พ.ต.ท.สุริยา แป้นเกิด ชี้การเข้าไปใช้เฟซบุ๊กหรือไอจีของผู้อื่นโดยมิชอบมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ และคนที่นำรหัสการเข้าถึงไปให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของเฟซบุ๊กหรือไอจี ก็มีความผิดตามมาตรา 6 ด้วยเช่นกัน
วันนี้ (22 พ.ค.) เพจ Suriya pankerd police หรือ พ.ต.ท.สุริยา แป้นเกิด รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ โพสต์ข้อความระบุว่า “ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ กรณีรู้พาสเวิร์ด หรือรหัสของผู้อื่น แล้วเข้าไปใช้เฟซบุ๊ก ไอจี ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีความผิด หากได้โทรศัพท์ไป เขามีรหัสป้องกันการเข้าถึงไว้ ใช้รหัสเปิดเครื่องเข้าไป มีความผิดตามมาตรา 5 ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต่อมาเมื่อเข้าไปเปิดเครื่อง ใช้งาน แล้วไปเข้าเฟซบุ๊กของเขา หรือเข้าไปดูภาพใน icloud มีความผิดตามมาตรา 7 ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ส่วนคนที่นำรหัสการเข้าถึงไปให้คนอื่น ก็มีความผิดด้วยตามมาตรา 6 ฐานล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ นำมาตรการนั้นไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต่อมาถ้าเข้าถึงข้อมูลผู้อื่นแล้วเข้าไปดำเนินการใดๆ กับข้อมูลนั้น มีความผิดตามมาตรา 9 ฐานทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
ชีวิตจริงไม่ใช่ละครที่ต้องทำเป็นตอนๆ ที่อยากให้แฟนคลับลุ้นติดตาม ถ้าเจตนาดีจริง มีข้อมูลดีจริง ไม่ได้หวังยอดไลก์ ยอดวิว หารายได้จากยูทูบ หรือสื่อออนไลน์ใดๆ ตามระเบียบอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาฯ ข้อ 65 ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือบุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์ของผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา ใช้สิทธิยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการได้ และให้พนักงานอัยการพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันสำคัญแก่คดีที่จะนำไปสู่การผิดหรือบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาได้ อย่าสร้างคอนเทนต์ ถ้ามีข้อมูลที่ดีจริง ไม่ปรากฏในสำนวน และเป็นสาระสำคัญที่จะพิสูจน์ความผิดหรือบริสุทธิ์ รีบเขียนคำร้องนำส่งอัยการ”
คลิกโพสต์ต้นฉบับ