ป้าเป้าให้ข่าวกับเว็บประชาไท ปมซ้อโอ่งป่วนเวทีคณะก้าวหน้าที่พัทยา อ้างไม่ทราบมาก่อนเรื่องข้อความบนป้ายและคำปราศรัย แต่อีกด้าน "มานี" คนที่ไปกับป้าเป้าแฉกลับ รู้เรื่องทุกอย่าง "เขาให้มาด่าธนาธร กูเสื้อแดง กูเอาเพื่อไทย กูทำเพื่อทักษิณ เลิกคบกันไปเลย" ลั่นเป็นวิธีที่ทุเรศ สกปรก พรรคที่โดนอยู่ข้างเด็กทำแบบนั้นได้ยังไง ไม่เกลียดแต่โกรธและเสียใจ
วันนี้ (16 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดแคมเปญทวงคืนพัทยา พร้อมเปิดตัวนายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา ที่ลานจอดรถเอกชนข้างแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่าในงานแถลงข่าวแคมเปญทวงคืนพัทยา มีนางจิดาภา ธนหัตถชัย หรือซ้อโอ่ง อดีตแกนนำคนเสื้อแดงพัทยา ได้ปราศรัยผ่านโทรโข่งโจมตีการทำงานของคณะก้าวหน้า พร้อมเรียกร้องให้คณะก้าวหน้าต้องไม่ส่งว่าที่ผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกเมืองพัทยา
นางจิดาภาระบุว่า ตนต้องการคุยกับนายธนาธร คนอื่นไม่ต้องมายุ่ง ไม่ได้มาป่วนแต่ให้มาฟังความรู้สึกของคนพัทยา ถ้าทำเพื่อคนพัทยาจริงก็ต้องมาคุยกับตนก่อน ไม่ใช่มาเปิดเวทีแบบนี้ ทุกคนรักประชาธิปไตยหมด แต่ถ้าฟังตนตั้งแต่เข้ารัฐสภาปัญหาจะไม่เกิดแบบนี้ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาคือการถือป้ายของนางวรวรรณ แซ่อั๊ง หรือป้าเป้า ผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ราษฎร 2563 หรือม็อบสามนิ้ว ที่มาเป็นเพื่อนซ้อโอ่ง แต่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พบว่าป้ายที่นางจิดาภาเตรียมเอาไว้ให้ป้าเป้าและเพื่อนผู้ชุมนุมถือเขียนด้วยลายมือ ระบุว่า "ไปให้พ้นคนชังชาติ" "ขายชาติ" "หนักแผ่นดิน" ป้ายดังกล่าวกลายเป็นที่วิจารณ์จำนวนมาก
ล่าสุด นางวรวรรณ แซ่อั๊ง หรือป้าเป้า เปิดเผยต่อสำนักข่าวประชาไท ว่า หลังไปขึ้นศาลในคดีการชุมนุมที่ท่าน้ำนนทบุรี ตนและกลุ่มเพื่อนได้เดินทางต่อไปที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ตามคำชวนของเพื่อนและคนรู้จัก อ้างว่าจะให้มาร่วมเดินขบวนเรียกร้องยุติสงครามในยูเครน แต่เมื่อมาถึงก็ได้พบกับนางจิดาภา ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่สมัยการชุมนุมคนเสื้อแดงสิบกว่าปีก่อน หลังจากนั้นได้เดินทางมาที่ชุมนุม ทีแรกคิดว่าเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องยุติสงครามในยูเครน แต่พบว่าเป็นงานเปิดตัวผู้สมัครนายกเมืองพัทยาของคณะก้าวหน้า ส่วนป้ายที่แจกตนไม่เห็นข้อความ เพียงรับป้ายมาแจกตามที่กลุ่มคนรู้จักยื่นมาให้ มาทราบทีหลังเมื่อกลับถึงที่พักว่าป้ายเหล่านั้นเขียนข้อความว่าอะไร
อย่างไรก็ตาม แม้จะรู้จักกับนางจิดาภา แต่ไม่เห็นด้วยกับการปราศรัย เพราะตนไม่ได้มีอคติกับคณะก้าวหน้าหรือพรรคก้าวไกล อีกทั้งยังรู้จัก ส.ส. และคณะทำงานหลายคน เคยพูดกับนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า “ตนรักพรรคก้าวไกล แต่ก็ทิ้งเพื่อไทยไม่ได้” รู้สึกขอบคุณมาตลอดที่ช่วยเหลือนักกิจกรรมและประชาชนที่ถูกจับกุม รวมทั้งยังมีโอกาสได้พูดคุยกับ ส.ส. และคณะทำงานพรรคเพื่อไทย ตนไม่เคยมีปัญหากับคณะทำงานจากทั้งสองพรรค ยืนยันว่าไม่เคยรับเงินจากพรรคการเมืองให้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ในวันนั้นคนจากพรรคก้าวไกลไม่ได้ว่าอะไร ยังพาไปถ่ายรูปกับผู้สมัคร แต่มาเตือนว่าอย่าไปยุ่ง ไม่อยากให้ยายเสียชื่อเสียง แต่ทางนี้ก็เพื่อน ซึ่งพยายามเดินเลี่ยงออกจากแนวปราศรัย ส่วนเสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่ถือโทษเพราะเกิดจากไม่ทราบเหตุผลของกันและกัน
ด้านเฟซบุ๊ก Manee Olive Olive ของนางมานี (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ชุมนุมที่เดินทางไปกับนางวรวรรณ กล่าวพูดคุยกับเฟซบุ๊ก สำนักข่าวราษฎร พร้อมกับนายดิว (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ว่า หลังเสร็จจากศาลจังหวัดนนทบุรี นางวรวรรณกับแม่เงาะชักชวนไปพัทยา อ้างว่าหลวงพ่อรายหนึ่งชักชวนไปเดินขบวนต่อต้านสงครามในยูเครน มีผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยไปด้วย นางมานีกล่าวว่า ถ้าจะให้ไปให้ช่วยออกค่าเติมแก๊สเพราะตนไม่มีเงิน นางวรวรรณจึงให้ค่าเติมแก๊สไป 500 บาท จึงได้ชักชวนเพื่อนไปอีก 2 คน เมื่อไปถึงแหลมบาลีฮาย ได้คุยกับพระที่ตามไปสองรูป หนึ่งในนั้นกล่าวว่าไม่เข้าร่วม เพราะหลวงพ่อกับแม่ชีเป็นสลิ่ม ถ้าตนรู้คงไม่มากับป้าเป้า ก็เลยนั่งเล่นอยู่
สักพักหลวงพ่อกล่าวว่าอยากฉันข้าวหลาม ก่อนจะหายไปพร้อมกับนางวรวรรณ จากนั้นจึงมีรถขยายเสียงมา นางวรวรรณเรียกนางมานีว่า มานี่ ให้ไปหา ตนถามว่าไปไหน นางวรวรรณกล่าวว่า "ซ้อโอ่งมาแล้ว" เมื่อมาถึงแม่เงาะกับนางจิดาภาก็กอดกันและแจกแผ่นป้าย เมื่อเห็นป้ายคำว่าล้มเจ้าก็สอดกลับแล้วเลี่ยงหนีไป และเห็นว่านางจิดาภาด่านายธนาธรชัดเจน จากนั้นได้เห็น น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ตนได้ทักทายและยกมือไหว้ขอโทษ ขณะที่นายธนาธรลงจากเวที ก็เดินเข้าไปหาและกล่าวขอโทษ ไม่รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายธนาธรกล่าวว่า ไม่เป็นไร ก่อนที่นางมานีจะขอถ่ายรูป ยืนยันว่าแม้จะมีแนวคิดอย่างไรก็ตามก็ไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนั้นกับใคร
ขณะนั้นตนกังวลเป็นห่วงนางวรวรรณจึงเรียกคนที่ถือป้าย 2 คนออกมา คนที่ถือป้ายดังกล่าวก็งงเหมือนกันเพราะไม่รู้เรื่อง บอกว่า สงสารป้าเป้าโดนหลอกหรือเปล่า เห็นป้าเป้ายืนทำหน้างง เลยให้ไปดึงป้าเป้าออกมา จากนั้นนางวรวรรณเดินมากับแม่จอย นางวรวรรณ บอกว่า "กูจะไม่รู้เรื่องได้ยังไง กูรู้เรื่อง เขาให้มาด่าธนาธร กูเสื้อแดง กูเอาเพื่อไทย กูรักเพื่อไทย กูทำเพื่อทักษิณ เพื่อไทยให้อะไรได้มากกว่า เพื่อไทยส่งเด็กให้เรียนปีหนึ่งไม่ใช่น้อย" ส่วนรถของนางจิดาภาก็เงียบไปในช่วงปราศรัยเพราะเจ้าหน้าที่ขอร้อง หลังจากจบเหตุการณ์นั่งอยู่บนรถ นางวรวรรณกลับมาขึ้นรถ กล่าวว่า เนี่ย เขาจะค้างคืนกัน แต่เป็นห่วงพระที่มาด้วย เขาจะไปบวชให้ใครก็ไม่รู้ ตนจึงให้นางวรวรรณกลับไปคุยเพราะรถเต็มแล้ว สักพักก็ขับรถออกไป
ระหว่างนั้นได้โทร.คุยกับนางวรวรรณอีกครั้งว่า รู้ไหมว่าข้อความที่ให้ถือมีอะไรบ้าง นางวรวรรณกล่าวว่า "พวกมึงไม่รู้เรื่อง ทำไมกูจะไม่รู้ ไม่มีหรอกป้ายชังชาติ ป้ายล้มเจ้า" ก็เลยกล่าวว่า ทำไมจะไม่มี กลับไปดูไลฟ์ กลับไปดูเฟซบุ๊ก เขาแชร์กันสนั่นแล้ว นางวรวรรณก็เลยกล่าวว่า "เออ ไม่ต้องมาคบกู เลิกคบกูไปเลย กูไม่มายด์ กูไม่แคร์" ขณะที่นายดิวกล่าวว่า เมื่อตนไปเช็กข่าวกับพรรคเพื่อไทย พบว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัครนายกเมืองพัทยา เมื่อถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คนที่ไปด้วยก็ได้ยินกับหูว่าเป็นอย่างนั้น นางมานีกล่าวกับนางวรวรรณว่า ยายรู้ไหมว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกต้องนะ ป้ายที่ถือมามีคำว่าล้มเจ้า ชังชาติ และป้ายด่าธนาธร นางวรวรรณกล่าวว่า "รู้ มึงเป็นอะไรมากหรือเปล่า เลิกคบกันไปเลย"
เมื่อถามความรู้สึกหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางมานี กล่าวว่า เป็นวิธีการที่สกปรกมาก ไม่สมควรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าใครก็ไม่สมควรที่จะโดนแบบนี้ บางคนถามว่าจะกัดกันทำไมให้สลิ่มมันด่า ก็อยากจะบอกว่า ถ้าคุณไม่โดนอย่างที่เราโดน เราเสียใจ เราศรัทธา เรารักเขา แล้วมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ให้เราพูดอะไรเลยก็ดูเหมือนเราสมรู้ร่วมคิด เพราะสกปรกจริงๆ อีกอย่างหนึ่ง การทำอย่างนั้น พรรคที่โดนคือพรรคที่คนชื่นชอบ อยู่เคียงข้างเยาวชน และช่วยประกันตัวเวลาถูกจับกุม แล้วเราจะไปทำร้ายเขาเพื่ออะไร เราไม่ใช่ติ่งใคร แต่เป็นวิธีการที่ทุเรศ สกปรก
"อยากบอกป้าเป้าว่า ปัญหาตรงนี้ทุกคนอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ป้าเป้าไม่รู้จริงหรือใครสั่งให้ป้าเป้าทำ ถ้าป้าเป้าอยากพูดความจริงก็เจอกันได้ ยินดีเสมอ ไม่ได้เกลียดเพียงแค่โกรธและเสียใจเท่านั้น ส่วนที่อ้างว่าไม่อยากให้ตัดคะแนน ถ้าไปใช้วิธีการสกปรก มีผลดีกับใครบ้าง ผลเสียก็ตกกับพวกเรา ทุกวันนี้เราทำเพื่อใคร ทำไมต้องเอาประเด็นมาถกเถียง มาครอบงำในสิ่งที่เราว่ามันไม่ใช่" นางมานี กล่าว
ชมคลิป คลิกที่นี่