เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี unicef ผู้บริหาร เอเชียวาณิช ผู้ผลิตสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็ก เผยแนวทางการปรับกลยุทธ์ เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ย้ำจุดมุ่งหมายด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน เพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายอิศรากรณ์ สุวรรณทิพย์ ผู้บริหาร บริษัท เอเชียวาณิช จำกัด ผู้ผลิตสื่อการเรียนการสอน สื่อเสริมประสบการณ์ปฐมวัย ให้แก่เด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 11 ธันวาคม 2489 ซึ่งสมัชชาสามัญแห่งสหประชาชาติ ได้ก่อตั้งกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ (unicef) ขึ้น เพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พัฒนาการ สุขภาพ รวมถึงความเป็นอยู่ของแม่และเด็กในประเทศกำลังพัฒนา วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจาก unicef ได้ก่อตั้งมาครบรอบ 75 ปีแล้ว ตนจึงได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนภูมิลำเนาเกิด คือ โรงเรียนวัดวังรีบุญเลิศ ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 30,000 บาท เพื่อสนับสนุนแนวทางสร้างอนาคตแก่เด็กและเยาวชน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ
ในฐานะเจ้าของธุรกิจด้านสื่อการเรียนการสอน นายอิศรากรณ์ บอกด้วยว่า สำหรับภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการด้านสื่อการเรียนการสอน ก็จำเป็นต้อง มีจุดมุ่งหมาย ในการพัฒนา เด็กและเยาวชนตามหลักมนุษยธรรม ดำรงไว้ซึ่งคุณภาพ เพื่อความเจริญงอกงาม ของทรัพยากรมนุษย์ อันจะส่งผลต่อความรุ่งเรืองของประเทศชาติในอนาคตด้วยเช่นกันที่ผ่านมาจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการปิดเมือง ปิดประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค หลายธุรกิจได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม จนต้องลดพนักงาน เลิกจ้าง หรือปิดตัวเองลง ทุกภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบจากพิษโควิด 19 กันอย่างทั่วถึง เราจะเอาชีวิต และนำพาธุรกิจให้อยู่รอด จากสถานการณ์เช่นนี้ ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ตนถือว่าเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง
ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นคือการเรียนรู้ข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจ และปรับตัวให้ไวให้ทันต่อเหตุการณ์ เราไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เพราะโลกเปลี่ยนเร็วมาก เราจะอยู่กับความหวาดกลัว หรือนับจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันคงไม่ได้ ต้องมีสติ เรียนรู้ เพื่อก้าวผ่านไปให้ได้ ตนมั่นใจ ปลายทาง ย่อมมีแสงสว่างเสมอ และหากมองในแง่ดี การระบาดของโควิด 19 อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจกัน ได้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ มากขึ้น
“วันนี้ unicef องค์กรระดับโลกที่ทำเพื่อเด็กๆ ได้ยืนหยัดมาจนครบ 75 ปีแล้ว ท้ายที่สุดแม้จะเป็นเพียงภาคธุรกิจเล็กๆ แต่ตนยังระลึกอยู่เสมอว่า ไม่ว่าโควิด-19 จะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหนก็ตามแต่เด็กและเยาวชน คือ คนสำคัญ เราต้องพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยที่ดี มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของสถานศึกษา สร้างเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่ ให้เติบโต เป็นคนดี มีวินัย เติบโตตามวัย เป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ เป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศ สู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน อย่างไม่หยุดยั้งต่อไป” นายอิศรากรณ์ กล่าว