"สมชัย" จี้ "ป.ป.ช." สอบกรณีรองเท้าหรู "จุรีพร" ขู่ ยืนถอดถอน หากยังทำเฉย

อดีต กกต. ขู่ ป.ป.ช. เจอยื่นถอดถอนแน่ หากยังทำเฉยไม่ตั้งอนุกรรมการเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง ปมคืนรองเท้าเทพของ "จุรีพร"

จากกรณี นางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ แถลงข่าวกรณีคลิปหวย 15 ล้านบาท ที่เป็นบทสนทนากับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยนำรองเท้าแบรนด์เนมกุชชี แบบหญิง และรองเท้าแบรนด์เนมหลุยส์ วิตตอง แบบชาย ออกมาโชว์ เพื่อเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น วันรู้จักกับนายกิ๊ก ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนอัดคลิปฉาวดังกล่าวว่าได้นำรองเท้าดังกล่าวมาให้

จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นางจุรีพรอาจกระทำการขัดกฎหมาย ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2563 ข้อ 6 (1) กำหนดมูลค่าในการรับจากบุคคลอื่นที่มิใช่ญาติ ไม่เกิน 3,000 บาท ข้อ 7 ระบุเพิ่มเติมว่า หากรับมาแล้ว ต้องทำรายงานรายละเอียดแจ้งผู้บังคับบัญชาภายใน 30 วัน เพื่อวินิจฉัยว่าเหมาะสมหรือไม่ และควรเก็บรักษาไว้หรือไม่ หากไม่กระทำ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 128 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. โทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งล่าสุด นางจุรีพร ได้นำคืน รองเท้าแบรนด์เนม ให้ต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว หวั่น ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณี นางจุรีพร สินธุไพรกับรองเท้าแบรนด์เนม อีกครั้ง โดยได้ระบุข้อความว่า

"กรณี คืนรองเท้าเทพ

ข่าวคุณจุรีพร นำรองเท้าเทพ 2 คู่ ราคา 61,700 บาท มาส่งให้ผู้บังคับบัญชาคือนายกรัฐมนตรีตามประกาศของ ปปช. เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 แล้วบอกว่า ได้ส่งคืนภายใน 30 วันตามประกาศแล้วนั้น

การชี้แจงต่อสื่อครั้งแรก บอกว่าได้มาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 แต่เมื่อนับเวลาถึงปัจจุบันแล้วเกิน 30 วัน แต่มาบอกใหม่เป็นวันที่อยู่ในกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดประกาศ ปปช.

กรณีนี้ ถือว่า อยู่ในเขตอำนาจของ ปปช.แล้ว เนื่องจาก ประธาน ปปช. มีฐานะเป็นผู้รักษาการตามประกาศของ ปปช. ที่จะต้องไต่สวนข้อเท็จจริงว่าเป็นประการใด ไม่ใช่บอกว่าไม่เกิน 30 วัน ก็เชื่อและจบเรื่องโดยง่าย

ดังนั้น ปปช.ต้องแถลงต่อสาธารณะว่า จะมีการตั้งอนุกรรมการเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง หาก ปปช. ไม่ดำเนินการใด ๆ โดยเร็ว ผมจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 รวบรวมชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 20,000 ชื่อ เสนอต่อประธานรัฐสภา เพื่อเสนอประธานศาลฎีกาแต่งตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ ทำการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อถอดถอน ปปช.ต่อไป

ใครเห็นด้วยยกมือเลย"