อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ตั้งคำถามหลังมีการปลดล็อกกัญชาให้เสรี หากเกิดปัญหาแก่สังคมใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ชี้จับตาไม่เกิน 1 ปีการปลดล็อกพืชกัญชาจะมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "เทพไท เสนพงศ์" ระบุถึงการปลดล็อกกัญชาที่อาจจะสร้างปัญหาให้แก่สังคมได้ พร้อมถามใครจะเป็นผู้รับผิดชอบผลที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"ผมเห็นกระแสข่าวเรื่องกัญชาฟีเวอร์ ซึ่งกำลังแพร่หลายไปทั่วทุกพื้นที่ และมีการทดลองใช้กัญชา ทั้งปลูก ทั้งเสพ ทั้งผสมอาหาร ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน มีการเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะเจ้าของนโยบายกัญชาเสรี ก็เดินสายจัดอีเวนต์เรื่องกัญชา และแจกต้นกัญชากันอย่างครึกโครม กระแสการเห่อกัญชาจึงมีเกิดขึ้นไปทั่วทั้งประเทศ สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ท่ามกลางกระแสคนไทยเห่อกัญชา แต่ผลที่ตามมาก็คือ ปัญหาทางสังคมที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เมื่อกัญชาไม่ผิดกฎหมาย การเสพ การสูบกัญชา ก็ไม่ผิดกฎหมายด้วย จึงทำให้ผู้คนทดลองสูบกัญชากันอย่างกว้างขวาง บางคนหลังจากสูบกัญชาแล้วไปดื่มเหล้าต่ออีก จึงเกิดอาการเมากัญชาเมาเหล้าผสมกัน เกิดภาพหลอน สร้างปัญหาแก่สังคมเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถเข้าไปควบคุมและจับกุมได้ เพราะมีความลักลั่น และไม่เข้าใจข้อกฎหมายที่ชัดเจน ทุกฝ่ายกำลังรอพระราชบัญญัติพืชกัญชา กัญชง ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สภาผู้แทนราษฎร
แม้ว่าพืชกัญชาและกระท่อมจะถูกยกเลิกจากบัญชียาเสพติด และไม่มีความผิดทางกฎหมายแล้วก็ตาม แต่ทั้งกัญชาและพืชกระท่อมก็ยังไม่มีกฎหมายควบคุมในทางปฏิบัติ เพราะพระราชบัญญัติพืชกระท่อมก็ยังไม่ได้ประกาศใช้เช่นกัน แต่ปัญหาในทางปฏิบัติของพืช 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกัน พืชกระท่อมจะมีปัญหาในการนำไปใช้ หรือสุ่มเสี่ยงต่อการก่อปัญหาทางสังคมน้อยมาก ซึ่งต่างจากพืชกัญชา ที่สุ่มเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดปัญหาของสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่นำกัญชาไปทดลองใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเยาวชนนำไปเสพมากขึ้น ก็จะมีผลกระทบต่อสุขภาพและสมองได้
ข้อกำหนดของกฎหมายเรื่องห้ามใช้กัญชาเกี่ยวกับการสันทนาการนั้น ไม่สามารถบังคับใช้ในทางปฏิบัติได้จริง ปัญหาหลักของกัญชาในตอนนี้ก็คือการนำไปใช้ในเรื่องสันทนาการ และเป็นส่วนผสมของอาหาร ซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายมากที่สุด ขอให้ระมัดระวังเรื่องการใช้กัญชาในทางที่ผิด กำลังจะเกิดปัญหาทางสุขภาพ และปัญหาทางสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอให้จับตามองต่อจากนี้ไปอีกไม่เกินหนึ่งปี ผลของการปลดล็อกพืชกัญชาให้มีการปลูกและใช้กัญชาอย่างเสรี จะปรากฏผลในทางปฏิบัติขึ้นอย่างชัดเจน ถึงวันนั้นก็จะได้รู้ว่า การปลดล็อกพืชกัญชาจะมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น"