ผู้เชี่ยวชาญของบลูมเบิร์กคาดที่สุดแล้วราคาบิตคอยน์จะสามารถขึ้นไปแตะ 100,000 ดอลลาร์ แต่ต้องเป็นปีหน้า ขณะที่นักลงทุนประเภทสถาบันลงความเห็นว่า ตลาดคริปโตจะปรับฐานครั้งใหญ่ในปี 2022
ขณะที่ปีนี้เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึง 20 วัน โอกาสที่ราคาบิตคอยน์ (บีทีซี) จะวิ่งฉิวไปแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ดูจะน้อยลงทุกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่เงินดิจิตอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกสกุลนี้กำลังปรับฐานและราคาหล่นต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์อีกรอบ
ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงเริ่มล่าถอยจากการคาดการณ์เดิมว่า ราคาบีทีซีจะไปถึง 100,000 ดอลลาร์ และบางคนมองว่า โอกาสดังกล่าวจะเป็นจริงได้ในปี 2022
หนึ่งในนั้นคือ มิก แม็กโกลน นักกลยุทธ์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของแผนกวิจัยของบลูมเบิร์กที่ทวิตว่า ปีหน้าจะเป็นปีของบิตคอยน์และทองคำ โดยราคาจะขึ้นไปแตะ 100,000 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์ตามลำดับเนื่องจากภาวะเงินฝืด
ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของอเมริกาประจำเดือนพฤศจิกายนที่รายงานออกมาเมื่อวันศุกร์ (10) เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งนอกจากสูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ไว้เล็กน้อยแล้ว ยังเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดนับจากปี 1982 และแม็กโกลนคาดว่า ความกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ระลอกคลื่นต่อราคาอสังหาริมทรัพย์และหุ้น อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในระดับนี้อาจผลักดันให้ราคาบีทีซีและทองคำขึ้นไปทำนิวไฮ
เขาสำทับว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์สวนทางกับอัตราผลตอบแทนขาลงของพันธบัตรคลังบ่งชี้ความเสี่ยงที่ภาวะเงินฝืดจะกลับมาในปีหน้าซึ่งส่งผลดีทั้งต่อบีทีซีและทองคำ
ทั้งนี้ หนึ่งในคำทำนายยอดนิยมสำหรับปี 2021 คือราคาบิตคอยน์จะทะยานทุบสถิติทะลุ 100,000 ดอลลาร์ โดยเหล่าแฟนคลับคริปโตต่างคาดหวังว่า ราคาจะไต่ขึ้นนับตั้งแต่บีทีซีทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 68,000 ดอลลาร์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นมีการเทขายครั้งใหญ่ฉุดให้ราคาบิตคอยน์ควงสว่านลงต่ำกว่า 42,000 ดอลลาร์ ก่อนกระเตื้องขึ้นมาอยู่แถวๆ 48,000 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และนักวิเคราะห์บางคนยอมรับเสียงอ่อยว่า บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลสำหรับปีนี้ไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนประเภทสถาบันทั่วโลกที่จัดทำโดยเนติซิส อินเวสต์เมนต์ แมเนเจอร์สพบว่า ปีหน้าตลาดคริปโตจะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ และนักลงทุนประเภทสถาบันให้การต้อนรับสินทรัพย์ดิจิตอลมากขึ้น
การสำรวจความคิดเห็นของเนติซิสครอบคลุมนักลงทุนประเภทสถาบัน 500 รายที่จัดการสินทรัพย์มูลค่า 13.2 ล้านล้านดอลลาร์ในกองทุนบำนาญของรัฐบาลและเอกชน ประกันภัย มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติทั่วโลก และนักลงทุนประเภทสถาบันเกือบ 100 รายในจำนวนนี้อยู่ในอเมริกาและจัดการสินทรัพย์มูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
นักลงทุนเหล่านี้จะได้รับคำถามเกี่ยวกับตลาดที่จะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ในปี 2022 และแม้นักลงทุนเล็งเห็นความเป็นไปได้ในการปรับฐานของสินทรัพย์มากมาย แต่ส่วนใหญ่หรือมากกว่าครึ่งเชื่อว่า จะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต รองลงมา (45%) คือหุ้นกู้ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย, หุ้น (41%) และเทคโนโลยี (39%)
เนติซิสตั้งข้อสังเกตว่า นักลงทุนเริ่มเปิดใจรับเงินดิจิตอลมากขึ้น แม้เชื่อว่า จะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ก็ตาม โดย 40% มองว่า คริปโตเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ชอบธรรม นอกจากนี้ในกลุ่มนักลงทุน 28% ที่ลงทุนในคริปโตนั้น มีถึง 90% ที่บอกว่า จะถือคริปโตต่อหรือซื้อเพิ่ม ขณะที่นักลงทุน 87% คาดว่า ในที่สุดธนาคารกลางประเทศต่างๆ จะต้องออกกฎควบคุมคริปโต
ทั้งนี้ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนประเภทสถาบันจำนวนมากขึ้นต่างแสดงความสนใจในคริปโต ตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนพฤษภาคม โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกัน เผยว่า ความกลัวตกกระแส (fear of missing out - FOMO) ผลักดันให้นักลงทุนประเภทสถาบันมากมายเข้าลงทุนในบิตคอยน์
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ผลสำรวจของนิกเคิล ดิจิตอล แอสเส็ต แมเนจเมนต์พบว่า นักลงทุนประเภทสถาบันและผู้จัดการบริหารความมั่งคั่ง 82% กำลังวางแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในคริปโตจนถึงปี 2023