ทนายเดชาออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีกระแสข่าวอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยอมจ่ายเงินให้เหยื่อหวังจบคดี ย้ำเป็นคดีละเอียดอ่อน จึงอยากฝากไว้เป็นข้อคิด แต่ส่วนตัวเห็นใจเหยื่อทุกคน แต่ว่าคดีประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเคลียร์กันลับหลัง แล้วคนอื่นจะกลายเป็นหมา
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ออกมาเปิดเผยว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม โดยหลอกว่าจะพามาคุยเรื่องงานและสอนน้องเรื่องหุ้น เศรษฐศาสตร์ แต่พอมาจริงกลับคุยแต่เรื่องเพศ และลวนลามต่างๆ นานา ซึ่งได้แนะนำให้แจ้งความดำเนินคดีและเก็บหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้ว และต่อมาผู้เสียหายอีกเกือบสิบคนได้ออกมาแฉเพิ่ม ระบุรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ไม่ใช่แค่ลวนลามแต่ถึงขั้นกระทำชำเรา เหยื่อบางคนต้องหนีไปเรียนเมืองนอก บางคนป่วยซึมเศร้า ผ่านไป 15-20 ปีสันดานไม่เปลี่ยน แม้จะแต่งงานแล้วก็ตาม แฉซ้ำอีกเคยก่อเหตุขึ้นศาลอังกฤษ คดีข่มขืนเยาวชน พบเหยื่อรายล่าสุดอายุแค่ 18 ปี ยังเป็นเยาวชนอยู่เลย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (17 เม.ย.) เพจ "ทนายคลายทุกข์" หรือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์คลิปวิดีโอ ซึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ในกรณีมีกระแสข่าวอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยอมจ่ายเงินให้เหยื่อหวังจบคดี
โดยทางทนายเดชาได้ระบุว่า ประเด็นนี้ อยากจะเรียน คดีอนาจาร หรือคดีข่มขืน เท่าที่เคยมีประสบการณ์มาเป็นคดีส่วนตัว ถ้าไม่ได้ทำต่อหน้าธารกำนัล ส่วนใหญ่ถ้าเคลียร์กันเรื่องก็จบ คนอื่นที่กำลังเชียร์กันอยู่นั้น ทำไปทำมาจะกลายเป็นหมา หอนกันไป โฮ่งๆ กันไปหมด อาหารเม็ดเยอะแยะมากมาย เดี๋ยวหลายๆ คนจะได้กินอาหารเม็ด เพราะคดีพวกนี้เป็นคดีที่เกิดในที่ลับ เป็นเรื่องของคนสองคน ส่วนผู้เสียหายต่างๆ เหตุเกิดมานานแล้ว 5 ปี 10 ปี หรือ 3-4 ปี ที่ทำในที่ลับทั้งหลาย มันขาดอายุความหมดแล้ว การจะมาแจ้งความ หรือให้สัมภาษณ์สื่อต้องระวัง เพราะถ้าผู้ต้องหาเอาเรื่องขึ้นมา ก็อาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จ หรือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าคดีพวกนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน จึงอยากฝากไว้เป็นข้อคิด แต่ส่วนตัวเห็นใจเหยื่อทุกคน แต่ว่าคดีประเภทนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเคลียร์กันลับหลัง แล้วคนอื่นจะกลายเป็นหมา"