อดีต กกต. เตรียมยื่น ป.ป.ช.เอาผิด “จุรีพร” กรณีอ้างได้รับรองเท้าแบรนด์เนมราคาสูงเกิน 3 พัน ชี้ ไม่นำคืนใน 30 วัน ถือว่ามีความผิดแล้ว เชื่อ กกต.ยื่นอุทธรณ์สู้ชดใช้ “สุรพล” 64 ล้าน แย้ม เลขาฯโดนไปด้วย
วันนี้ (21 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี นางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุถึงการได้รับรองเท้าแบรนด์เนม 2 คู่ รวมมูลค่า 61,700 บาท ว่า กรณีดังกล่าวคงไม่ต้องยื่นเรื่องให้ กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพราะเป็นเรื่องที่มีความชัดเจนที่นางจุรีพร เป็นผู้บอกเอง สามารถไปยื่นเอาผิดต่อ ป.ป.ช.ดำเนินการได้เลย จะรอดูหากภายในสัปดาห์หน้าไม่มีใครไปยื่นเอาผิดนางจุรีพรต่อ ป.ป.ช. ตนจะไปยื่นดำเนินการเอาผิดเอง กรณีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐรับผลประโยชน์ หรือสิ่งตอบแทนที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ขัดต่อประกาศ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานรัฐ กรณีดังกล่าวประกาศ ป.ป.ช.ระบุชัดเจน หากรับทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาทมาแล้ว ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบใน 30 วัน เพื่อวินิจฉัยว่าเหมาะสม หรือควรเก็บรักษาไว้หรือไม่ ซึ่ง นางจุรีพร รับมาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2565 และนำเรื่องมาแถลงข่าววันที่ 20 เม.ย. ถือว่าเกิน 30 วันแล้ว โดยไม่มีการนำไปคืน ถือว่ามีความผิดแล้ว อยู่ในอำนาจที่ ป.ป.ช.จะดำเนินการเอาผิดได้ จะรอดูหากไม่มีใครไปยื่นเอาผิด จะดำเนินการเอาผิดเอง
นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีศาลจังหวัดฮอด มีคำวินิจฉัยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชดใช้ค่าเสียหาย 64.1 ล้านบาท แก่นายสุรพล เกียรติไชยการ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กรณีถูก กกต.แจกใบส้มตัดสิทธิการเป็น ส.ส.โดยไม่เป็นธรรมนั้น เชื่อว่า กกต.คงเชิญฝ่ายกฎหมายมาหารือจะดำเนินการอย่างไร เชื่อว่า คงยื่นอุทธรณ์คำตัดสินศาลภายใน 1 เดือน เพื่อสู้คดี ไปเสี่ยงเอาข้างหน้า ก็ไม่รู้ว่าจะชนะคดีหรือไม่ หรือวงเงินที่ต้องชดใช้ความเสียหายให้นายสุรพลจะเพิ่มขึ้น หรือลดลงจาก 64.1 ล้านบาท หากศาลยืนยันว่า มีความผิด เป็นหน้าที่ของ กกต.จะถูกบังคับให้จ่ายค่าเสียหาย ต้องมาไล่บี้ ว่า ใครอยู่ในข่ายต้องจ่ายค่าเสียหาย เท่าที่ดูผู้ที่ต้องรับผิดชอบ คือ กกต.ชุดปัจจุบัน 7 คน ต้องไปดูว่า มีใครบ้างลงมติตัดสิทธินายสุรพลต้องร่วมรับผิดชอบ ใครไม่ลงมติตัดสิทธิก็ไม่มีความผิด และอาจรวมถึงเลขาธิการ กกต.ต้องมีความผิดด้วย ในฐานะเป็นผู้รวบรวมสำนวนเสนอต่อ กกต. มี 7-8 คน แน่นอน ที่ต้องร่วมรับผิดชอบค่าเสียหาย จะหารกันเท่าไร ส่วนระดับเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ทำสำนวนขึ้นมา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แม้จะเป็นผู้ทำสำนวนมา แต่สุดท้ายแล้วผู้ใช้วินิจฉัยตัดสิน คือ กกต.ที่จะให้เห็นชอบหรือไม่เห็นขอบตามที่เจ้าหน้าที่เสนอมาก็ได้