xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : โตโน่ หนึ่งคนว่ายหลายคนดิ้น | กสทช.รับทราบควบรวมดีแทค-ทรู | ชายเสื้อแดงตบศรีสุวรรณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 16 - 22 ต.ค. 2565)


อันดับ 1 : หนึ่งคนว่ายหลายคนดิ้น โตโน่ข้ามโขงระดมทุน ช่วยโรงพยาบาลไทย-ลาว คนไทยฝ่าดรามาเทใจกว่า 62 ล้าน

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับโครงการ “ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ที่นักร้องนักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ วัย 36 ปี ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงจากลานพญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม ไปขึ้นที่ท่าวัดพระธาตุศรีโคดตะบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว ก่อนจะเยี่ยมโรงพยาบาลแขวงคำม่วน แล้วว่ายจากหาดบ้านนาเมืองกลับมายังลานพญาศรีสัตตนาคราช เพื่อระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยตั้งเป้าเงินบริจาคไว้ที่ 17 ล้านบาท ก่อนจะเริ่มโครงการ ถูกมวลชนผู้สนับสนุนกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ออกมาดรามาตัดแข้งตัดขาเป็นระยะ

อาทิ กล่าวหาว่าเป็นนักบุญทุนคนอื่น ไม่ออกมาคอลเอาต์ไล่รัฐบาล ดูปัญหาเชิงโครงสร้าง เอาแต่รับบริจาค แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โจมตีเรื่องใช้อุโมงค์น้ำของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตำหนิว่าโตโน่เสี่ยงเกินไป เพราะแม่น้ำโขงมีน้ำเชี่ยวและลึก เป็นภาระแก่โรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัย ซึ่งโตโน่ก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ แต่เมื่อสังคมเห็นข่าวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แห่โอนเงินให้คนที่ต่อยนายศรีสุวรรณ จรรยา สร้างรายได้จากความรุนแรงนับล้านบาท ทำให้เช้าวันที่ 22 ต.ค. ยอดเงินบริจาคพุ่งสูงถึง 24 ล้านบาท ตั้งแต่ยังไม่เริ่มว่ายน้ำด้วยซ้ำ และเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม ยอดบริจาคสูงถึง 55 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่้ตั้งไว้

ล่าสุด ยอดเงินบริจาคสูงกว่า 62.85 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 034-0-04773-2 ชื่อบัญชี มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ เพื่อโครงการเทใจ หรือบริจาคได้ที่เว็บไซต์ taejai.com ถึง 31 ต.ค. 2565


อันดับ 2 : กสทช.รับทราบควบรวมดีแทค-ทรู คงแบรนด์เดิมไว้ 3 ปี มีค่ายเสมือนใหม่ 5G ทั่วไทย 90% ใน 5 ปี

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. มีมติเสียงข้างมากรับทราบการรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค พร้อมกำหนดเงื่อนไขมาตรการเฉพาะ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและการพัฒนากิจการโทรคมนาคม เช่น ให้ลดอัตราค่าบริการเฉลี่ยลง 12% ภายใน 90 วัน ให้มีทางเลือกราคาแยกรายบริการ ขณะเดียวกัน กำหนดให้ทรูและดีแทคยังคงแยกแบรนด์ออกจากกันเป็นเวลา 3 ปี เพื่อคงทางเลือกของผู้บริโภค พร้อมจัดให้มีเครือข่ายเสมือน (MVNO) แยกออกจากกัน และให้บริการภายใต้มาตรฐานเทคโนโลยีเดียวกัน

นอกจากนี้ จะต้องไม่ลดเสาส่งสัญญาณ (Cell Site) ลงจากเดิม จัดให้มีเจ้าหน้าที่ทั้งศูนย์บริการลูกค้าและคอลเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้น พื้นที่ให้บริการ 5G ต้องครอบคลุมประชากรทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 85% ภายใน 3 ปี และไม่น้อยกว่า 90% ภายใน 5 ปี รวมทั้งจัดให้มีโปรโมชันราคาต่ำเป็นพิเศษแก่ผู้ที่มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส และเสนอแผนนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม เมื่อรวมธุรกิจแล้ว ต้องส่งรายงานผลการประกอบธุรกิจแก่ กสทช. ทุก 6 เดือนเป็นเวลา 5 ปี และหากมีพฤติกรรมผูกขาดหรือบริการไม่มีประสิทธิภาพ กสทช. มีอำนาจระงับ ยกเลิก เพิ่มเติม หรือปรับปรุงเงื่อนไขตามความเหมาะสม


อันดับ 3 : ชายเสื้อแดงตบศรีสุวรรณ สื่อจิ้มไมค์เป็นคนดัง กองเชียร์โอนตังค์เป็นล้าน หวั่นพฤติกรรมเลียนแบบ

เหตุความรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน ระหว่างที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องเรียนเอาผิดกับ โน้ส อุดม-แต้พานิช นักพูดชื่อดัง กล่าวบนเวทีเดี่ยว 13 ในลักษณะสนับสนุนผู้ชุมนุม ปรากฎว่านายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล อายุ 62 ปี เจ้าของช่องยูทูบ ศักดินาเสื้อแดง ต่อต้านเผด็จการ บุกเข้าไปตบนายศรีสุวรรณบาดเจ็บ ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อว่า ตั้งใจจะมาตบเพื่อสั่งสอนให้หยุดร้องเรียน อ้างว่าคำว่าประชาธิปไตยทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง แต่อย่าเกินเลยจนเกินไป ท้าว่าถ้าทำผิดมาดำเนินคดีได้

วันต่อมานายวีรวิชญ์ไปออกรายการโหนกระแส แต่ถูกเท ก่อนถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับค้างเก่า คดีชกต่อยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เมื่อปี 2564 ต่อด้วยคดีหมิ่นประมาทนายเสกสกลที่ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ ด้านสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวีทำโพลซ้ำเติม พบว่า 87.6% สมควร มีเพียง 12.4% เห็นใจนายศรีสุวรรณ ขณะที่กองเชียร์ฝ่ายไม่เอารัฐบาล โอนเงินให้นายวีรวิชญ์จำนวนมาก มีข่าวว่าได้เงินบริจาคไป 6.5 ล้านบาท แต่เจ้าตัวปฏิเสธด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ภายหลังระบุว่าได้เงินบริจาคไปแค่ 1.1 ล้านบาท แต่ไม่มีการแสดงหลักฐานใดๆ แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง เกรงว่าจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ


อันดับ 4 : ลิซ ทรัสส์ นายกฯ อังกฤษลาออก ครองตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ เหตุบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด

กลายเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ครองตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา และบริหารประเทศได้เพียง 44 วันเท่านั้น สาเหตุเกิดจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาด โดยเฉพาะแผนการเก็บภาษีฉบับใหม่ ที่พบว่าลดการเก็บภาษีแก่ผู้ที่มีฐานะร่ำรวย อีกทั้งรัฐบาลยังกู้เงินมหาศาลเพื่อชดเชยค่าพลังงานจากสงคราม สร้างความปั่นป่วนต่อนักลงทุน ฉุดให้เงินปอนด์อ่อนค่า อัตราเงินเฟ้อสูง ก่อนจะไล่ รมว.คลังออกจากตำแหน่ง แล้วแต่งตั้งคนใหม่ แต่รัฐมนตรีคนใหม่กลับยกเลิกนโยบายนางทรัสส์ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม นางทรัสส์ยังคงรักษาการนายกฯ ต่อไป จนกว่าจะมีการเลือกผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่ และจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษไปโดยปริยาย ซึ่งพบว่ามีความแตกแยกภายในพรรคอนุรักษ์นิยม ทำให้มีแคนดิเดตถึง 7 คน อาทิ นายริชิ ซูนัค อดีต รมว.คลัง, นายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ, นายเบน วอลเลซ รมว.กลาโหมอังกฤษ, นางเพนนี มัรดันท์ อดีต รมว.กลาโหมอังกฤษ, นางเคมี บาเดนอช รมว.การค้าระหว่างประเทศ, นางซูเอลลา บราเวอร์แมน อดีต รมว.มหาดไทยของอังกฤษ และนายเจเรมี ฮันต์ รมว.คลัง คนที่ยกเลิกนโยบายนางทรัสส์ทั้งหมด ก่อนที่นางทรัสส์จะลาออกจากนายกฯ


อันดับ 5 : ทั่วไทยน้ำท่วมกระทบ 4 แสนครัวเรือน ภูเก็ตอ่วมน้ำท่วมย่านเมืองเก่า ดินสไลด์ถนนทรุด แถมบ้านทรุด

ทั่วประเทศไทยยังคงเผชิญภาวะน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ผลจากพายุเข้าอย่างต่อเนื่อง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ได้รับผลกระทบ 28 จังหวัด กว่า 4 แสนครัวเรือน ส่วนภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และสงขลา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ได้รับผลกระทบเกือบ 3,900 ครัวเรือน โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต อิทธิพลจากพายุเซินกา เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง น้ำท่วมย่านเมืองเก่าชิโนโปรตุกีส หอนาฬิกาแยกชาร์เตอร์ถึง 2 ครั้ง ดินสไลด์ถนนทางขึ้นเขาป่าตองทรุดตัว ดินถล่มทับถนนบายพาสภูเก็ต ต้องปิดถนนเพื่อซ่อมแซม และมีบ้านเช่าบนเนินทรุดตัว

ภาคเหนือ พิษณุโลก พิจิตร ระดับน้ำลดลง นครสวรรค์ ระดับน้ำทรงตัว ภาคอีสาน ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ระดับน้ำลดลง ส่วนร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ระดับน้ำทรงตัว ที่เทศบาลนครอุบลราชธานี ถนนที่น้ำท่วมสูงเริ่มกลับมาสัญจรได้แล้ว ภาคกลางพบว่า อุทัยธานี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม นครนายก สระบุรี ระดับน้ำลดลง แต่ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ระดับน้ำทรงตัว ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา แม้จะลดการระบายน้ำแต่ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง จ.อ่างทอง น้ำท่วมขยายวงมากขึ้น ภาคตะวันออก ปราจีนบุรีและฉะเชิงเทราระดับน้ำลดลง


อันดับ 6 : ตำรวจผีพนันลักปืนหลวง 159 กระบอก เรื่องแดงกบดานหนองคาย จะหนีไปลาวแต่ไม่รอด โดน 4 ข้อหา

ตำรวจผีพนันลักปืนหลวงไปขาย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จับกุม ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผู้บังคับหมู่ปราบปราม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่บ้านหนองเดิด ต.เมืองหมี อ.เมืองฯ จ.หนองคาย หลังก่อเหตุจัดทำเอกสารเท็จ ขโมยปืนจากคลังเก็บอาวุธปืนของโรงพัก 159 กระบอก แบ่งเป็นปืนสั้น 134 กระบอก และปืนยาว 25 กระบอก พอผู้กำกับไปเช็กปืนทราบว่าปืนหาย เจ้าตัวจึงหลบหนี ขาดการติดต่อนานกว่า 1 สัปดาห์ และเตรียมใช้ช่องทางธรรมชาติไป สปป.ลาว แต่ตำรวจขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับ และประสานตำรวจหนองคายจับกุมได้เสียก่อน

เจ้าตัวสารภาพว่าติดการพนัน เลยทยอยเอาปืนออกจากคลังอาวุธตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีทั้งนำไปขาย จำนำกับบุคคลทั่วไป และจำนำกับนักพนันด้วยกัน แต่หลังเรื่องแดงจึงหนีไปจังหวัดหนองคาย และเตรียมออกนอกประเทศ โดยชี้จุด 9 แห่งที่นำปืนไปขายหรือไปจำนำ ตำรวจติดตามอาวุธปืนมาได้ 41 กระบอก และจะกดดันผู้ที่เกี่ยวข้องให้นำอาวุธปืนมาคืนต่อไป ด้านการดำเนินคดีได้แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 148 ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ และลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี


อันดับ 7 : ทริปอุบาทว์หาดบางเสร่ จัดทริปตกหมึกดูดนมชมหอย หมึกช็อตซาเซมิ นายกเล็กเดือดเอาผิดเด็ดขาด

กิจกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างความเสื่อมเสียแก่แหล่งประมงพื้นบ้านเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. มีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า "คู่แท้พัทยา สะอาดนิสัยดี กันเองมิตรภาพ" จัดทริปที่ชื่อว่า "ตกหมึก ดูดนม ชมหอย หมึกช็อต ซาเซมิ พร้อมเครื่องดื่ม คนละ 3,000 บาท 4 ชั่วโมงเต็ม รอบละ 2-3 ท่าน" นัดเจอกันยามวิกาลที่ชายหาดบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมภาพสองสาวเปลือยกายล้อนจ้อน โชว์ของสงวนบนเรือประมงแบบไม่อายใคร ทำให้ชาวบางเสร่จำนวนมากแสดงความไม่พอใจกับวิธีการทำมาหากินของกลุ่มคนดังกล่าว เกิดความเสื่อมเสียต่อสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นชุมชนกลุ่มประมงที่มีวิถีมาแต่ช้านาน

ต่อมาวันที่ 19 ต.ค. น.ส.เปมิกา พิมพะกร หรือยู อายุ 27 ปี และ น.ส.ปภัสสร น้อยตาแสง หรือหมี อายุ 24 ปี เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในภาพจริง แต่ให้แฟนหนุ่มถ่ายให้เพื่อสร้างคอนเทนต์ เรียกลูกค้ามาใช้บริการ โดยเช่าเหมาเรือประมงพื้นบ้านในราคา 4,500 บาท ไม่มีการค้าประเวณีหรือร่วมเพศแต่อย่างใด แต่ยังไม่มีลูกค้าติดต่อเข้ามา ขณะที่นายสมหวัง เอี่ยมดี นายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่ ส่งตัวแทนแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุทั้งหมด เนื่องจากเชื่อว่าไม่ได้มีเพียง 2 คน


กำลังโหลดความคิดเห็น