“สุรพล” อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย เผยศาลฮอดให้ชนะ กกต.คดีฟ้อง เรียกค่าเสียหาย “ใบส้ม” สั่งเยียวยารวมดอกเบี้ย 70 ล้าน เจ้าตัวดีใจได้รับความเป็นธรรม-กู้ศักดิ์ศรีคืน ลั่นสมัยหน้าลง ส.ส.เพื่อไทย เหมือนเดิม
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ จ.เชียงใหม่ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ 8 สมัย เปิดเผยถึงที่นายสุรพลได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเจ้าหน้าที่ รวม 14 คน เพื่อเรียกค่าเสียหายและเยียวยาฐานทำให้เสียชื่อเสียงภายหลังศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีบูชาเทียน เพื่อทำบุญวันเกิด จำนวน 2,000 บาท ไม่ใช่เป็นการซื้อเสียง หรือทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2562 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้นายสุรพลได้ใบส้ม ทั้งที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับ 1 และหมดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ว่า วันนี้ (20 เม.ย.) ศาลจังหวัดฮอด ต.หางดง อ.ฮอด ได้พิพากษาคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.164/2562 และคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ พ. 23/2565 ให้ตนชนะคดีดังกล่าว และสั่งให้ กกต.จ่ายค่าเสียหายและเยียวยา รวมกว่า 64.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านบาท จากที่ตนเรียกค่าเสียหายจาก กกต.ที่ทำให้ตนเสื่อมเสียเกียรติในฐานะ ส.ส. 8 สมัยไปจำนวนเงิน 86 ล้าน แต่ยังต้องรอให้ กกต.จะขออุทธรณ์คดีหรือไม่ โดยมีกำหนดระยะเวลาภายใน 1 เดือน
นายสุรพล กล่าวต่อว่า ในคำพิพากษาระบุว่า กกต.วินิจฉัยโดยไม่ให้ความเป็นธรรม รวบรัด เร่งรีบ ไม่ได้ไตร่ตรองวินิจฉัยอย่างรอบคอบ แล้วให้ใบส้มใบแรกของประเทศไทยกับตนในการเลือกตั้งปี 2562 จนในที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้วินิจฉัยว่า ตนไม่มีความผิด
“วันนี้ผมดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถเรียกร้องศักดิ์ศรีคืนมาให้ตัวเองและพรรคเพื่อไทยได้ว่าเราไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง เราได้คะแนนมาอย่างยุติธรรมขาวสะอาด และคดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานต่อไปให้กับนักการเมือง ว่า กกต. จะเอาผิดกับนักการเมืองต้องมีความรอบคอบ วินิจฉัยให้ชัดเจน ต้องขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมกับผมในครั้งนี้” นายสุรพล กล่าว
นายสุรพล กล่าวด้วยว่า ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยในพื้นที่เดิมอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ กกต.วินิจฉัยให้ใบส้มแก่นายสุรพล ถือเป็นนักการเมืองคนแรกที่ได้รับใบส้ม ก่อนที่จะ กกต.จะจัดเลือกตั้งใหม่ โดยที่ นายสุรพล ไม่มีสิทธิลงสมัคร และพรรคเพื่อไทยไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ จนปรากฏว่า น.ส.ศรีนวล บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 8 แทน นายสรุพล และได้คะแนนมากกว่า 7 หมื่นคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งปี 2562
