อดีตผู้ว่าการ กกท. แนะออกเป็น พ.ร.ก. ไปก่อน เร่งแก้ “วาด้า” แบนธงชาติไทย ลั่นอย่าเสี่ยงเสียเวลา กลัวไม่ทันโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กำลังจะมีขึ้น ก.พ. 65 เผยโด๊ปวิธีใหม่ ดูดเก็บเลือดนักกีฬาช่วงฝึกซ้อมที่มีออกซิเจนสูง ฉีดกลับเข้าร่างก่อนลงแข่ง แต่วาด้าก็สามารถพัฒนาวิธีตรวจจนได้
วันที่ 28 ธ.ค. 2564 ดร.สันติภาพ เตชะวณิช อดีตผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ถึงกรณีองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) มีบทลงโทษประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ได้ปฏิบัติตาม 2021 WADA Code หรือธรรมนูญขององค์กร ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ธงชาติไทยถูกแบนในการแข่งขันกีฬา
โดย ดร.สันติภาพ กล่าวว่า วาด้าจะมีลิสต์ในเรื่องการควบคุมสารกระตุ้น เนื่องจากสารกระตุ้นมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ทั้งตัวยา วิธีการ ขั้นตอนการใช้ ฉะนั้น การตรวจหาสารกระตุ้นก็ต้องมีการปรับปรุง กฎหมายก็ต้องปรับปรุงตาม
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ทางวาด้าจะแจ้งเรามาเป็นระยะให้เราระมัดระวังและแก้ไข ที่ผ่านมา เราก็แก้แบบเลี่ยงบาลี แทนที่จะแก้กฎหมาย ก็ไปออกกฎกระทรวงบ้าง ออกข้อบังคับบ้าง ซึ่งเขาก็ผ่อนปรนมาโดยตลอด เมื่อสะสมมาเรื่อยๆ เขาเห็นว่าเราไม่เห็นทำอะไรเลย กระทั่งเขาทนไม่ไหว
หนังสือสุดท้ายที่แจ้งมาเมื่อ ก.ค. 64 ระบุให้แก้ไขให้เสร็จใน ก.ย. 64 แต่กระบวนการแก้กฎหมายบ้านเราล่าช้า เมื่อวาด้าแจ้งมา ทางการกีฬาฯ ก็แจ้งรัฐมนตรี จากนั้นนำเข้า ครม. ก็มีมติเลยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข พ.ร.บ.ให้เป็นไปตามที่วาด้าแจ้งมา แต่มันก็มีการโยกโย้ไปมา
ดร.สันติภาพ กล่าวอีกว่า วาด้าแจ้งมาจะทำโทษเรา 1 ปี แต่ถ้าแก้ไขอาจไม่ต้องถึง 1 ปีก็ได้ การแก้ไขกฎหมายทั้งฉบับกว่าจะเสร็จสิ้นใช้เวลานาน แต่จะทันกับที่เขากำหนดหรือไม่ เราไม่น่าจะเสี่ยง ตนแนะนำให้ออกเป็น พ.ร.ก. ไม่ต้องผ่านสภาฯ ออกไปก่อน แล้วแจ้งให้วาด้าทราบว่าเราแก้ทุกอย่างแล้ว แล้วค่อยดำเนินการต่อไป เวลาเราเหลือน้อย ยังไม่ต้องมองถึงซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ เพราะเร็วๆ นี้ กำลังจะมีโอลิมปิกฤดูหนาว ใน ก.พ. 65
ดร.สันติภาพ กล่าวต่ออีกว่า วาด้าจะดูประเด็นที่กำหนดมา ไม่ได้มาดูทั้งหมด ข้อกำหนด ได้แก่ 1. ความเป็นส่วนตัวของนักกีฬา 2. บทลงโทษชัดเจน 3. สามารถตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าเราออกจากการเป็นสมาชิกขององค์กรนี้ เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่จะไม่สามารถลงแข่งรายการต่างๆ ได้ เราต้องรีบทำ ไม่รู้จะดื้อแพ่งไปทำไม
ดร.สันติภาพ ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากตัวยา มันมีการพัฒนาไปอีกในการโด๊ปเพื่อเอาเปรียบคู่ต่อสู้ โดยการใช้เลือด จากตัวนักกีฬาเอง วาด้าก็มาเจอ ในลักษณะว่านักกีฬาตอนที่แข็งแกร่งที่สุด เม็ดเลือดจะมีออกซิเจนมาก ก่อนการแข่งขัน ก็จะฝึกซ้อมให้ถึงจุดที่แข็งแรงที่สุด จากนั้นใช้เข็มดึงเลือดออกมา 100 ซีซี เก็บไว้ พอใกล้ลงแข่งก็เอาเลือดที่เก็บไว้ใส่กลับเข้าไป แบบนี้ใครจะไปทราบว่ามีการใช้วิธีนี้ แต่วาด้าก็พัฒนาการตรวจสอบ เมื่อเอาเลือดไปตรวจจะเห็นถึงความแตกต่างได้ชัดเจน