xs
xsm
sm
md
lg

สรุปข่าวเด่นในรอบสัปดาห์ 2-8 ต.ค.2565

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



1.อดีต ตร.คลั่ง! กราดยิงศูนย์เด็กเล็กฯ ที่หนองบัวลำภู ดับเกือบ 40 ศพ-เจ็บหลายราย "ในหลวง-พระราชินี" ทรงเศร้าสลด-เสด็จฯ เยี่ยมพระราชทานขวัญกำลังใจ!

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งเหตุกราดยิงครูและเด็กเล็ก ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

หลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเด็กอายุ 2-3 ขวบ พร้อมครูในศูนย์ฯ นอนเสียชีวิต เบื้องต้น 26 ราย และผู้บาดเจ็บอีกหลายราย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านรีบพาคนเจ็บส่ง รพ.นากลาง ท่ามกลางพ่อแม่ผู้ปกครองที่ทราบข่าวและเดินทางมาที่ศูนย์ฯ เมื่อทราบว่าบุตรหลานเสียชีวิต ต่างร้องไห้กันระงม ทั้งนี้ ครูประจำศูนย์ฯ คนหนึ่ง เล่าว่า คนร้ายได้ใช้มีดฟันเด็กที่กำลังนอน และใช้ปืนยิงครูหลายคน

สำหรับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อภายหลังคือ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจ สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 1 ต.อุทัยสวรรค์ หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะวีโก้ 4 ประตูสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 6กธ 6499 กรุงเทพมหานคร หลบหนี โดยระหว่างทาง ได้ขับรถชนและยิงชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายคน ตำรวจจึงระดมกำลังติดตามไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งต่อมา ได้พบศพ ส.ต.อ.ปัญญา ลูก และภรรยา เบื้องต้นคาดว่า หลังก่อเหตุ ส.ต.อ.ปัญญา ได้ขับรถกลับบ้าน และเผารถทิ้ง ก่อนยิงลูก ภรรยา และตนเอง

ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ มีพฤติกรรมติดยา เสพยา ความประพฤติไม่ดี มีปัญหากับผู้บังคับบัญชา มีปัญหากับชาวบ้าน เมื่อปีก่อนเพิ่งถูกจับกุมข้อหาเสพยาและครอบครอง ถูกสั่งดำเนินคดีและไล่ออกจากราชการ สำหรับอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบมีด ปืนสั้น ปืนลูกซอง และว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ไม่เคยพบพฤติกรรมรุนแรง ไม่เคยก่อเหตุร้าย แต่คาดว่าเกิดอาการหลอนยา ประกอบกับเคียดแค้นเนื่องจากถูกไล่ออกจากราชการ

พล.ต.ต.ไพศาล เผยด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เดินทางไปศาลจังหวัดหนองบัวลำภู คดีที่ถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องครอบครองยาบ้า 1 เม็ด โดยผู้ก่อเหตุเดินทางไปศาลพร้อมกับมารดา เมื่อเริ่มกระบวนการพิจารณา ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ ศาลอนุญาตให้ไปนำข้อมูลประวัติมายื่นต่อศาลเพื่อประกอบดุลพินิจในการลงโทษ ซึ่งตามขั้นตอน หากนำมายื่น ศาลก็พิพากษาได้เลย และว่า ระหว่างการพิจารณาคดี ผู้ก่อเหตุไม่ได้แสดงอาการเครียดแต่อย่างใด ซึ่งคดีครอบครองยาบ้า 1 เม็ด มีอัตราโทษไม่สูงและได้รับการรอลงอาญา ซึ่งศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 7 ต.ค.

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงช่วงเย็นวันเดียวกันว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 38 ราย และว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติด โดยได้ไล่ออกไปเมื่อเดือน มิ.ย. ส่วนอาวุธปืนนั้น เป็นปืน 9 มม.ที่ผู้ต้องหาซื้อมาใช้เอง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ ตำรวจจะดูรายละเอียดทั้งหมดเพื่อนำมาถอดบทเรียน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเดินทางลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอให้ทุกส่วนราชการทั่วประเทศลดธงครึ่งเสาเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 7 ต.ค. เพื่อแสดงความอาลัยต่อเหตุการณ์ที่ จ.หนองบัวลำภู

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับผู้บาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ

พร้อมกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงเข้าพระราชหฤทัยถึงความทุกข์ของครอบครัวผู้สูญเสีย จึงได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมพระราชทานขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย เป็นการส่วนพระองค์เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ต.ค. โดยเสด็จไปยังโรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี ที่ผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฎิสันถารให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียว่า “รู้สึกเสียใจเศร้าสลดใจมากที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ช่วงเวลาแห่งความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจก็ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจ ก็เป็นความรู้สึกร่วม เป็นเหตุที่ไม่ดีเกิดขึ้น ถ้าเกิดมีอะไรเดือดร้อนลำบากให้ช่วยเหลือให้ดูแล ขอแสดงความเสียใจและคงไม่มีคำไหนมาแทนความเสียใจได้ ก็ขอให้กำลังใจพวกเราเข้มแข็งเพื่อให้วิญญาณน้องๆ เขาสบายใจ เราก็จะทำพิธีการทำบุญสวดมนต์ เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับผู้ที่จากไปแล้ว ก็เป็นขวัญและกำลังใจให้ทุกคน เราก็เสียใจด้วยมาก เราจะต้องทำยังไงตอนนี้ เราต้องทำอะไรให้ดีที่สุดเป็นกำลังใจให้ทุกคน”

สำหรับเหตุการณ์ยิงกราดที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ที่ จ.หนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่คนไทย แต่ผู้นำหลายประเทศได้แสดงความเสียใจต่อประเทศไทยเช่นกัน ขณะที่สื่อต่างประเทศก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเกาะติดนำเสนอข่าวโศกนาฏกรรมครั้งนี้ไปทั่วโลก

2.เด็กวัย 15 ซิ่ง BMW ชนบัณฑิตวิศวะเกียรตินิยมดับ เข้ารับทราบ 3 ข้อหา ตร.ตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ ด้านพ่อพร้อมเยียวยา แต่ให้ศาลตัดสิน!


ความคืบหน้ากรณีเยาวชนชายวัยรุ่น อายุ 15 ปี ขับรถเก๋ง BMW มากับเพื่อนวัยรุ่นด้วยกันรวม 3 คน ด้วยความเร็วและฝ่าไฟแดงบริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ประตู 1 ก่อนถึงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน พังยับเยิน ส่งผลให้นายธนพล แก้วมูล หรือเต้ อายุ 24 ปี ชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าวเสียชีวิต ซึ่งนายธนพลเป็นบัณฑิตวิศวะ มทส. ระดับเกียรตินิยม ที่เพิ่งรับปริญญาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก เพราะผู้ก่อเหตุอายุแค่ 15 แต่ออกมาขับรถยนต์ได้อย่างไร แถมฝ่าไฟแดงและพุ่งชนคนอื่นเสียชีวิต รวมทั้งตำหนิผู้ปกครองด้วยว่า ปล่อยให้ลูกออกมาขับรถได้อย่างไร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พ.ต.ท.ไพศาล ปันเร็ว สารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เผยว่า ผู้ปกครองได้พาน้องเยาวชนชาย อายุ 15 ปี คนขับรถยนต์เก๋ง BMW คันก่อเหตุ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่เยาวชนชายดังกล่าว 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต 2. ขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง และ 3. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งเยาวชนชายคนขับ ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

พ.ต.ท.ไพศาล ยืนยันด้วยว่า คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน และไม่รู้สึกหนักใจ ตำรวจดำเนินการทุกอย่างไปตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดสรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องศาลต่อไป

ส่วนที่มีข้อสงสัยเรื่องเยาวชนชายคนขับรถเก๋งมีอาการมึนเมาขณะขับรถหรือไม่นั้น พ.ต.ท.ไพศาล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ทางตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว และไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ยืนยันว่า ตำรวจทำคดีตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้

ส่วนเรื่องการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น พ.ต.ท.ไพศาล กล่าวว่า เป็นเรื่องของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะเจรจากัน ตรงนี้ตำรวจคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

ด้านนายเทิดพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ชาว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พ่อของเยาวชนผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอกราบขอโทษและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียหาย ขอโทษคนทั้งประเทศที่บางครั้งอาจจะเข้าใจผิดไปบ้าง แต่ส่วนหนึ่งตอนนี้ครอบครัวของตัวเองโดนโลกโซเชียลรุมประณามทั่วประเทศ รวมถึงลูกชายซึ่งตอนนี้ปิดห้องเงียบ

นายเทิดพงษ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะพยายามประสานเรื่องเยียวยาเรื่องเงินค่าทำศพต่อไปผ่านพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องการเยียวยาความสูญเสีย ต้องยอมรับว่า ตีเป็นมูลค่าไม่ได้ เพราะไม่สามารถเอาชีวิตกลับคืนมาได้ แต่ตนก็จะรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นคนตัดสิน

ส่วนกรณีที่โลกโซเชียลถามถึงความเป็นมาของการขับรถของลูกชายนั้น นายเทิดพงษ์ กล่าวว่า รถคันดังกล่าวตนซื้อมาเอง เพราะมีอาชีพซื้อมาขายไปทีละคัน วันเกิดเหตุ ลูกชายซึ่งอยู่กับปู่ย่าที่ จ.นครราชสีมา ได้ขับไปโดยไม่ได้แจ้งปู่กับย่า แล้วไปเกิดเหตุ

เป็นที่น่าสังเกตว่า โลกโซเชียลได้พยายามขุดคุ้ยว่า เยาวชนผู้ก่อเหตุคนนี้เป็นใคร กระทั่งขุดขึ้นมาว่า เด็กวัย 15 ปีคนนี้ มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาเทนนิสระดับเยาวชนทีมชาติไทย มีภูมิลำเนามาจากจังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มเล่นกีฬาลูกหวดสักหลาดตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนที่เจ้าตัวจะใช้ความสามารถของตัวเองลงแข่งขันเทนนิสระดับเยาวชนรายการต่างๆ จนไต่เต้าขึ้นมาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยได้สำเร็จ เมื่อปี 2018 สามารถติดตัวสำรองของเยาวชนทีมชาติตั้งแต่อายุ 12 ปี

และในปี 2020 เจ้าตัวประสบอุบัติเหตุถึงขั้นแขนซ้ายหักก่อนการเข้าคัดตัวทีมชาติไทยไม่กี่วัน ทำให้พลาดโอกาสคัดตัวเข้าเป็นเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี กระทั่งในปี 2021 เจ้าตัวในวัย 14 ย่าง 15 ปี กลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้งจนสุดท้ายกลับมาคัดตัวเยาวชนทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี และได้อันดับ 3 ไปครอง ทำให้เขาได้เข้าสู่สารบบเยาวชนทีมชาติไทยอีกครั้ง แต่ปัจจุบันไม่ได้รับการต่อสัญญาให้เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยแล้ว

3. "ปราปต์ปฎล" เข้าพบดีเอสไอแล้ว ปัดเอี่ยวฟอกเงินคดีแชร์ Forex-3D เตรียมส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มใน 15 วัน!



เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือปราปต์ ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังได้รับหมายเรียกครั้งที่ 2 ฐานเกี่ยวข้องคดีฟอกเงิน จากคดีแชร์ Forex-3D โดยพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบร่วม 2 ชั่งโมง

ต่อมา นายปราปต์ปฎล เผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ขอบคุณดีเอสไอที่ให้โอกาสเข้าพบ ตนมาทำหน้าที่พลเมืองที่ดีที่ควรกระทำ หลังทราบว่าดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหา จึงมารับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ เมื่อความจริงได้รับการพิสูจน์ ทุกคนก็จะทราบ

ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า กรณีนายปราปต์ปฎล จากการสืบสวนพบว่า มีความเกี่ยวพันในเรื่องทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดคดีฟอกเงิน จึงออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การปฏิเสธ โดยจะส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมอีกครั้งภายใน 15 วัน

สำหรับทรัพย์สินที่ตามยึดมานั้น ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า ก็ที่เคยตกเป็นข่าว อย่างเช่น รถหรู แอสตัน มาร์ติน มูลค่า 20 ล้าน ที่บ้านพักในจังหวัดราชบุรี และทรัพย์สินอื่นๆ แต่ไม่ขอเปิดเผย ก่อนจะประสานไปยัง ปปง. เพื่อดำเนินการเฉลี่ยทรัพย์สินคืนให้แก่ผู้เสียหาย นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่า ยังมีบุคคลอื่นที่อาจยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินต่างๆ ที่ได้จากการกระทำผิดหรือไม่

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีกลุ่ม “ดีเจแมน-ใบเตย” ที่มีการเรียกผู้ถูกกล่าวหา 6 ราย ในล็อต 2 ระหว่างวันที่ 4-5 ต.ค. ให้เข้ารับทราบ 3 ข้อกล่าวหา คือ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” ขณะนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 4 ราย ขอเลื่อน 2 ราย เป็นวันที่ 12 ต.ค. แทน

ส่วนกรณีของนักแสดงหนุ่ม กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ ที่เคยมีกระแสข่าวว่าเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ฟอเร็กซ์นั้น ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า ตนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจำนวน 2 ราย ซึ่งจะมาให้การในฐานะพยาน ให้เข้าพบกลางเดือนตุลาคมนี้ แต่ขณะนี้ไม่มีการตอบรับ

มีรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน (5 ต.ค.) นายสุรนาถ นาคมุสิก 1 ใน 6 ผู้ต้องหาที่ดีเอสไอออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบ 3 ข้อกล่าวหา ได้เดินทางมาพร้อมทนายความเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยเมื่อมาถึง นายสุรนาถ ไม่ให้ข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชน เดินตรงไปยังห้องกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เพื่อรอสอบปากคำ

มีรายงานด้วยว่า ผู้ต้องหา 6 คน ล็อต 2 ที่ดีเอสไอออกหมายเรียก 4 คนที่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว คือ 1.ฉัตรชัย หรือเสือ คชทิน 2.ธีร์ภัสกร หรือมาร์ค กิมวังตะโก 3.สุธิดา คุณโน และ 4.นายสุรนาถ นาคมุสิก ส่วนอีกคนที่ขอเลื่อนเข้าพบเป็นวันที่ 12 ต.ค. คือ นายอายุวัต ชัยเมธนากูล และ mr. Daryl Cai Yonghui

4. สภาทนายความ แจ้งจับ "พ่อค้าไก่หมุน" ปลอมเป็นทนาย ด้านทนายหนุ่มนครสวรรค์ ยอมรับรู้จัก แต่ไม่มีเอี่ยว แค่ถูกแอบอ้างชื่อ!



จากกรณีที่เฟซบุ๊ก "ทนายอาสา ปรึกษาในกลุ่มฟรี โดยทนายอาชีพ" ได้ออกมาตีแผ่ว่า มีพ่อค้าขายไก่หมุน แอบอ้างเป็นทนายความแสวงหาผลประโยชน์ มีการปลอมใบอนุญาตให้เป็นทนายความ โดยใช้เลขหมายใบอนุญาตของบุคคลอื่นซึ่งไม่ตรงกัน และเมื่อตรวจสอบไปยังสภาทนายความพบว่า มีบันทึกการตรวจสอบประวัติทนายความของสำนักทะเบียนสภาทนายความ ลงวันที่ 1 ส.ค.2565 ไม่ปรากฏชื่อนายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ ในทะเบียนทนายความ นอกจากนี้ทนายปลอมดังกล่าวได้ถูกจับกุมในข้อหาปลอมคำพิพากษาศาลจังหวัดกำแพงเพชรด้วยนั้น

ล่าสุด สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า "ตามที่ปรากฏข่าวกรณีมีผู้ที่ไม่ได้เป็นทนายความ ทำการปลอมแปลงหลักฐานการเป็นทนายความ และไปดำเนินคดีในชั้นศาล สภาทนายความฯ ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฏชื่อบุคคลที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวว่า เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมและทดสอบวิชาว่าความจากสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ และไม่ได้จดทะเบียนรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความแต่อย่างใด ส่วนเลขหมายใบอนุญาตให้เป็นทนายความที่ทำการปลอมแปลงนั้น ก็เป็นของทนายความท่านอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผู้ปลอมแปลงใบอนุญาตให้เป็นทนายความแต่ประการใด

การกระทำดังกล่าวถือว่าเ ป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ. 2528 สภาทนายความฯ โดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ จะได้มอบอำนาจให้นายชัยวัฒน์ บุญเกื้อ นายทะเบียนสภาทนายความ ไปดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวโดยเด็ดขาดในทันที"

ด้านนายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีคนแอบอ้างเป็นทนายความ ทั้งที่ไม่มีชื่อในทะเบียนทนายความเข้ามาว่าความคดีของศาลยุติธรรมว่า อยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีกี่คดี อยู่ที่ไหน เป็นคดีความอย่างไร จากนั้นก็เป็นดุลยพินิจของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีนั้นๆ ที่จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป เช่น นำคดีที่ตัดสินไปแล้วมาพิจารณาตรวจสำนวนคดีใหม่ หรือพักการพิจารณาคดีที่อยู่ระหว่างไต่สวนสืบพยานไปก่อน อยู่ที่ผู้พิพากษาจะพิจารณา

นายสรวิศ ยอมรับด้วยว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยพบว่า มีการปลอมเป็นทนายมาขึ้นว่าความในศาลมาก่อน แต่จากที่ได้รับรายงานของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจแล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา แต่ในส่วนของศาลหากพบว่ามีความผิด จะมีการไต่สวนละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งต่อไป

ขณะที่นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความเเละว่าความชนะอัยการในคดียักยอกทรัพย์ว่า นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน จนถึงขณะนี้ยังตรวจไม่พบคดีดังกล่าวว่าเป็นสำนวนคดีใด ตรวจสอบพบแต่คดีข้อหาฉ้อโกง ซึ่งบุคคลตามข่าวได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ และคดีสามารถตกลงกันได้ ศาลจึงจำหน่ายคดี

ดังนั้น ข่าวที่ว่าทนายความปลอมว่าความชนะอัยการในคดียักยอกทรัพย์ จึงยังปราศจากมูลความจริง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงเร่งรัดตรวจสอบหาคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบ จะรายงานเข้ามาที่สำนักงานอัยการสูงสุด

ด้านนายวัชรพล ยานะเครือ อาชีพทนายความ เปิดสำนักงานอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังทนายปลอมพ่อค้าไก่หมุน เพราะเคยร่วมงานช่วยว่าความและมีภาพถ่ายคู่กัน โดยยืนยันว่า "ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่มีส่วนได้เสีย กับการกระทำของทนายปลอมคนดังกล่าว เป็นการนำชื่อ นามสกุล และภาพถ่ายของผมไปใช้อ้างอิงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม"

อย่างไรก็ตาม นายวัชรพล ยอมรับว่า รู้จักกับพ่อค้าไก่หมุนจริง แต่ไม่สนิทสนม โดยรู้จักกันตั้งแต่ปี 53 ซึ่งตอนนั้น พ่อค้าไก่หมุนได้ไปฝึกงานในภาคปฏิบัติงานตั๋วทนายอยู่ที่สำนักงานทนายความของอาจารย์ตน และพอเขาฝึกจบ ก็แยกย้ายกันไป

กระทั่ง กลางปี 64 พ่อค้าไก่หมุนก็มีการติดต่อตนกลับมา และขอให้ตนช่วยทำคดีว่าความให้ในเรื่องของอาญา หมิ่นประมาท ของศาล จ.นครสวรรค์ ในส่วนของตนที่รับงานทำคดีให้เขา แค่ 3 คดี คือ 1.คดีที่นครสวรรค์ ได้ทำจบไปแล้ว เหลืออีก 2 คดีที่ จ.พิษณุโลก และที่ จ.กำแพงเพชร อยู่ในชั้นอุทธรณ์

นายวัชรพล กล่าวด้วยว่า “ก่อนจะรับงาน ตนก็เคยขอดูใบอนุญาตทนายความของเขาด้วย เขาก็เอามาโชว์ให้ดู ตนก็เลยให้เกียรติเขา จึงไม่ขอตรวจสอบต่อ ประกอบกับที่ผ่านมา เท่าที่รู้จักกัน เขาก็ดูคล่องแคล่วเหมือนกับทนายความทุกอย่าง จึงทำให้ไม่สงสัยในตัวเขาต่อ”

5. "แบงก์ออมสิน"ยอมรับความผิดพลาด ยึดบ้านผิดหลัง ยอมจ่าย 2.2 ล้าน เยียวยาเจ้าของบ้าน!



ความคืบหน้ากรณีเจ้าของบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.ลาดหลุมแก้ว อ.เมือง จ.ปทุมธานี ถูกธนาคารส่งคนมายึดบ้านผิดหลัง และปิดประกาศขาย โดยมีผู้รับเหมาเข้ามารื้อทรัพย์สินภายในบ้านของตนออกไปจนหมด เหลือแต่บ้านโล่งๆ บริเวณภายนอกก็ตัดต้นไม้ รื้อกันสาด ยกสิ่งของออกไปจนหมด และติดป้ายประกาศทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก

ต่อมา ธนาคารออมสินได้ออกเอกสารชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่า เกิดความผิดพลาดที่เห็นว่าบ้านหลังดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับบ้านที่ซื้อต่อมาจากการขายทอดตลาด มีการระบุในเอกสารว่า บ้านทั้งสองหลังไม่มีเลขที่บ้านติดไว้หน้าบ้าน ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นบ้านหลังเดียวกัน ส่วนการเข้าไปปรับปรุงบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้รื้อถอนส่วนสำคัญแต่อย่างใด และทรัพย์สินต่าง ๆ ที่พบระหว่างการปรับปรุง ได้ทำการเก็บรักษาไว้ มีทั้งหมด 20 รายการ

ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ทางธนาคารและเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายได้มีการนัดเจรจาเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายที่ธนาคารออมสิน ภาค 5 จ.นนทบุรี หลังการเจรจา ได้มีการตั้งโต๊ะแถลง โดยนายวุฒิพงษ์ ภิรมยาภรณ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มบริหารหนี้และกฎหมาย ตัวแทนจากทางธนาคารออมสิน พร้อมด้วยนางกาญจนา เจ้าของบ้านที่เสียหาย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความเจ้าของเพจทนายคู่ใจ ร่วมกันแถลงผลการเจรจาว่า ตามที่เจ้าของบ้านได้ยื่นข้อเสนอเงินเยียวยามานั้น ทางธนาคารออมสินยินยอมจ่ายเงินเยียวยาค่าเสียหายตามที่เจ้าของบ้านเรียกร้องมา จำนวน 2.2 ล้านบาท โดยทางเจ้าของบ้านไม่ติดใจเอาความแล้ว

ทั้งนี้ นายวุฒิพงษ์ กล่าวถึงข้อผิดพลาดของการดำเนินการของช่างรับเหมาว่า เกิดจากรูปบ้านที่ส่งไปให้ช่าง มีลักษณะคล้ายกัน และในระหว่างเข้าดำเนินการ 4-5 วัน ก็ไม่พบว่ามีเจ้าของบ้านมาทักท้วง ซึ่งผู้รับเหมารายดังกล่าวเคยรับงานจากทางธนาคารมาแล้ว 3-4 ครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางธนาคารมีการสั่งลงโทษพักงานเป็นเวลา 6 เดือน

ส่วนประเด็นบ้านเลขที่หลังที่เกิดเหตุที่ทางผู้รับเหมาอ้างว่ามองไม่เห็นนั้น ทางธนาคารออมสินระบุว่า ทางธนาคารรายงานตามที่ช่างได้แจ้ง

นายวุฒิพงษ์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ยึดบ้านผิดหลังดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง ยืนยันจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก


กำลังโหลดความคิดเห็น