ตราด - งามหน้า! พบนายทุนจีนสวมบัตรประจำตัวประชาชนคนตายนานกว่า 30 ปีหากินในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนเรื่องแดงถูกตำรวจ สส.ภาค 2 ตามจับ พบเป็นการออกบัตรโดยสำนักงานเทศบาลเมืองตราด ตั้งแต่ปี 2535 ด้าน ผวจ.เร่งตามตัวคนออกบัตร เชื่อมีอายุเกือบ 80 ปี หรืออาจเสียชีวิตแล้ว
จากกรณีที่ พล.ต.ต.ธีระชัย ชํานาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พร้อมด้วยหน่วยคอมมานโดบูรพา 491 นำหมายจับ 487/2565 เข้าจับกุม นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือกู๋เอี๋ยว อายุ 45 ปี สัญชาติจีนซึ่งถือบัตรประชาชนไทยที่ออกโดยอำเภอเมืองตราด จ.ตราด ในข้อกล่าวหาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในประวัติทะเบียนราษฎรอันเป็นเอกสารราชการ (บัตรประชาชนปลอม)
โดยนายนิติพัฒน์ หรือกู๋เอี๋ยว ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของ “คลับวัน” ผับดังเมืองพัทยา ย่านถนนเพ็ชรตระกูล เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ามีการปะทะคารมระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของผับ ตามที่ปรากฏภาพในคลิป ส่วนนักเที่ยวกว่า 200 คน พากันแตกฮือไม่ให้ตรวจปัสสาวะ กรูกันวิ่งหนีออกจากผับ ด้านตำรวจยึดห่อพลาสติกใสบรรจุสิ่งคล้ายสารเสพติดเกลื่อนพื้นนั้น
วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จกรณีที่ นายนิติพัฒน์ ซึ่งถือบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกโดย อ.เมืองตราด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เบื้องต้นพบว่า หน่วยงานที่ออกบัตรประจำตัวประชาชนคือ สำนักงานเทศบาลเมืองตราด และเป็นการสวมสิทธิบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วโดยที่พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตไม่รู้เรื่อง
“ส่วนการติดตามหาตัวเจ้าพนักงานที่ออกบัตรนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ออกบัตรยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เนื่องจากเป็นการออกบัตรที่ผ่านมานานถึง 30 ปี และในการออกบัตรประจำตัวประชาชนนั้นปัจจุบันทุกอำเภอ มีความเข้มงวด และมีระเบียนที่ชัดเจนมาก” ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าว
ขณะที่ นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด เผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่สวมสิทธิบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิต ได้ไปแจ้งเกิดที่คลินิกแพทย์แห่งหนึ่งใน จ.ตราด ก่อนจะแจ้งทำบัตรประจำตัวประชาชนที่สำนักทะเบียน เทศบาลเมืองตราด และจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่สวมสิทธิบัตรผู้เสียชีวิตมีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง
"จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ชาวต่างด้าวเชื้อชาติจีนรายนี้มีบิดาเป็นชาวจีน ส่วนมารดาเป็นชาวนครราชสีมา และขณะนี้ยังทำธุรกิจอยู่ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2535 ในยุคที่ นายสมพร บุญเสริม เป็นนายอำเภอเมืองตราด ซึ่งในยุคนั้นการทำบัตรประจำตัวประชาชนจะต้องทำเมื่ออายุได้ 15 ปี และผู้ทำบัตรจะต้องเขียนชื่อด้วยลายมือตนเองจึงทำให้มีการทุจริตได้ง่ายและเมื่อถึงวันนี้จึงเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ที่ทำการทุจริตน่าจะมีอายุ 70-80 ปีแล้ว หรืออาจจะเสียชีวิตไปแล้ว โดยยืนยันว่าปัจจุบันการทุจริตทำบัตรประชาชนทำได้ยากเพราะใช้ระบบออนไลน์ในการประสานข้อมูล" นายอำเภอเมือง กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ จ.ตราด พบการทุจริตเกี่ยวกับการทำบัตรประจำตัวประชาชนของหน่วยงานผู้มีหน้าที่ออกบัตรอย่างต่อเนื่องทั้งในเขต อ.เมืองตราด และ อ.บ่อไร่ และยังทำให้มีปลัดอำเภอ และอดีตนายอำเภอ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทะเบียนถูกดำเนินคดีและถูกไล่ออกมาหลายราย
