ต่อมาวันที่ 3 พ.ย. นายมนตรีเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เปิดใจยอมรับว่าตีเด็กจริง เพราะมีกฎระเบียบคาดโทษไว้แล้ว เด็กเบอร์ 1 พาน้องที่ว่ายน้ำไม่เป็นลงไปเล่นน้ำในคลอง หากเกิดอะไรขึ้นใครจะรับผิดชอบ ตอนนี้ถูกมองว่าเป็นปีศาจไปแล้ว พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ด้านคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดสมุทรสงคราม มีมติไม่ต่อใบอนุญาตมูลนิธิคุ้มครองเด็ก หลังหมดอายุเดือน ม.ค. 2566 ส่วนนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุว่านำเด็กออกมาแล้ว 29 คน ที่เหลืออีกกว่า 20 คน ติดพี่เลี้ยงไม่อยากออก ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจทั้งกับเด็กและพี่เลี้ยงผู้ดูแล ยืนยันว่าทำตามอำนาจหน้าที่ ส่วนนายพิรัตน์ ปานรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนถาวรวิทยา ที่มีมีเด็กนักเรียนจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กเข้ามาเรียน 47 คน วอนเจ้าหน้าที่ พม. ที่นำตัวเด็กไป พากลับมาเข้าเรียน เพราะเด็กขาดเรียนหลายวัน เกรงว่าชั่วโมงเรียนจะไม่พอเข้าเกณฑ์สอบปลายภาค


อันดับ 5 : งามหน้าสวมบัตรประชาชน เทศบาลเมืองตราดทำให้นายทุนจีนใช้นาน 30 ปี เรื่องแตกตำรวจตามจับผับดังพัทยา

เรื่องอื้อฉาวสวมบัตรประชาชนเกิดขึ้นสืบเนื่องจากหน่วยคอมมานโดบูรพา 491 เข้าจับกุม นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือกู๋เอี๋ยว อายุ 45 ปี สัญชาติจีน เจ้าของผับดังคลับวัน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มีการปะทะคารมระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของผับ ส่วนนักเที่ยวกว่า 200 คนแตกฮือหลบหนี ยาเสพติดเกลื่อนพื้น ปรากฎว่านายนิติพัฒน์ สวมบัตรประชาชนผู้อื่น ที่ออกโดยอำเภอเมืองตราด ตั้งแต่ปี 2535 ทำให้นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าออกโดยสำนักงานเทศบาลเมืองตราด การสวมสิทธิบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยที่พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตไม่รู้เรื่อง

ส่วนการติดตามหาตัวเจ้าพนักงานที่ออกบัตรนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ออกบัตรยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เนื่องจากเป็นการออกบัตรที่ผ่านมานานถึง 30 ปี ขณะที่ นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด ระบุว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2535 เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำการทุจริตน่าจะมีอายุ 70-80 ปีแล้ว หรืออาจจะเสียชีวิตไปแล้ว โดยยืนยันว่าปัจจุบันการทุจริตทำบัตรประชาชนทำได้ยากเพราะใช้ระบบออนไลน์ในการประสานข้อมูล นอกจากนี้มีรายงานว่า พื้นที่ จ.ตราด พบการสวมบัตรประชาชนใน อ.เมืองตราด และ อ.บ่อไร่ ทำให้มีปลัดอำเภอ และอดีตนายอำเภอ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทะเบียนถูกดำเนินคดีและถูกไล่ออกมาหลายราย

ส่วนกรณีที่ตำรวจจับกุมเครือข่ายผับจินหลิง พบนายหลิน เหยียน มีบัตรประชาชนคนไทยชื่อ นายยะปะสอ สวรรยาคีรี แต่ตัวจริง อายุ 25 ปี เป็นชาวไร่ข้าวโพดใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ยังมีชีวิตอยู่ ภายหลังปลัดอำเภอฝางยืนยันว่าแก๊งชาวจีนสวมบัตรกันเอง


อันดับ 6 : เลขรางวัลที่ 1 สุดงง ต่างกันแค่เลขหน้า กองสลากฯ ยืนยันโปร่งใส พบสลากดิจิทัลคนเดียวถูก 10 ใบรับ 60 ล้าน

ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา รางวัลที่ 1 เลขที่ออก 913106 ปรากฎว่ามีคอหวยแปลกใจ เพราะงวดวันที่ 16 ต.ค. รางวัลที่ 1 เลขที่ออก 613106 เหมือนและตรงกันกับงวดนี้ถึง 5 หลัก ต่างกันแค่เลขหน้าตัวเดียว ทำให้ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันว่า การออกรางวัลของสำนักงานสลากฯ โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ส่วนตัวเลขที่จะออกนั้น มีโอกาสเท่ากันทุกตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นเลขที่เพิ่งออกไปในงวดที่ผ่านมา หรือเลขที่ซ้ำกันทั้งหกหลัก ดังนั้น จึงไม่มีใครทราบหมายเลขที่จะออกรางวัลล่วงหน้าได้ ทุกหมายเลขมีโอกาสออกได้หมด

ส่วนสลากดิจิทัลที่ขายผ่านแอปฯ เป๋าตัง งวดที่ผ่านมา พบว่ามีรางวัลที่ 1 จำนวน 14 ใบ รวมเป็นเงิน 84 ล้านบาท โดยผู้ถูกรางวัลที่ 1 รายเดียว 10 ใบ รับเงินรางวัล 60 ล้านบาท ส่วนอีก 4 ใบ เป็นของผู้โชคดี 2 ราย ถูกรางวัลรายละ 2 ใบ คนละ 12 ล้านบาท สำหรับสลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 พ.ย. 2565 มีจำนวน 14,929,000 ใบ จากตัวแทนจำหน่าย 29,858 ราย จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2565 เวลา 06.00-23.00 น. จนกว่าสลากจะหมด ด้าน นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ประธานกรรมการออกรางวัลงวดนี้ ยืนยันอุปกรณ์และขั้นตอนกระบวนการออกรางวัล สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน


อันดับ 7 : บีวายดีตลาดแตก แห่จองรถออตโต 3 เฉพาะวันแรกกว่า 2.5 พันคัน บางคนเข้าคิวตั้งแต่ 2 ทุ่ม พบสีขาวนิยมสูงสุด

หลังจากบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ของตระกูลพรประภา ประกาศขายรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อบีวายดี รุ่นออตโต 3 ในวันที่ 1 พ.ย. ผ่านดีลเลอร์ 32 แห่ง โดยมีราคาจำหน่ายหลังหักส่วนลดสนับสนุนของรัฐบาล เหลือเพียง 1,199,900 บาท พร้อมโปรโมชัน รับประกันคุณภาพตัวรถ และแบตเตอรี 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ค่าบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ฟรี 8 ปี และของแถมอีกเพียบ ปรากฎว่ามีผู้คนยืนรอต่อคิวจองรถ ที่ตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 1 พ.ย. โดยที่โชว์รูมกวงไถ่มอเตอร์กรุ๊ป สาขาบางนา มีคนต่อคิวตั้งแต่ 2 ทุ่มวันที่ 31 ต.ค. เพราะจะมีลูกค้าเพียง 20 คนแรกได้รับรถทันที ที่เหลือรอส่งมอบรถวันอื่น

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดเผยว่า วันแรกมียอดจองจากทุกดีลเลอร์รวม 2,507 คัน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ซึ่งนโยบายของบริษัทฯ จะขายรถที่มีพร้อมส่งมอบ ไม่มีรับจองเกินโควตา ซึ่งตามแผนจะนำเข้ารถ 5,000 คันภายในปีนี้ แต่เมื่อยอดจองเกินคาด จึงต้องปรับแผนกันใหม่ โดยได้ขอโควตาเดือน ม.ค. 2566 เพิ่มอีก 3,000 คัน ส่วนปัจจุบันรถทยอยมาถึงไทยแล้ว 1,800 คัน และจะส่งมอบแก่ลูกค้าตามลำดับ ส่วนที่ลูกค้าบางรายต้องรอรับรถนานไปถึงปีหน้านั้น เนื่องจากสีที่ต้องการมีลูกค้าจองเต็มโควตาไปก่อนแล้ว โดยพบว่าสีขาวได้รับความนิยมสูงที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น