ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผย 3 กิจกรรม "การกุศล" ยอดนิยม "ประกวดพระ - โบว์ลิ่ง - ตีกอล์ฟ" ผิดกฎหมาย 99% หลังพบไม่มีใครปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรฯ ซึ่งแปลว่าคนจัดทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องยังมีความผิดทางวินัยเพิ่มด้วย
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โพสต์เฟซบุ๊ก "Mana Nimitmongkol" ชำแหละ 3 กิจกรรม "การกุศล" ยอดนิยม "ประกวดพระ - โบว์ลิ่ง - ตีกอล์ฟ" ทำรายได้หลักล้าน แต่ 99% ผิดกฎหมาย ทั้งนี้เจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
“ตีกอล์ฟ ประกวดพระ โยนโบว์ลิ่ง” 3 กิจกรรมหารายได้ยอดนิยมเพราะทำเงินง่ายเป็นกอบเป็นกำ ยิ่งถ้าจัดโดยกลุ่มคนมีสี มียศมีตำแหน่งหรือหน่วยราชการที่มีอำนาจให้คุณให้โทษแก่พ่อค้า รายได้จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว แม้ระบุว่าเป็นงานการกุศลแต่เกือบทั้งหมดที่จัดกันนั้นผิดกฎหมายแถมยังเป็นที่ครหาว่าเป็นวิธีติดสินบนที่ถูกกฎหมายเพราะทำให้เกิดบุญคุณระหว่างคนจัดงานกับคนจ่ายเงิน ปูทางเพื่อการวิ่งเต้นเส้นสาย และการเอาอกเอาใจเจ้านายเพื่อการโยกย้ายตำแหน่งของเจ้าหน้าที่
โดยทั่วไปผู้จัดโบว์ลิ่งจะทำรายได้ 3-7 แสนบาท การประกวดพระทำรายได้ 3-6 ล้านบาท ขณะที่กอล์ฟการกุศลจะมีรายได้ราว 2-8 ล้านบาท สถิติสูงสุดที่ทราบคือ 25 ล้านบาทจัดโดยกรมจัดเก็บภาษีแห่งหนึ่ง รายได้หลักจะมาจากสปอนเซอร์ของภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ส่วนลดค่าสถานที่จัดงาน รายได้จากการขายบัตรเข้าร่วมงานจะมีราคาแตกต่างกันไป เช่น โบว์ลิ่ง ทีมละ 4,000 บาท ทีมกิตติมศักดิ์ 10,000 บาท การแข่งขันกอล์ฟ ทีมละ 30,000-50,000 บาท ทีมกิตติมศักดิ์ 50,000-100,000 บาท การประกวดพระมีรายได้จากการรับดูพระองค์ละ 300-500 บาท ค่าบัตรเข้าชมงาน เปิดประมูลพระและค่าเช่าแผงขายของ
ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรฯ และระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการเรี่ยไร กำหนดให้ทุกการเรี่ยไรต้องขออนุญาตก่อน หากเป็นหน่วยงานของรัฐจะทำการเรี่ยไรหรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรี่ยไรหรือการรับบริจาคก็ต้องขออนุญาตเช่นกัน เว้นแต่เพื่อกฐินพระราชทานหรือกิจกรรมที่เป็นนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังเรื่องการรับเงินหรือทรัพย์สิน ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช.เรื่องการรับทรัพย์สินฯ เกินกว่า 3 พันบาทและการเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน เมื่อเสร็จงานแล้วยังต้องยื่นรายงานต่อ สตง. และต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีรายได้ตามเกณฑ์
ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้แทบทั้งหมดของ 3 กิจกรรมยอดนิยมไม่มีใครปฏิบัติตามกฎหมายที่กล่าวมา ซึ่งแปลว่าคนจัดทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องยังมีความผิดทางวินัยเพิ่มด้วย
การหาทุนเพื่อการกุศลหรือเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนรวมของสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล หน่วยราชการ สมาคม ชมรมต่างๆ เป็นเรื่องสมควรอย่างยิ่งที่จะให้การสนับสนุน แต่ปัญหามักเกิดขึ้นเมื่องานนั้นเกี่ยวข้องกับหน่วยราชการหรือบุคคลที่มีอำนาจให้คุณให้โทษแก่ผู้อื่น และมีการระดมเงินด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม จนเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนและคอร์รัปชันตามมา
ปัญหานี้ยังใกล้เคียงกับพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ ที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน ได้เสนอมาตรการแก้ไขเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในภาครัฐ ไม่ใช่หวังลิดรอนสิทธิหรือตัดประโยชน์ของหน่วยงานหรือสร้างความยุ่งยากแก่ใคร เช่น เงินแปะเจี๊ยะเข้าโรงเรียน เงินค่าคอมมิชชันยาในโรงพยาบาล เงินและที่ดินที่มีผู้บริจาคถวายวัด เป็นต้น"