xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” ตั้งข้อสังเกตคลิปฉาว “แรมโบ้” ต่อยอดคุยโควตาหวย-ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์มิชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตโฆษก ปชป. เจาะคลิปฉาว “แรมโบ้อีสาน” ตั้ง 4 ข้อสังเกต “จุรีพร” เปิดลำโพงให้กิ๊กฟัง ต่อยอดคุยโควตาหวย-ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์มิชอบ ถาม “กิ๊ก” คือ น้องที่พร้อมให้เงิน 5 กิโล ใช่มั้ย-ใช้จุรีพรเป็นทางผ่านเงินหรือไม่ จี้ลาออกเลิกรับเงินภาษี ส่อทำผิด กม. 2 ฉบับ ขอนายกฯตั้ง กก.สอบด่วน

วันนี้ (21 เม.ย.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง เจาะคดีคลิปฉาว สัมพันธ์สามเส้า แรมโบ้อีสาน-จุรีพร-กิ๊ก มีเนื้อหาระบุว่า หลังเกิดคลิปฉาวพัวพันเงิน 15 ล้านบาท ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2562 มีตัวละครเกี่ยวข้องในบทสนทนา 2 คน คือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ซึ่งขณะนี้ลาออกจาก 2 ตำแหน่งสำคัญ คือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการแก้ปัญหาสลากราคาแพง กับ นางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ โดยเนื้อหาในบทสนทนาที่สำคัญถอดความได้ดังนี้

“…แรมโบ้อีสาน : มันก็เอาเงินมาให้พี่ ช่วยพี่เลือกตั้ง 15 ล้าน พี่สู้กับโรงแป้งหมดเป็น 100 ล้าน
จุรีพร : ค่ะ ใช่ ตอนนั้นอยู่กับพี่อยู่
แรมโบ้อีสาน : ทีนี้ประเด็น
จุรีพร : ค่ะ
แรมโบ้อีสาน : แต่ว่าชุดจากนี้จะเข้าจับกุมมัน...(ฟังไม่ชัด)
จุรีพร : อ๋อ พี่ไปเอาเงินมันมา ทีนี้พอพี่จะไปจับกุมมัน มันก็เลยจะทวงหนี้
แรมโบ้อีสาน : พอไปจับกุม มันแถลงข่าวว่าพี่ไปเอาเงินมาซวยตาย..เลย
จุรีพร : อ๋อ ค่ะ
แรมโบ้อีสาน : ถ้าเกิดตำรวจไปจับก็เป็นเรื่องของตำรวจไป พี่ขอยืมชั่วคราว
จุรีพร : ค่ะ
แรมโบ้อีสาน : ประมาณ 5 กิโล (5ล้าน)
จุรีพร : เดี๋ยวหนูจะเอากับน้องเขามา แต่เดี๋ยว ๆ พี่โบ้ต้องฟังหนูนิดหนึ่ง คือเรื่องของเรื่อง หนูจะคุยกับน้องเขา เพราะว่า แต่ลอตเตอรี่พี่ต้องดูแลนะ พี่ต้องดูแลหนูนะ
แรมโบ้อีสาน : พี่รับปาก พี่ทำให้อยู่แล้ว พี่ต้องดูแลหนู ไม่รู้พี่ไม่เอาของน้อง พี่เอาของหนู แต่ให้รู้ว่า ที่คุยกันวันนี้คือจบ
จุรีพร : ค่ะ จบเรื่องลอตเตอรี่เนาะ
แรมโบ้อีสาน : ใช่ ๆ ๆ
จุรีพร : เดี๋ยวหนู เงินมันไม่พอ เดี๋ยวหนูจะเอากับน้องเขาแล้วกัน…”

หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกมา และมีการระบุคนชื่อ กิ๊ก คือ ผู้ที่แอบอัดเสียง ผมมีข้อสงสัย 4 ประเด็น ที่ส่อผิดกฎหมาย 2 บทบัญญัติ
1. ทำไม จุรีพร จึงต้องเปิดลำโพงให้คนอื่นฟังบทสนทนานี้ ทั้งที่เรื่องที่พูดคุยกันเป็นความลับ
2. กิ๊ก เกี่ยวพันอย่างไรกับเรื่องนี้
3. น้อง ที่ จุรีพร พูดถึงว่าจะไปเอาเงิน 5 กิโลมาให้ แรมโบ้อีสาน คือใคร
4. ทำไมแรมโบ้อีสาน ไม่มีการสอบถามเลยว่า น้องคนนั้นคือใคร หรือรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงน้องคนไหน เพราะในบทสนทนาไม่ได้มีการเอ่ยชื่อถึง

ทั้ง 4 ประเด็นจะนำไปสู่ความผิดกฎหมาย
2 บทบัญญัติด้วยกันคือ
1. มีการใช้เงินหาเสียงมากกว่าที่กฎหมายกำหนด 1.5 ล้าน ในปี 2562 หรือไม่
2. มีการใช้อำนาจหน้าที่เรียก รับ ทรัพย์สินเพื่อเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับโควตาลอตเตอรี่หรือไม่

นายเชาว์ ระบุว่า ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายเหมือนต่อจิ๊กซอว์มาเกือบครบ เมื่อ นายสุดสยาม มากแก้ว หรือ กิ๊ก เดินทางไปพบตำรวจ สน.ดุสิต เพื่อให้ปากคำกรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีว่าเป็นผู้อัดคลิปและนำไปเผยแพร่ โดยเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้ข้อมูลว่า ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารกับนางจุรีพร ได้ไปพบแรมโบ้อีสานมาก่อน เพราะอยากได้โควตาลอตเตอรี่ ซึ่งเรื่องนี้ก็สอดรับกับสิ่งที่แรมโบ้อีสาน ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ของหมาแก่ แมวสาว (20 เม.ย.) โดยแรมโบ้อีสาน เล่าว่า เขาเปิดโอกาสให้จุรีพรและสามีเข้าพบ ในวันที่ 28 มีนาคม พูดคุยเรื่องโควตาลอตเตอรี่ แต่ยืนยันว่า ช่วยเหลือไม่ได้ โดยในวันนั้นมีผู้ที่ต้องการเข้าพบด้วยเรื่องนี้มากกว่า 10 คน แต่ไม่ได้ให้ใครเข้าพบเลย นอกจากจุรีพร และยอมรับว่าได้พบนายกิ๊กด้วย แต่แค่เข้ามาลา โดยไม่ได้มีการพูดคุย แม้แต่หน้าก็จำไม่ได้ เมื่อนางจุรีพร เดินทางกลับ จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุยด้วย จนเกิดเป็นคลิปฉาวออกมา ซึ่งเจ้าตัวยังยืนยันเป็นการพูดเล่น

หลังนำข้อมูลมาชนกัน ก็ชัดเจนว่า มีการคุยเรื่องโควตาลอตเตอรี่ กิ๊กได้พบแรมโบ้อีสาน จนทำให้คลายข้อสงสัย จึงอยากให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายตรวจสอบ สิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตไว้ด้วย คือ
1. สาเหตุที่จุรีพร เปิดลำโพงให้ กิ๊ก ฟัง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องจากเรื่องโควตาลอตเตอรี่ ที่คุยกันไว้ใช่หรือไม่
2. น้องที่ จุรีพร พูดถึง คือ กิ๊ก ใช่หรือไม่ ที่พร้อมให้เงิน แลกกับการดูแลลอตเตอรี่
3. แรมโบ้อีสาน ไม่สงสัยว่า น้องคือใคร เพราะรู้อยู่แล้วว่าคือ กิ๊ก คนที่ไปคุยเรื่องโควตาลอตเตอรี่ใช่หรือไม่
4. เป็นการเรียกรับเงินแบบเนียนๆ โดยใช้จุรีพร เป็นทางผ่านใช่หรือไม่

ซึ่งหากเป็นไปตามที่ผมตั้งข้อสังเกต ผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิดในฐานะข้าราชการการเมืองมีสองคน คือ แรมโบ้อีสาน และ จุรีพร ส่วน นายกิ๊ก ผมยกประโยชน์ให้กันไว้เป็นพยาน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวพันกับการทุจริต อีกทั้งเป็นคนใกล้ตัวนายกฯทั้งคู่ เนื่องจากทำงานในสำนักนายกรัฐมนตรี ความจริง นายกฯ ควรมีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติการร้องเรียนของสังคม ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่นายกฯต้องทำความจริงให้กระจ่าง กับปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคคลในปกครองของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่นายกฯไม่ได้ทำอะไรเลย ที่สำคัญ จุรีพร ควรต้องออกจากตำแหน่งทันที เหมือนกับแรมโบ้อีสาน ไม่ใช่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมแบบไม่รู้ร้อน รู้หนาว และสังคมก็ไม่ควรปล่อยผ่านเรื่องนี้ เพียงแค่ชื่อ จุรีพร ไม่ได้ติดตลาดเหมือนแรมโบ้อีสาน เพราะผู้หญิงคนนี้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนทุกเดือน เดือนละ 25,410 บาท บวกเงินประจำตำแหน่งอีก 2,850 บาท รวม 28,260 บาท

“ผมจึงอยากฝากเรื่องนี้ถึงผู้มีอำนาจไว้ 3 เรื่อง คือ 1. นายกฯต้องตั้งกรรมการกลางสอบข้อเท็จจริงสอง ขรก.การเมืองในสังกัดของท่านทันที 2. จุรีพร ต้องออกจากตำแหน่งทันที จนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น และ 3. สอบสวนประเด็นความผิดที่ผมตั้งข้อสังเกตที่เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกับจุรีพร สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฉากหนึ่งในวังวันของคนที่อยู่กับอำนาจ ซึ่งเชื่อได้ว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ อาจเกิดขึ้นอีกกับหลายคนในหลายหน่วยงาน เพราะผลประโยชน์คือ สิ่งเร้า ให้คนทำงานการเมืองหลงผิดได้โดยง่าย หากไม่มีความหนักแน่น และไร้ซึ่งความสุจริต พบเจอเมื่อไหร่ ต้องกำจัดออกไป” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น