“อดีต รมว.คลัง” เตือนไทยเตรียมรับมือพิษโควิดกระทบเศรษฐกิจโลก อีกทั้งไม่แน่ใจ รบ.ตั้งรับไหวหรือไม่

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความเตือนไทยเตรียมรับพิษโควิดโลกหรือยังช่วงใกล้สิ้นปี ชี้มีความเสี่ยงหลายประการกระทบเศรษฐกิจโลก พร้อมเผยไม่ชัดเจนว่ารัฐบาล พลเอก ประยุทธ์เตรียมตั้งรับไว้อย่างไร หรือไม่

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. เฟซบุ๊ก “Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” หรือ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความระบุว่า “ไทยเตรียมรับพิษโควิดโลกหรือยังช่วงใกล้สิ้นปี หลายสื่อมีข่าวพยากรณ์เศรษฐกิจปีหน้า แต่บทความในบลูมเบิร์กมีข้อมูลที่บ่งชี้ มีความเสี่ยงหลายประการ

รูป 1 ข้อมูลจีนเศรษฐกิจอันดับสองของโลก ล่าสุดทั้งการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และยอดขาย ได้ลดลงอย่างมาก บริษัทอสังหาฯ จะไม่สามารถระดมเงินจาก pre-sale ได้มากเท่าเดิม เพราะประชาชนจะกลัวว่าถ้าจ่ายเงินไปแล้วอาจจะไม่ได้ของ เหมือนกรณี Evergrande
รูป 2 แสดงปัญหาหุ้นกู้ junk bond ในจีน เส้นสีดำ คือราคาของหุ้นกู้เอกชน ซึ่งส่วนใหญ่คือบริษัทอสังหาฯ จะเห็นได้ว่าข่าว default ทำให้ราคาร่วงลงไป เฉลี่ยอยู่แถวระดับ 60 ลดลงจากราคาพาร์ 100

แต่ที่น่าสนใจมาก คือเส้นสีน้ำเงิน เรียกว่า high yield LGFV ย่อมาจาก local government financing vehicle นี่คือ junk bond ที่ออกโดยมณฑลต่างๆ ในจีน โดยรัฐบาลกลางรับรู้อย่างไม่เป็นทางการ แต่ไม่ได้ค้ำประกัน

องค์กรท้องถิ่นออก junk bond เพื่อพัฒนาในด้านต่างๆ และอุดช่องว่าง เวลาค่าใช้จ่ายเกินรายได้ จะเห็นได้ว่าเส้นสีน้ำเงินลดลงต่ำกว่า 100 แต่ก็ยังอยู่ระดับ 95 บวกลบ หมายความว่า นักลงทุนยังมั่นใจว่า ท้องถิ่นจะสามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้เป็นส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากแหล่งเงินได้หลักของท้องถิ่นได้มาจากการนำเอาที่ดินเปล่าออกให้เช่าระยะยาวแก่บริษัทอสังหาฯ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ดังนั้น ในเมื่อบริษัทอสังหาฯ จะหมุนเวียนเงินอย่างลำบากมากขึ้น เมื่อใดที่สภาพฝืด ลามไปถึง junk bond องค์กรท้องถิ่น เมื่อนั้นเส้นสีน้ำเงินก็อาจจะลู่ไหลลงไปตามเส้นสีดำ เศรษฐกิจจีนจึงมีความเสี่ยงชะลอตัวอันดับหนึ่ง ถ้าเศรษฐกิจจีนชะลอลงมากในปี 2022 ย่อมจะกระทบประเทศที่ส่งออกไปจีน นอกจากนี้ เมื่อเฟดถอนคันเร่ง ดอกเบี้ยระยะยาวจะเริ่มโน้มสูงขึ้น ก็อาจจะดันให้ดอลลาร์แข็งขึ้น ซึ่งจะกระทบประเทศกำลังพัฒนาที่กู้ในสกุลดอลลาร์อีกด้วย

ในรูป 3 ประธานาธิบดีตุรกีที่ชอบแทรกแซงธนาคารชาติ โดยยึดนโยบายตรึงดอกเบี้ยต่ำ ตามหลักศาสนาอิสลาม ได้ทำให้ค่าเงินตุรกีร่วงลงมาตลอดปี 2021 กรณีถ้าหากตุรกี default ปัญหาย่อมจะลามไประบบธนาคารในยุโรป ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หลัก

รูป 4 บลูมเบิร์กจัดอันดับประเทศที่มีจุดเปราะบาง อาร์เจนตินาสูงสุด มีปัญหาทั้งหนี้สูง และเงินเฟ้อสูง ปรากฏว่าประเทศใหญ่ในอาเซียนถูกเพ่งเล็งถึง 4 ประเทศ รวมถึงไทย ทั้งนี้ ตัวเลขการค้าโลกที่อยู่ในระดับสูงนั้น หลายกรณีมีอาการปัญหาบางอย่างซ่อนอยู่

รูป 5 แสดงการนำเข้าเหล็กของจีน ถึงแม้มูลค่านำเข้าพุ่งขึ้นสูง เส้นทึบ แต่ในแง่ปริมาณ จำนวนตันไม่ได้เพิ่ม ทำนองเดียวกันกับส่งออกของญี่ปุ่น

รูป 6 เส้นประ ปริมาณก็ลดลง และส่งออกของเยอรมนี
รูป 7 เส้นสีน้ำเงินเข้ม ปริมาณลดลงเช่นกัน

ตัวเลขที่ดูดีขึ้น เพิ่มขึ้น ถูกผลักดันด้วยปัจจัยราคาที่สูงขึ้นชั่วคราว ปัจจัยเปลี่ยนแปลงทางลบ ที่ชัดเจนที่สุด คือหลายรัฐบาลจะลดหรือเลิกการแจกเงินแบบโปรยลงจากเฮลิคอปเตอร์

รูป 8 แสดงว่า ขาดดุลงบประมาณปี 2022 เปรียบเทียบว่า จะน้อยลงกว่าปี 2021 เพียงใด คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี อังกฤษนำลิ่ว โดยจะลดลงกว่า 6% และทั้งยุโรปและสหรัฐฯ ก็จะลดลง 4% ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้เป็นลบต่อเศรษฐกิจโลก แต่ไม่ชัดเจนว่ารัฐบาล พลเอก ประยุทธ์เตรียมตั้งรับไว้ อย่างไร หรือไม่

คลิกโพสต์ต้นฉบับ