น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 1 แถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินเขตพื้นที่ภาค 1 (ภาคกลางบางส่วน) พบว่าภาพรวมการดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในภาค 1 นั้น ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด และส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา และตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ไปแล้ว 13 คดี ทั้งหมดเป็นผู้บริหารท้องถิ่น แบ่งเป็นปีงบประมาณ 2562 จำนวน 9 เรื่อง ปีงบประมาณ 2563 จำนวน 2 เรื่อง และปีงบประมาณ 2564 จำนวน 2 เรื่อง
น.ส.ชฎารัตน์ เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2564 มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการชี้มูลความผิดกรณีจงใจยื่นบัญชีด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ และศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาไปแล้ว 2 คดี ได้แก่ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางขาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน รอการลงโทษกำหนด 1 ปี ปรับ 4,000 บาท และรองนายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง (วาระที่ 6) อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน
ขณะเดียวกัน ผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบภาค 1 ประจำปี 2564 ที่ ป.ป.ช. มีมติตรวจสอบแล้ว จำนวน 2,443 บัญชี เป็นการตรวจสอบปกติ 2,040 บัญชี ตรวจยืนยัน 334 บัญชี ตรวจเชิงลึก 69 บัญชี เพื่อป้องกันพฤติการณ์ถือครองทรัพย์สินแทน หรือยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน