xs
xsm
sm
md
lg

เตือนปลดล็อก "กัญชา" แล้ว ยังต้องใช้อย่างระวัง ถูก กม. หวั่นรับสารเกินพอดี กระทบสุขภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด ชี้ ปลดล็อก "กัญชา" การใช้ยังต้องระวังเหมือนเดิม ย้ำใช้ให้ถูกตามกฎหมาย ศึกษาวิธีใช้ให้ถูกต้อง ป้องกันปัญหาสุขภาพ หากทำอาหารไม่ควรใส่เกินกำหนด ไม่ให้ได้รับสารมากเกินไป เผยช่วงโควิด 3 ปี พบใช้กัญชามากขึ้น 2 เท่า ผู้ใหญ่เน้นกิน เด็กเยาวชนเน้นสูบ ครอบครัวต้องช่วยป้องกัน

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. รศ.พญ.รัศมน กัลยาศิริ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) กล่าวว่า การปลดล็อกกัญชงกัญชาออกจากยาเสพติด เชื่อว่าได้ผ่านการกลั่นกรองจากทุกฝ่ายครบถ้วนแล้ว แต่การที่ยังไม่มี พ.ร.บ.กัญชาออกมาควบคุม จึงห่วงความปลอดภัยว่า จะถูกใช้ในเชิงสันทนาการ หรือนำไปซื้อขายทั่วไปในทางที่ผิดและอันตราย เพราะประชาชนสามารถจดแจ้งปลูกผ่านแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” หรือเว็บไซต์ของ อย.ได้อย่างเสรี ระหว่างนี้จึงแนะนำว่า ให้ยึดตามระเบียบและกฎหมาย เช่น จะใช้ส่วนต่างๆ ของกัญชามาทำอาหารต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาหาร

รศ.พญ.รัศมน กล่าวว่า ศศก.สำรวจประชากร 5,000 คน ตั้งแต่ปี 2563 – 2565 พบการใช้กัญชาในช่วงโควิดมากขึ้น การใช้สารเสพติดชนิดอื่นลดลง คาดว่า มีผลมาจากการล็อกดาวน์ช่วงโควิดระลอกแรก เม.ย.2563 ที่ทำให้การสังสรรค์ลดลง ส่งผลเคลื่อนย้ายสารเสพติดลำบาก โดยพบผู้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปี 2564 และปี 2565 ยังพบการใช้สูงต่อเนื่อง และพบว่าเมื่อออกกฎหมายให้นำกัญชาบางส่วนมาใช้ได้ เช่น นำใบมาใส่อาหาร ทำให้เกิดการใช้กัญชา 2 ลักษณะ คือ ดื่มหรือผสมเครื่องดื่ม และการสูบ โดยพบการดื่มมากขึ้นเพราะกฎหมายอนุญาตแล้ว หากจำแนกการใช้สันทนาการ พบว่ากลุ่มวัยผู้ใหญ่หรือวัยกลางคน นิยมใช้กัญชาในรูปแบบกินดื่ม ขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี พบอัตราสูบมากถึง 2 เท่า

“ปัจจัยการเริ่มใช้ยาเสพติดในเด็กและเยาวชน สิ่งแวดล้อมมีส่วนสำคัญมาก หากครอบครัวมีประวัติการใช้หรืออยู่ในที่เข้าถึงได้ง่าย เด็กเยาวชนจะซึมซับ และมีแนวโน้มใช้ตาม ส่วนพันธุกรรมเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้ติดง่าย หากคนในครอบครัวใช้ ดังนั้นการปลดล็อกย่อมส่งผลให้เกิดการใช้ในครัวเรือนมากขึ้น เพียงแค่จดแจ้งว่าครอบครัวไหนปลูกนำไปใช้บ้าง แต่ครอบครัวไหนมีเด็กก็ย่อมเห็นได้ง่าย ต้องระมัดระวังในเรื่องนี้” รศ.พญ.รัศมน กล่าว

รศ.พญ.รัศมน กล่าวว่า ในทางการแพทย์ไม่อยากให้สารจากกัญชาเข้าไปสู่ร่างกายโดยไม่จำเป็น ถ้าเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใช้จำนวนน้อยที่สุด ซึ่งอาหารมีกฎหมายควบคุม ขอให้ปฏิบัติตาม เช่น กำหนดใส่ใบกัญชา 1-2 ใบ ก็ใส่แค่นั้น อย่าใส่เกิน เพราะอาจได้รับสารมึนเมาเกินขนาด และต้องระวังการใช้ความร้อนในการปรุงด้วย เพราะมีผลต่อการสกัดให้สาร THC เข้มข้นเกิน 0.2% ซึ่งผิดกฎหมาย และย้ำว่าประชาชนอย่าใช้ช่อดอกมาทำอาหารเพราะผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ คาดว่าคนสนใจนำสารเหล่านี้ไปใส่ในอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นของผิดกฎหมายปิดมานาน และเมื่อมีการปลดล็อกมองว่า ไม่ว่ากัญชาจะมีสถานะไหน ถูกหรือผิดกฎหมาย ก็เป็นพืชชนิดหนึ่งมีสารที่ต้องระวังคือ THC มีฤทธิ์ทำให้มึนเมา คนที่อยากรู้อยากลองต้องระมัดระวัง เช่น กินอาหารก็อย่าบริโภคมากเกินไป การสูบไม่แนะนำเพราะจะเกิดผลกระทบกับชีวิต หากรับสาร THC มากไป การปลดล็อกหรือไม่ปลดล็อก การใช้กัญชาต้องระวังเหมือนเดิม    


กำลังโหลดความคิดเห็น