สถานทูตไทย ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เผยศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายจ้างชาวฟินแลนด์ 26 ปี 8 เดือน ชดใช้ค่าสินไหมกว่า 7.4 ล้านบาท หลังแรงงานไทยเก็บเบอร์รี 26 รายฟ้องศาล เจอนายจ้างให้ข้อมูลเท็จและเอาเปรียบ เหตุไม่มีสถานะทางกฎหมาย
วันนี้ (31 ม.ค.) รายงานข่าวจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เปิดเผยว่า ศาลฎีกาประเทศฟินแลนด์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษผู้ประกอบการชาวฟินแลนด์รายหนึ่งที่จ้างแรงงานตามฤดูกาลไทยในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยพิพากษาจำคุกรวมทั้งสิ้น 26 ปี 8 เดือน และจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่เหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นแรงงานไทยจำนวน 26 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 200,000 ยูโร หรือกว่า 7.44 ล้านบาท ตลอดจนห้ามประกอบธุรกิจอีกต่อไป ตามการอ้างถึงของเว็บไซต์เดโมกราตติ (Demokraatti) สื่อในประเทศฟินแลนด์
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2559 ผู้ประกอบการชาวฟินแลนด์รายหนึ่งได้จ้างแรงงานคนไทยมาเก็บเบอร์รีในที่ดินของตนที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของฟินแลนด์ มีแรงงานไทยรวมทั้งสิ้น 200 คน แต่มีข้อขัดแย้งขึ้นระหว่างผู้ประกอบการชาวฟินแลนด์กับแรงงานไทยจำนวน 26 ราย เนื่องจากผู้ประกอบการฟินแลนด์ให้ข้อมูลเท็จและเอาเปรียบจากการที่แรงงานไม่มีสถานะทางกฎหมาย และต้องพึ่งพาผู้ประกอบการฟินแลนด์ดังกล่าว แรงงานทั้ง 26 คนจึงได้นำเรื่องยื่นสู่ศาลชั้นต้นเมืองวาซา (Vaasa) ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ
ต่อมาปี 2561 ศาลชั้นต้นเมืองวาซาได้พิจารณาตัดสินคดีดังกล่าวในความผิดฐานค้ามนุษย์เป็นจำนวน 26 กระทง โดยให้จำคุกรวมทั้งสิ้น 26 ปี 8 เดือน แต่รอการลงโทษ ห้ามผู้ประกอบการประกอบธุรกิจ และจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่เหยื่อค้ามนุษย์เป็นจำนวนมากกว่า 200,000 ยูโร ต่อมาเมื่อปี 2562 ศาลอุทธรณ์เมืองวาซา พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนค่าสินไหมทดแทนและห้ามประกอบธุรกิจ แต่พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนโทษจำคุก เนื่องจากเห็นว่าผู้ประกอบการฟินแลนด์กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพียงกรรมเดียว แต่มีเหยื่อรวมเป็นจำนวน 26 ราย ทั้งนี้ ให้รอการลงโทษและลดโทษเหลือเพียง 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2564 ศาลฎีกาได้พิจารณาคดีดังกล่าว เห็นว่าผู้ประกอบการฟินแลนด์ได้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ต่างกรรมต่างวาระต่อเหยื่อ 26 คน จึงเป็นความผิดรวมทั้งสิ้น 26 กระทง ทั้งนี้ ไม่ให้รอการลงโทษ ตลอดจนห้ามประกอบธุรกิจ และชำระเงินค่าสินไหมทดแทนให้ผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนเท่ากับที่ศาลชั้นต้นพิพากษา อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ อยู่ระหว่างจัดทำคำแปลผลคำพิพากษาในส่วนของโทษจำคุกและเหตุผลของศาลฎีกาเกี่ยวกับการกำหนดโทษดังกล่าว
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่