เอ๊ะยังไง! “ป้าเป้า สามนิ้ว”- “ซ้อโอ่ง แดงพัทยา” ไล่ “ธนาธร” ชังชาติ “ช่อ” เงิบ คดีเมย์เดย์ฯศาลยกฟ้อง “หมอวรงค์”

สนั่นหาด! ป้าเป้า สามนิ้ว-ซ้อโอ่ง แดงพัทยา นำทีมขับไล่ “ธนาธร” พร้อมแฉพฤติกรรมขณะเป็น ส.ส. เปิดคำพิพากษาคดีเมย์เดย์เมย์เดย์ “ช่อ” ฟ้อง “หมอวรงค์-บุญเกื้อ” ศาลยกฟ้อง ชี้ “เงินบริจาคของ ปชช.” ตรวจสอบได้

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (15 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น หวดกัน สนั่นหาด! ป้าเป้า สามนิ้ว-ซ้อโอ่ง แดงพัทยา นำทีมขับไล่ “ธนาธร” พร้อมแฉพฤติกรรมในขณะเป็น ส.ส.

โดยระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 65 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมแกนนำคณะก้าวหน้า เปิดตัวผู้สมัครลงเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเมืองพัทยา (สม.พัทยา) ทั้ง 4 เขต 24 คน พร้อมทั้งเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเมืองพัทยาของคณะก้าวหน้า คือ นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย

แต่มีประเด็นที่สื่อต่างไม่ยอมพูดถึง โดยในช่วงเย็นของการเปิดตัว ได้มีรถกระบะขนเครื่องเสียง เข้ามาในพื้นที่การเปิดตัวของ คณะก้าวหน้า พร้อมทั้งออกมาต่อต้าน และแฉพฤติกรรมต่างๆ หลังจากที่เคยไปยื่นหนังสือถึง นายธนาธร ที่สภา แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหา แสดงถึงความไม่จริงใจ

โดยผู้ที่นำกลุ่มเสื้อแดงนี้มา ก็คือ นางจิดาภา ธนหัตถชัย หรือ ซ้อโอ่ง อายุ 48 ปี แกนนำเสื้อแดงพัทยา และอีกคนที่กำลังเป็นประเด็น นั่นก็คือ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า หนึ่งในคนที่ขับเคลื่อนกับกลุ่มสามนิ้ว และกลุ่มสามนิ้วต่างเชิดชูเป็น “ฮีโร่” มาโดยตลอด


ทั้งนี้ ป้าเป้า แสดงออกชัดเจนว่า ไม่เอา นายธนาธร เพราะในขณะที่ ซ้อโอ่ง พูดแฉพฤติกรรมเบื้องหลัง นายธนาธร อยู่นั้น ทางด้าน ป้าเป้า ก็ได้ยืนถือป้ายที่มีข้อความว่า “ไปให้พ้นคนชังชาติ” ส่งผลให้ ป้าเป้า โดนกลุ่มสามนิ้วโจมตีอย่างหนัก

ด้านของ เพจ “เจ๊จุก คลองสาม” ยังได้ออกมาโพสต์ข้อความในทำนอง ว่า เพราะเป็นแบบนี้เอง กลุ่มก้าวหน้า และสื่อที่สนับสนุน ถึงไม่มีการนำเสนอข่าวการเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเมืองพัทยาของคณะก้าวหน้ามากมายเท่าที่ควร เพราะกลัวว่าจะถูกขุดประเด็นนี้หรือไม่ ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ครั้งนี้ถือว่า เสื้อแดง กับ เสื้อส้ม น่าจะเปิดศึกซัดกันอย่างชัดเจนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม นายธนาธร กล่าวถึง นายกิตติศักดิ์ ว่า เป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เคยทำงานให้กับธนาคารชั้นนำของไทย และธนาคารชั้นนำระดับโลก พร้อมเชื่อมั่นว่า นายกิตติศักดิ์ จะไม่ใช่งูเห่า หลังทำงานด้วยกันมานาน 3 ปี แม้จะมีความใหม่ทางการเมือง แต่มีประสบการณ์ด้านบริหาร มีกระบวนการคิดสมัยใหม่ที่เชื่อว่าจะสามารถบริหารเมืองพัทยาได้เป็นอย่างดี ส่วนการหาเสียงจะเน้นที่นโยบาย ซึ่งจะแถลงเปิดนโยบายในเดือนเมษายนนี้


ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น ช่อ เงิบ! เปิดผลคำพิพากษา “หมอวรงค์-บุญเกื้อ” ชนะคดีเมย์เดย์เมย์เดย์ ศาลยกฟ้อง!

เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ชี้แจงกรณีเงินบริจาคจากโครงการ เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน 7,751,783 ล้านบาท ของคณะก้าวหน้า ว่า เงินบริจาค มีหลักฐานการโอนเงินกว่า 2,431 คน รวมทั้ง 15 รายชื่อ ที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวหาว่าเป็นอวตาร โดยได้มีการชี้แจงผ่านเพจคณะก้าวหน้า และจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายแพทย์วรงค์ และ นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ซึ่งมองว่า การออกมากล่าวหาเป็นเรื่องเกมการเมืองที่ไม่ลงทุนและหวังดิสเครดิตทางการเมือง

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน รู้สึกเห็นใจนายแพทย์วรงค์ เพราะสอบตกแพ้พรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้ง และต้องการมีที่ยืนทางการเมือง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ นพ.วรงค์เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหากชนะก็จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เห็นบทบาทของ นพ.วรงค์ ในการทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติ

พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่า การยื่นฟ้องหมิ่นประมาททั้งสองคน ไม่ได้ต้องการใช้กฎหมายเพื่อปิดปาก แต่ต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่าง ว่า ไม่ควรมีใครถูกใส่ร้ายป้ายสีโดยปราศจากหลักฐาน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นฟ้องนายบุญเกื้อ ก่อนจะรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องนายแพทย์วรงค์ต่อไป ส่วนค่าเสียหาย ขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายจะพิจารณา ส่วนจะให้ 15 รายชื่อที่ถูกกล่าวหาต้องออกมาแสดงตัวยืนยันกับสังคมหรือไม่นั้น นางสาวพรรณิการ์ เห็นว่า จะเป็นการรบกวน แต่ขอให้สื่อไปตรวจสอบเอง และหากนายแพทย์วรงค์อยากเห็นหลักฐานการโอนเงินทั้งหมด ขอให้ไปดูในชั้นศาล

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2464 นพ.วรงค์ และ นายบุญเกื้อ ได้เดินทางมาตามที่ศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.วรงค์ และ นายบุญเกื้อ เป็นจำเลย แยกสำนวนกัน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีทั้งสองกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ และคณะก้าวหน้า อมเงินบริจาคในโครงการ “คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน” ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ ไม่ได้เดินทางมา โดยส่งทนายความมาแทน

ภายหลังการพิจารณาคดี นายบุญเกื้อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เราได้ไปติดประกาศหมายศาลที่ตึกไทยซัมมิท เพื่อขอรายละเอียดในโครงการเมยเดย์เมย์เดย์ เกี่ยวกับรายชื่อผู้ที่ขอเงินเข้ามา และเมื่อได้รับเอกสารมาแล้ว ตรวจสอบโดยไล่ดูเรียงตามลำดับหลายรายชื่อในระดับต้นๆ น่าจะเป็นผู้ที่ไม่ได้รับเงินในโครงการ และรายชื่อผู้ได้รับเงินก็ไม่ได้อยู่ในลำดับต้นตามที่โครงการบอกไว้ หลังจากนี้ จะมีการไปเรียบเรียงรายชื่อ 2,427 คนแรก มาเปิดเผยต่อสาธารณชน มีใครที่ไม่ได้รับเงินช่วยให้ติดต่อมาที่ตน เพื่อหาตัวผู้ถูกหลอกลวง คณะก้าวหน้าโฆษณาแล้วไม่ได้ทำเท่ากับหลอกลวงประชาชน ทั้งนี้ ศาลได้เริ่มนัดสืบพยานในวันที่ 11 ก.พ. 2565

ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้ปรึกษากับทีมทนาย หลักฐานที่ส่งมาเป็นไฟล์มีประชาชนขอรับการช่วยเหลือมา 3 ล้านรายชื่อ แต่เงินที่คณะก้าวหน้าจ่ายไปจริงแค่ 2,427 รายชื่อ เทียบกับ 3 ล้าน ถือว่าแตกต่างกันมาก เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลรายชื่อได้มา 150,000 รายชื่อเบื้องต้น ตรวจสอบจำนวนมากใน 2,427 รายชื่อแรก ไม่มีรายชื่อผู้ได้รับเงิน จึงจะให้นายบุญเกื้อประกาศรายชื่อ 2,427 รายชื่อแรก ใครไม่ได้เงินให้แจ้งนายบุญเกื้อ มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้รับภายใต้หลักการ คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์ โจทก์จะเปลี่ยนเป็นจำเลย เพราะนายบุญเกื้อจะไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหลอกลวงประชาชน

ล่าสุด วันนี้ (15 มี.ค.) นพ.วรงค์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลคำพิพากษา โดยบอกว่า #ผลคำพิพากษาคดีเมย์เดย์เมย์เดย์ศาลยกฟ้อง

ถ้าจำกันได้คดีเมย์เดย์เมย์เดย์ 3,000 บาทถ้วนหน้า ไม่ต้องพิสูจน์ความจน คุณช่อฟ้องผมกับคุณบุญเกื้อ วันนี้ศาลมีคำพิพากษา ในคดีที่คุณช่อฟ้องผม (ของคุณบุญเกื้อจำหน่ายคดี)


บทสรุป ศาลถือว่า เงินบริจาคประมาณ 7.2 ล้าน เป็นเงินของประชาชนจำนวนมาก และคณะก้าวหน้าเป็นกลุ่มการเมือง ใครๆ ก็สามารถตั้งข้อสังเกตตรวจสอบได้

รายชื่อที่ผมขอให้คณะก้าวหน้าประกาศ 15 รายชื่อ และขอให้แสดงหลักฐานการโอนเงิน จากการที่ผม (จำเลย) ไปตรวจสอบ กับทะเบียนราษฎรไม่พบรายชื่อ 11 รายชื่อ การโพสต์เฟซบุ๊กของผม ให้แสดงหลักฐาน 15 รายชื่อ จึงเป็นการท้าทาย เพื่อให้แสดงหลักฐาน ถ้าแสดงได้ก็จะชื่นชม ถ้าแสดงไม่ได้จะถือว่าหลอกลวงประชาชน จึงไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท

ผลสรุป ศาลยกฟ้องครับ ดวงวิญญาณคุณบุญเกื้อรับทราบด้วยครับว่า คดีเมย์เดย์เมย์เดย์ พวกเราชนะครับ

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ อะไรทำให้ “ป้าเป้า” ฮีโร่ “สามนิ้ว” ไปร่วมกับ “ซ้อโอ่ง แดงพัทยา” ขับไล่ นายธนาธร แถมขึ้นถือป้าย “ไปให้พ้นคนชังชาติ” อาจมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา? หรือไม่ นายธนาธร อาจไม่ได้รับการยอมรับ ของกลุ่มสามนิ้วบางส่วนแล้ว?

ส่วน “ซ้อโอ่ง แดงพัทยา” พอเข้าใจได้ ว่า จากที่เคยไปยื่นหนังสือให้นายธนาธร ช่วยแก้ปัญหาที่สภา แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหา แสดงถึงความไม่จริงใจ จึงใช้โอกาสที่นายธนาธรไปเปิดตัวทีมผู้สมัครการเมืองท้องถิ่นเมืองพัทยา ออกมาแฉประจานอย่างที่เห็น

สำหรับ คดีเมย์เดย์เมย์เดย์ ที่ “ช่อ” ฟ้อง “หมอวรงค์” กับ “บุญเกื้อ” แต่ศาลยกฟ้องนั้น ถือว่า “ช่อ” และ “คณะก้าวหน้า” เสียหายอย่างมาก ยิ่งถ้าไม่มีการเผยรายชื่อประชาชนที่ได้รับเงิน 3,000 บาทถ้วนหน้า ไม่ต้องพิสูจน์ความจนได้ครบตามที่แถลงเอาไว้ และมีตัวตนอยู่จริง อาจถูกมองว่า “หลอกลวงประชาชน” ตามที่ถูกกล่าวหาได้ แถมยังอาจถูกฟ้องตามกฎหมายอีกต่างหาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ของคณะก้าวหน้าที่ประกาศตัว ต้องการทำการเมืองใหม่ ให้มีความโปร่งใส แต่แค่เริ่มต้นก็ตายน้ำตื้นเสียแล้ว

เหนืออื่นใด สิ่งที่ทำให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ ธาตุแท้ของคนที่อ้างตัวเป็นพวกหัวก้าวหน้า พวกต้องการปฏิวัติสังคม ประชาธิปไตย เพื่อสังคมใหม่ การเมืองใหม่ แต่สุดท้ายก็เผยไต๋ออกมาให้เห็นว่า ตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร คนไทยคงได้คิดมากขึ้นแล้วว่า กลุ่มคนเหล่านี้น่าเชื่อถือ และพร้อมฝากอนาคตเอาไว้ได้หรือไม่?