“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ตอน ธงชาติไทยโดนแบน ใครต้องรับผิดชอบ!?
หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ที่เห็น บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคู่แรกที่ได้แชมป์โลกแบดมินตัน แต่ในวินาทีที่ต้องอัญเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ก็เกิดภาพประหลาดขึ้น
แทนที่เราจะใช้ธงชาติไทยเหมือนคนอื่นเขา แต่เรากลับต้องใช้ธงเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ 3 ตัว เขียนว่า BAT (Badminton - Association - Thailand)
เช่นเดียวกับในเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่ทีมชาติไทยกำลังแข่งอยู่ แถมกำลังฟอร์มดี แต่เราไม่สามารถใช้ธงชาติไทยได้เช่นกัน ต้องใช้ โลโก้ช้างศึกตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์
ท่ามกลางความดีใจที่กลายเป็นความขมขื่นของคนไทย จนเป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ จึงควรรู้ถึงปัญหาที่มาของเรื่องนี้
ประเทศไทย โดนแบนห้ามใช้ธงชาติไทย ตามคำสั่งของ WADA (องค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก) โดยให้เหตุผลว่า กฎหมายของไทย ยังไม่อัพเดทให้เท่าทัน Code ของ WADA
ในทุกๆ ปี WADA จะอัพเดท Code หรือกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่สำคัญ เพื่อให้เท่าทันกับการใช้สารกระตุ้นที่เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ และ WADA คาดหวังให้แต่ละประเทศอัพเดทกฎหมายของตัวเองอย่างรวดเร็ว ให้ตรงตาม Code ใหม่ด้วย
ในการอัพเดทกฎล่าสุดของ WADA วันที่ 1 มกราคม 2021 มีการระบุเรื่อง "นิยามการระบุโทษ" โดยกล่าวว่า โค้ชคนไหนที่มีส่วนกับการโด๊ปในประเทศนั้น ต้องมีบทลงโทษทางกฎหมายด้วย และห้ามทำงานเกี่ยวข้องกับกีฬาโดยสิ้นเชิง
แต่กฎหมายของไทย ในพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ไม่มีจุดนี้
เหมือนอย่างกรณีของหลิว หนิง โค้ชชาวจีนของทีมยกน้ำหนักไทย ที่ใช้เจลใสแบบพิเศษ ที่มีฤทธิ์ของสารกระตุ้น จนนักกีฬายกน้ำหนักไทยโดนแบนไป 10 คน ตัวหลิว หนิง อาจโดนสมาคมยกน้ำหนัก แบนตลอดชีวิตก็จริง แต่ไม่มีบทลงโทษใดๆ ตามกฎหมายไทย ซึ่ง WADA อยากให้มีบทลงโทษตามกฎหมายด้วย
ดังนั้นเพื่อให้ WADA พอใจ เราก็ต้องแก้กฎหมาย ใน พรบ. ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา นั่นเอง
ประเทศอื่นใช้เวลาไม่นานนัก ในการแก้ไขกฎหมาย แต่ปัญหาของเราคือขั้นตอนการแก้กฎหมายไทยมีความซับซ้อนกว่ามาก
การแก้พรบ. ของไทย ต้องส่งเรื่องให้สภาล่าง โหวตผ่าน 3 วาระ จากนั้นเอากลับมาให้วุฒิสภาโหวตอีก 3 วาระ กว่าจะถูกปรับใช้เป็นกฎหมายได้
คือหลายๆ กฎหมายในไทยใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะแก้ไขกันได้สำเร็จ มันเป็นแบบนั้นมาตลอด ดังนั้นมันยากมาก ที่เราจะแก้ไขได้ทันในกรอบเวลา 10 เดือนที่ WADA ให้
ขั้นตอนปกติก็ช้า ก็อุ้ยอ้ายจะแย่อยู่แล้ว บวกซ้ำไปอีกกับการที่สภาไทย มีแต่ความวุ่นวาย เดี๋ยวล่ม เดี๋ยวองค์ประชุมไม่ครบ อย่างสัปดาห์ก่อน องค์ประชุมไม่ครบทำให้ 11 โมง ส.ส.ที่มา ก็เลิกงานกลับบ้านกันแล้ว กฎหมายอะไรต่างๆ ที่รอคิวพิจารณา ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน เล่นเกมใส่กัน โดยไม่คิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง จะไปหวังให้ พรบ. ถูกแก้ได้เร็วๆ น่ะหรือ ไม่มีทางหรอก
เดือนตุลาคม 2564 เดดไลน์มาถึง สรุปคือไทยยังไม่มีกฎหมายอัพเดทเกิดขึ้น WADA ก็เลยสั่งแบนธงชาติไทยเป็นการสั่งสอน และสั่งห้ามจัดอีเวนต์กีฬาในไทย เป็นบทลงโทษที่ไม่ยอมกระตือรือร้นทำตามข้อบังคับที่แจ้งมา
พอเรื่องมันใหญ่แล้ว ถึงค่อยมาเดือดเนื้อร้อนใจกัน 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะเสนอร่างกฎหมายแก้ไขสารต้องห้าม ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้ออกมาเป็นพระราชกำหนด (พรก.) ก่อน โดยคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
พรก. คือ กฎหมายพิเศษ ที่ไม่ต้องผ่านความล่าช้าของสภา แต่ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยตรงได้เลย เป็นอำนาจฉุกเฉินของรัฐบาลที่จะใช้ในเรื่องสำคัญ
ตามที่ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย แจ้งเอาไว้ว่า พรก.น่าจะออกในเดือนกุมภาพันธ์ แล้วจะส่งเรื่องให้ WADA พิจารณาทันที ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย เราจะโดนปลดโทษแบนออก ในเดือนเมษายน 2565
ซึ่งก็จะทันพอดี กับซีเกมส์ปีหน้าที่จัดเวียดนาม ในเดือนพฤษภาคม 2565 และ เอเชียนเกมส์ ที่จัดในจีนเดือนกันยายน 2565
ก็หวังว่าจะทำได้ตามที่พูดไว้ เอาพรก. ออกมาก่อนก็ยังดี มีกฎหมายอะไรบ้างให้ WADA เห็น เพราะสำหรับคนในวงการกีฬาการโดนแบนธงชาตินี่ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะ
ลองนึกภาพ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ได้ทองเอเชียนเกมส์ปีหน้า แต่ไม่มีธงชาติไทยขึ้นยอดเสาสิ จินตนาการไม่ออกเลยใช่ไหม?
ถ้าในซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์ สองทัวร์นาเมนต์นี้ ไทยลงแข่งแต่ไม่มีธงชาติล่ะก็ คงเป็นอะไรที่ดูไม่จืดมากๆ แค่เคสของบาส-ปอป้อ กับ ซูซูกิคัพที่เป็นอยู่ ก็สมเพชจะแย่จนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว