xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.ย้ำจุดยืนช่อง 5 เป็นกลาง ให้ผู้ผลิตภายนอกเรื่องปกติ พิธีกรโวยเพื่อไทยหลอกด่าข่าวเป็นเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกกองทัพบกแจงกรณี ส.ส.เพื่อไทยอภิปรายให้ผู้ผลิตภายนอกร่วมผลิตข่าวเป็นเรื่องปกติ ประกันรายได้ขั้นต่ำ 65 ล้านบาทต่อปี ย้ำจุดยืนประโยชน์สาธารณะ สื่อสารสร้างสรรค์ สร้างจิตสำนึกอุดมการณ์รักชาติ ขณะที่พิธีกรข่าวถูกพาดพิงชื่อรายการในสภาฯ ท้ากลับ "สมคิด" ข้อมูลเท็จตรงไหนบอกมา ชี้หลอกด่าชื่อรายการกลางสภาฯ ด้อยค่า-ไม่แฟร์

วันนี้ (21 ก.พ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ออกมาอภิปรายถึงการดำเนินงานของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.) ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุถึงการร่วมผลิตรายการข่าวกับ บริษัท กาแล็กซี มัลติมีเดีย คอร์เปอเรชั่น จำกัด กังวลว่าอาจส่งผลต่อการบริหารจัดการและความเป็นกลางของทางสถานีว่า ททบ.เป็นกิจการด้านสื่อสารมวลชน ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพบก มีสถานะเป็นผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการบริการสาธารณะประเภทที่ 2 ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยสาธารณะ

สถานีดำเนินการภายใต้อุดมการณ์ของทางสถานีคือ "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ตลอดมา โดยไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากทางราชการ และยังมีผู้จัดรายการและพันธมิตรร่วมผลิตเนื้อหาสาระอย่างหลากหลาย ตามวิถีแห่งการดำเนินกิจการด้านสื่อสารมวลชน ปัจจุบัน ททบ.บริหารจัดการสถานีด้วยตนเอง สำหรับการร่วมมือกับบริษัท กาแล็กซี มัลติมีเดีย คอร์เปอเรชั่น ในปี 2565 นี้ ถือเป็นเรื่องปกติในการนำพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพด้านการสื่อสารมาร่วมผลิตรายการข่าว เหมือนการบริหารจัดการของสถานีโทรทัศน์ทั่วไป และบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเข้ามาในการบริหารสถานี โดยได้มีการกำหนดการจัดแบ่งรายได้และการประกันรายได้ขั้นต่ำ 65 ล้านบาทต่อปี หากมีรายได้เพิ่มขึ้น ททบ.ก็จะได้รับมากขึ้นตามสัดส่วน

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงเรื่องการจัดสรรรายได้เป็นพื้นฐานค่าตอบแทนทั่วไปของการบริหารงานด้านสื่อสารมวลชน แต่สาระสำคัญที่สื่อในเครือของกองทัพบกยึดมั่นตามนโยบายคือ การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กสทช. สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ทันสมัยมีประสิทธิภาพ เพื่อความรักความสามัคคี สนองตอบภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศ สร้างจิตสำนึก อุดมการณ์รักชาติรักแผ่นดินและให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลรอบด้าน ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ สังคม เป็นช่องทางสื่อสารให้ประชาชนรู้เท่าทันในทุกเหตุการณ์ เพื่อการปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันปรากฏข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนความจริงผ่านช่องทางต่างๆ ออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งนี้ หากภาคส่วนใดได้รับผลกระทบหรือมีข้อมูลการดำเนินการของ ททบ.ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ สามารถใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายหรือช่องทางที่รัฐได้กำหนดไว้

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่


ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การที่ ททบ.5 อนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์เข้าไปร่วมผลิตรายการ เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่รอบคอบและไม่ระมัดระวัง เพราะรัฐต้องรักษาคลื่นความถี่ และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติแห่งชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ป้องกันไม่ให้มีกลุ่มบุคคลใดใช้ประโยชน์ต่อคลื่นความถี่โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน แต่กลับปล่อยปละละเลยให้ พล.อ.รังษี กิตติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 และบริษัท กาแล็กซี มัลติมีเดีย คอร์เปอเรชั่น ร่วมกันลงนามผลิตข่าว ททบ.5 มิติใหม่ เมื่อต้นปี 2565 ทำให้มีข้อสงสัยว่า ก่อนหน้านี้มีบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด ของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จะเข้ามาผลิตข่าวช่อง 5 แต่ก็มีผู้บริหารบางคนคัดค้าน จึงได้ตั้งบริษัท กาแล็กซี มัลติมีเดีย คอร์เปอเรชั่น เมื่อ 23 ก.ย. 2564 จดทะเบียนแค่ 7 วัน ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ก็ได้ลงนามผลิตรายการกับ ททบ.5 ซึ่งผิดกับวิสัยของการประกอบการ อีกทั้งผลประโยชน์ที่ ททบ.5 จะได้รับคือ 65 ล้านบาท

นายสมคิดยังนำภาพผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ เช่น นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เคยถ่ายรูปในการชุมนุม และภาพกับแกนนำ กปปส. ซึ่งตนห่วงใยกองทัพบกเรื่องความมั่นคงของประเทศ ความรักความสามัคคีของคนในชาติ พล.อ.ประยุทธ์ควรเข้าไปดูเรื่องนี้ และอยากให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักษา ททบ.5 ที่เป็นของกองทัพบก ไม่ให้เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา นอกจากนี้ ยังเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งคณะกรรมการสอบกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 ว่าเหตุใดไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคา แต่กลับไปเอาคน กลุ่มที่ตัวเองชอบ พร้อมขอให้เปิดสัญญาระหว่าง ททบ.5 กับ บ.แกแลคซี่ฯ โดยกรรมการที่จะมาสอบต้องเป็นคนนอก เมื่อผลสอบออกแล้ว ขอให้แจ้งสาธารณชนและสื่อมวลชนรับทราบว่าใครได้ประโยชน์ เพื่อรักษาความเป็นสื่อของกองทัพบกให้อยู่กับประชาชน

ชมคลิป คลิกที่นี่

อย่างไรก็ตาม ในตอนหนึ่งนายสมคิดได้กล่าวพาดพิงรายการ "ช่อง 5 ข่าวเป็นข่าว" ว่า "ช่อง 5 ข่าวเป็นเท็จ" ทำให้ในวันดังกล่าว นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ดำเนินรายการ กล่าวตอบโต้ว่า รายการของตนชื่อว่า ช่อง 5 ข่าวเป็นข่าว นายสมคิดลองจับเท็จมาว่าข่าวไหนเป็นเท็จ ตนไม่มีสิทธิที่จะไปอภิปรายในสภาฯ เหมือนนายสมคิด ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ลองจับเท็จมาว่าตนพูดเท็จตรงไหน มีข้อมูลเท็จตรงไหน และให้ตนลองจับเท็จในสภาฯ เชื่อว่าจับได้เกือบจะทุก 5 นาที ว่าเท็จกับบิดเบือน แทนที่จะมาโจมตีดิสเครดิตด้วยการพูดเช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีเจตนาหรือไม่ แต่การทำอย่างนี้ไม่แฟร์ ไม่เห็นเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นในวงการข่าวสารบ้านเมือง ทั้งกรณีคนด่าในหลวง คนบิดเบือนโจมตีจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ หรือไปเลียเท้านักโทษหนีคดีโกงอยู่ต่างประเทศ บิดเบือนข้อมูลเรื่องวัคซีนของบริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ฯ ได้ยินไหม เห็นแล้วทำอะไร เราทำในสิ่งที่เรารายงานข้อเท็จจริงว่าความจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร เราทำหน้าที่อย่างอิสระตามวิชาชีพ แต่วันนี้กลับถูกลากไปสู่เวทีการเมือง ด้อยค่าพวกเรา ทำไปเถอะ แต่ขอให้สำนึกว่าที่ที่ยืนอยู่ คือที่เดียวกับปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่

ชมคลิป คลิกที่นี่
กำลังโหลดความคิดเห็น