บุรีรัมย์ - ร้านทองบุรีรัมย์ที่หวิดสูญ 5 ล้านให้แก๊งเช็คเคลียร์ริ่งยังผวา กำชับพนักงานสังเกตลูกค้ารอบคอบมากขึ้น
หากมีพิรุธให้จับตาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะลูกค้าที่โอนหรือจ่ายเช็คควรตรวจสอบอย่างรัดกุมป้องกัน ตกเป็นเหยื่อ หลังระบาดหลายจังหวัดอีสาน ด้าน ตร.ประสานข้อมูลกับหนองคายล่าสุดรู้ตัวคนร้ายแล้ว เตรียมออกหมายจับ
จากกรณีที่มีแก๊ง 18 มงกุฎออกอาละวาด ทำทีหลอกซื้อทองคำรูปพรรณ และทองคำแท่งจำนวนมากน้ำหนัก 100 - 200 บาท ตามร้านทองหลายแห่งในพื้นที่ภาคอีสาน อาทิ ร้านทองใน จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. แต่ไม่สำเร็จ จึงเดินทางไปก่อเหตุที่ จ.สุรินทร์ ต่อในวันที่ 9 ก.พ. ก็ไม่สำเร็จเหมือนกัน จากนั้นจึงได้เดินทางไปก่อเหตุที่ร้านทองใน จ.หนองคาย ได้ทองไปน้ำหนัก 100 บาท คิดเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท
โดยคนร้ายได้ใช้วิธีการทำทีหลอกซื้อทองในปริมาณมาก อ้างว่าเถ้าแก่ให้มาซื้อเพื่อจะนำไปแจกให้กับลูกน้อง จากนั้นก็จะให้อีกคนไปจ่ายเช็คที่ธนาคาร โดยจะมีแค่ยอดเงินเข้าแต่ไม่สามารถเบิกถอนได้ เนื่องจากถูกดูดเงินกลับ หากร้านทองไหนหลงเชื่อในกลอุบายก็จะสูญเสียทองไป
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.พ.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท้องที่เกิดเหตุที่มีเจ้าของร้านทองไปแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ว่าที่ร้านก็ถูกคนร้ายเข้าไปหลอกซื้อทองเหมือนกันและเกือบจะสูญทองน้ำหนัก 200 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 5.8 ล้านบาทไป โดยจากการประสานข้อมูลกับทาง ตร.สุรินทร์ และ จ.หนองคาย ก็พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน และน่าจะทำเป็นแก๊ง ซึ่งขณะนี้ก็รู้ตัวชายที่เป็นคนเข้าไปหลอกทำทีซื้อทองในร้านทองทั้งพื้นที่ 3 จังหวัดแล้ว
โดยตำรวจ จ.หนองคาย กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายรายดังกล่าว พร้อมทั้งจะได้ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการในการหลอกซื้อทองครั้งนี้ด้วย ในส่วน จ.บุรีรัมย์ แม่ร้านทองจะยังไม่ได้รับความเสียหาย แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือทั้งข้อมูลหลักฐาน เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะถือเป็นภัยต่อผู้ประกอบการร้านทอง และร้านที่ขายสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วย
ขณะที่ น.ส.เปรมยุดา กำเพ็ชรภักจิรวานิชย์ หรือเจ๊อ้อ เจ้าร้านทองเยาราช (หลานแม่กิมกี่) ที่ตลาดคิวรถเล็ก หนึ่งในร้านทองที่คนร้ายเข้ามาหลอกซื้อทองแต่ก่อเหตุไม่สำเร็จ บอกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางร้านก็จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบลูกค้า ให้รอบคอบรัดกุมมากขึ้น เนื่องจากร้านตั้งอยู่ในตลาดคิวรถเล็ก ซึ่งก็จะมีผู้คนพลุกพล่าน ก็ได้กำชับให้พนักงานคอยสังเกตุลูกค้าที่แปลกหน้า
หากมีพิรุธอาทิเข้ามาติดต่อขอซื้อทองในจำนวนมากๆ ให้จับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าใช้วิธีการโอนจ่าย หรือจ่ายแบบเช็ค ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าเงินเข้าบัญชีจริงหรือไม่ หากไม่แน่ใจให้ไปเบิกถอนที่ธนาคารเพื่อความชัวร์ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งดังกล่าว
และอยากฝากเตือนร้านค้าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ว่าควรจะตรวจเช็คให้รอบคอบมากขึ้นที่สำคัญควรใช้สติ เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบที่เราอาจจะตามไม่ทันกลโกง
