ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บุกตลาดค่ายเชลยศึก กาญจนบุรี หลังชาวบ้านร้องเรียนขายเหล้าขายเบียร์ เยาวชนเข้าไปเที่ยวโจ๋งครึ่ม แสดงดนตรีสร้างความเดือดร้อนรำคาญ พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีจำนวน 46 คน อายุต่ำสุดเพียง 14 ปี ซื้อเหล้าได้ไม่สอบถามอายุ เตรียมเสนอผู้ว่าฯ สั่งปิด 5 ปี
วันนี้ (7 พ.ค.) เฟซบุ๊ก กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน VDCH รายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน (บก.อส.) บุกไปยังตลาดค่ายเชลยศึก กาญจนบุรี บริเวณริมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าที่บริเวณตลาดค่ายเชลยศึกมีร้านเหล้าปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปใช้บริการ โดยมีพฤติการณ์จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และมีการแสดงดนตรีส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง
กรมการปกครองจึงส่งพนักงานฝ่ายปกครองลงพื้นที่เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงในตลาดค่ายเชลยศึก ตามที่ได้รับร้องเรียน พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดให้เอกชนบริหารที่ดินในเชิงธุรกิจ มีลักษณะเป็นลานกว้าง พื้นที่โล่งไม่มีหลังคา มีโต๊ะสำหรับบริการลูกค้าประมาณ 130 โต๊ะ โดยมีซุ้มจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 3 ร้าน ชื่อร้าน "Camp Bar” "ร้านสะพานดำ" และ "ร้านขายเหล้าปั่น" นอกจากนี้ยังมีซุ้มร้านจำหน่ายอาหารตั้งอยู่เรียงรายโดยรอบบริเวณลานกว้าง และมีการแสดงดนตรีสดบนแพที่ลอยอยู่ในแม่น้ำแคว ขณะสืบสวนพนักงานฝ่ายปกครองได้สังเกตเห็นว่ามีลูกค้าเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มานั่งดื่มกินกันเป็นปกติ ผู้ประกอบการได้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เยาวชนเหล่านั้น โดยไม่ได้มีการตรวจสอบอายุของลูกค้าแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 23.00 น. นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ร่วมกับนางสุภาภรณ์ ชมชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบงานยุติธรรมเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นำกำลังเข้าไปตรวจสอบ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปถึง พบนักเที่ยวกว่า 100 คนนั่งดื่มกินสังสรรค์เต็มพื้นที่ลานกว้าง โดยมีนายอัฒวุฒิ แก้วทอง, นายสายชล ชำนาญกุล, น.ส.สุวิมล คำเงิน แสดงตนเป็นผู้จัดการร้าน ซึ่งประกอบกิจการในนาม บริษัท วิชั่น อินสเปคเตอร์ แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด จากการตรวจสอบพบเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 46 คน อายุต่ำสุดเพียง 14 ปี เมื่อสอบปากคำเด็กส่วนใหญ่ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนและเพื่อนได้มาเที่ยวสถานที่แห่งนี้เป็นประจำ และสามารถซื้อหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้เป็นปกติ โดยไม่มีการสอบถามอายุก่อนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แต่อย่างใด
พนักงานฝ่ายปกครองได้จับกุมผู้จัดการร้านทุกร้าน และกล่าวโทษบริษัทในข้อหาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์, ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, ส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (จัดโปรโมชันลดราคา) และจำหน่ายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต โดยได้นำตัวผู้ถูกจับไปทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี ส่วนเด็กและเยาวชนที่มาเที่ยวดื่มกินภายในร้าน ได้ประสานผู้ปกครองให้มารับตัวพากลับบ้าน จากนี้ไป พนักงานฝ่ายปกครองจะได้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อพิจารณามีคำสั่งปิดสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 ต่อไป
นายรณรงค์กล่าวว่า คำสั่ง คสช.ดังกล่าว ยังคงมีผลบังคับเป็นกฎหมาย ผู้ประกอบการจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ในการป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าไปในสถานบริการหรือสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ และต้องไม่ยินยอมขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อป้องกันมิให้เด็กมีความประพฤติที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด จึงขอเตือนผู้ประกอบการสถานบันเทิงทุกแห่งว่า หากมีการปล่อยให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าใช้บริการ เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างถึงที่สุด
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
