ระทึก! ปฏิบัติการมุดน้ำ ดำดินหาสมบัติประจำตระกูล สร้อยมรกตคืนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ใช้เวลา 2 วันพร้อมอุปกรณ์และทีมงาน สุดท้ายไปเจอใต้น้ำ หลังวันแรกค้นหาบริเวณหาดไม่เจอ นักท่องเที่ยวปลื้ม ผู้ประกอบการดีใจหวังสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนทุกคน
นายพิษณุ แก้วประดิษฐ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ภูริดา คาร์เรนท์ แอนด์ ทราเวล (Purida CARRENT&TRAVEL Co,LTD )เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการโรงแรม และทีมงานเพื่อค้นหาสมบัติประจำตระกูลเพื่อส่งคืนแก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย โดยระบุว่าในช่วงที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสรับลูกค้าชาวรัสเซียกลุ่มหนึ่งเพื่อมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 50 วัน ซึ่งหลังจากได้สัมผัสบรรยากาศและบริการที่ได้รับจากผู้ประกอบการและความเป็นกันเองของคนภูเก็ตแล้วจึงตัดสินใจอยู่ท่องเที่ยวต่ออีก 18 วัน ซึ่งตนเองก็มีโอกาสแสตนบายเพื่อคอยให้บริการพาเที่ยวตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น.ถึง 22.00น.ของทุกวัน
ต่อมาวันที่10 มกราหลังจากที่นักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำที่หาดในทอน บริเวณที่พักวิลล่า มาลัยวนา (Paradiso) พบว่าสร้อยคอมรกตประจำตระกูลหายไป ตนและทีมงานของทางวิลล่าจึงได้ช่วยกันออกค้นหาอย่างเต็มที่ในวันแรก
"ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเล่นน้ำทีหาด แต่วันที่สร้อยหายเขามาเล่นน้ำกันตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 10 โมงครึ่ง แต่มารู้ตัวอีกทีก็ช่วงประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง ตอนนั้นผม และทีมงานจากทางวิลล่าทั้งแม่บ้าน ผู้จัดการมาช่วยกันโดยใช้เครื่องมือของไลฟ์การ์ดที่สามารถค้นหาโลหะใต้พื้นทรายได้ แต่ตอนเริ่มต้นพวกเรา 5 คนใช้เวลาหากันนานกว่า 2 ชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววของสร้อยคอ"
นายพิษณุ เล่าต่อว่า หลังจากวันแรกพวกผมช่วยกันค้นหาไปสักพักก็ยังไม่เจอจึงตัดสินใจกันว่า คงจะต้องลงไปหาในน้ำด้วย แต่ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ไม่สามารถค้นหาในน้ำได้จึงคิดกันว่าจะหาเครื่องมือที่ค้นหาใต้น้ำมาช่วยอีกทาง โดยทางเจ้าของสร้อยพร้อมถึงขั้นที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องมือดังกล่าวมาใช้เลยทีเดียว
"ตอนแรกเราก็ตัดสินใจกันว่าจะซื้อเครื่องมือตัวหนึ่ง คุณนพ ผู้จัดการ วิลล่า Paradiso จึงโทรไปถามตัวแทนจำหน่ายที่กรุงเทพ แต่ตัวแทนจำหน่ายแจ้งกลับมาว่าไม่ต้องมาซื้อที่กรุงเทพ สามารถซื้อได้ที่ภูเก็ตเลยเพราะมีตัวแทนย่อยอยู่ที่นั่น จึงเป็นที่มาว่าเราได้ติดต่อกับโกชัย ซึ่งเมื่อสอบถามไปทางโกชัยแล้วแกก็ยินดีช่วยเหลือเพราะแกมีเพจและทำงานด้านนี้อยู่แล้วชื่อ เพจ Lost jewelry Keys และมีเครื่องมือพร้อมที่จะช่วยเเหลือเต็มที่"
วันที่ 2 ตอนเราติดต่อโกชัยได้ก็ค่อนข้างเย็นแล้วแกจึงตัดสินใจรีบมาคนเดียวก่อนเพราะแกกลัวคนอื่นเก็บได้แล้วไม่คืนผมกับทีมงานเดิมก็รีบมาเริ่มดำเนินการค้นหาต่ออีก 1 วัน ซึ่งวันนี้นอกจากเราจะค้นหาบริเวณหาดแล้วเรายังลงไปหาในน้ำด้วยพร้อมกัน ซึ่งช่วงเวลาที่เราค้นหาใช้เวลาใช้เวลประมาณ 1 ชั่วโมงปรากฎว่าเจออยู่ในน้ำ ซึ่งทั้งตัวเจ้าของและทีมงานก็ดีใจมากหลังจากที่หาสมบัติประจำตระกูลชิ้นนี้เจอ
"โกชัยแกมาคนเดียวก่อน แต่แกบอกว่าถ้าไม่เจอแกนำทีมงานมาใหม่ ซึ่งตอนนั้นก็เย็นแล้วประมาณ 5 โมงครึ่งของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เราช่วยกันวางขอบเขตการค้นหาจากข้อมูลที่ลูกค้าบอก สุดท้ายมาเจอสร้อยมรกตเส้นนี้ประมาณ 6 โมงครึ่ง ต้องบอกว่าดีใจกันมากเพราะการจะหาในน้ำมันค่อนข้างยาก ไหนอยู่ใต้น้ำไหนจะมีคลื่นทรายกลบอีก แต่พอเจอแล้วทุกคนก็ดีใจ ซึ่งต้องบอกเลยว่าพวกเราผู้ประกอบการชาวภูเก็ตทุกคนทำด้วยใจ พยายามให้ภาพเมืองท่องเที่ยวของเราออกมาในแง่ดี ซึ่งถึงแม้จะมีเรื่องไม่ดีออกไปบ้าง แต่คนภูเก็ตส่วนใหญ่รู้ดีและยากให้ทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่ประทับใจ"