สภาทนายความออกแถลงการณ์กรณีทนายความปลอม พ่อค้าไก่หมุน มอบอำนาจให้นายทะเบียนดำเนินคดี ชี้ผิดหลายมาตรา ตั้งแต่ใช้เอกสารปลอม ยันละเมิดอำนาจศาล เล็งคุยกับศาลยุติธรรมเชื่อมโยงข้อมูล ตรวจสอบได้ นอกจากสำเนาตั๋วทนาย
วันนี้ (5 ต.ค.) จากกรณีที่ในกลุ่มเฟซบุ๊ก "ทนายอาสา ปรึกษาในกลุ่มฟรี โดยทนายอาชีพ" ออกมาตีแผ่ว่ามีพ่อค้าขายไก่หมุน แอบอ้างเป็นทนายความแสวงหาผลประโยชน์ มีการปลอมใบอนุญาตให้เป็นทนายความ โดยใช้เลขหมายใบอนุญาตของบุคคลอื่นซึ่งไม่ตรงกัน และเมื่อตรวจสอบไปยังสภาทนายความพบว่ามีบันทึกการตรวจสอบประวัติทนายความของสำนักทะเบียนสภาทนายความ ลงวันที่ 1 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนทนายความ ซึ่งล่าสุดถูกจับกุมในข้อหาปลอมคำพิพากษาศาลจังหวัดกำแพงเพชร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : ปั่นป่วนกระบวนการยุติธรรม พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความ แถมชนะคดีอัยการอีก
แม่หลั่งน้ำตา เผยไม่รู้เรื่องรู้ราวลูกปลอมตั๋วทนายว่าความจนกระบวนการยุติธรรมปั่นป่วน
เหยื่อทนายไก่หมุนโผล่ให้ปากคำตำรวจเพิ่มที่ สภ.แหลมฉบัง โดนหลอกเงินไปกว่า 3 หมื่นบาท
ล่าสุด สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์ เรื่อง ทนายความปลอม ระบุว่า "ตามที่ปรากฏข่าวกรณีได้มีผู้ที่ไม่ได้เป็นทนายความ ทำการปลอมแปลงหลักฐานการเป็นทนายความ และไปดำเนินคดีในชั้นศาล ดังความแจ้งอยู่แล้วนั้น
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ทำการตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฏชื่อบุคคลที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวว่าเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมและทดสอบวิชาว่าความจากสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ และไม่ได้จดทะเบียนรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความแต่อย่างไร ส่วนเลขหมายใบอนุญาตให้เป็นทนายความที่ทำการปลอมแปลงนั้น ก็เป็นของทนายความท่านอื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผู้ปลอมแปลงใบอนุญาตให้เป็นทนายความแต่ประการใด
การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์โดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ จะได้ทำการมอบอำนาจให้นายชัยวัฒน์ บุญเกื้อ นายทะเบียนสภาทนายความ ไปดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวโดยเด็ดขาดในทันที"
ด้านนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ และคณะร่วมกันแถลงข่าวว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นทนายความ เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายหลายบท ทั้งกรณีว่าความในศาลโดยไม่ได้เป็นทนายความ และความผิดตามกฎหมายอาญา เช่น ปลอมและใช้เอกสารปลอม หรือถ้าเป็นใบอนุญาตทนายความแบบสมาร์ทการ์ด จะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความผิดทั้งจำและปรับหลายมาตรา อีกทั้งการหลอกลวงให้หลงเชื่อว่าตนเองเป็นทนายความเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หากมีผู้เสียหายหลายคนจะส่งผลไปถึงข้อหาฉ้อโกงประชาชน และละเมิดอำนาจศาล
ทั้งนี้ ได้มอบอำนาจให้นายทะเบียนทนายความแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลทั่วไปที่จะมาแอบอ้างประกอบวิชาชีพทนายความ พร้อมกับให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและร้ายแรง เพราะส่งผลไปถึงคำพิพากษาบางคดีที่ศาลได้พิพากษาไปแล้ว ซึ่งนับจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนคดีที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ศาลสามารถเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผ่านมาได้ เพราะถือว่าเป็นกระบวนพิจารณามิชอบ โดยจะให้เริ่มแต่งตั้งทนายความที่แท้จริงเข้ามาใหม่
นายกสภาทนายความยังกล่าวอีกว่า ปกติทนายความจะเข้าดำเนินการว่าความในศาลจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากลูกความและไปยื่นคำร้องต่อศาล พร้อมกับสำเนาใบประกอบวิชาชีพทนายความเป็นหลักฐาน ซึ่งมีแนวคิดที่จะเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสภาทนายความกับศาลยุติธรรม เพื่อให้ศาลสามารถตรวจสอบได้เวลามีการแต่งตั้งทนายความเข้าไปในคดี ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเช่นนี้อีก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งนับจากนี้จะต้องหารือกับสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป