ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. ที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปกป้องสถาบันฯ แต่งตั้ง “เตชะ ทับทอง” เป็นเลขาฯ ขณะที่ นพดล พรหมภาษิต แจงเหตุที่ไขก๊อกเพราะเหนื่อย ขอไปพัก แต่จะกลับมาเคลื่อนไหวในนามอิสระ กับกลุ่มอึ้งเอี๊ยะซือ ฟ้องคนที่หมิ่นสถาบันฯ ตามตะเข็บชายแดน
วันนี้ (21 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ออกประกาศ เรื่อง การลาออก และการแต่งตั้งคณะกรรมการในตำแหน่งเลขาธิการ ระบุว่า สืบเนื่องจาก นายนพดล พรหมภาษิต เลขาธิการ ศชอ. ได้แจ้งความประสงค์ที่จะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ ศชอ. ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2546 เป็นต้นไป
ทางคณะบริหาร ศชอ.ได้รับทราบและอนุมัติตามความประสงค์ของนายนพดล ด้วยเหตุผลที่การดำเนินงานในตำแหน่งเลขาธิการ และผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรได้สัมฤทธิผลถึงในระดับที่ได้ตั้งใจไว้ มีการดำเนินการที่นำขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ประชาชน/พสกนิกรไทย ผู้แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ร่วมกันชี้เบาะแส/ป้องปรามและดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในมาตรา 112 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการเริ่มต้นภารกิจที่สำคัญ รวมถึงในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกละเมิดสิทธิในการใช้งานผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และสามารถดำเนินการทางด้านคดีความต่อผู้ก่อเหตุอย่างยุติธรรม ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือเป้าหมายที่นายนพดลได้ตั้งใจไว้ จึงได้แสดงความประสงค์ขอหยุดพักจากการทำงานหนักข้างต้น แต่จะยังยินดีที่จะเป็นที่ปรึกษา ศชอ.ต่อไป ในโอกาสนี้เพื่อการดำเนินงานของ ศชอ.ให้เกิดความต่อเนื่อง ทางคณะบริหาร ศชอ.จึงขอประกาศแต่งตั้งกรรมการใหม่ คือ นายเตชะ ทับทอง เป็นเลขาธิการ ศชอ. เพื่อมาร่วมดำเนินการสานต่องานตามแผนการดำเนินงานของ ศชอ.
ด้านนายนพดล หรือเจ้าของฉายา “รอยตุ๊ รอยข่าว” อดีตเลขาธิการ ศชอ. ให้สัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ระบุว่า สาเหตุที่ลาออกมาจากรู้สึกเหนื่อยและเครียด ที่ตั้ง ศชอ.มาเพราะสังคมดุเดือด จับต้นชนปลายไม่ถูก สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกคุกคามอย่างหนัก คนที่จงรักภักดีไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็น ถูกอีกฝ่ายหนึ่งนำทัวร์มาลงจนปิดปากไปโดยปริยาย ตนจึงขอลงมาเคลื่อนไหวเป็นด่านหน้าและแกนนำ ใช้กฎหมายดำเนินคดี กระทั่งสถานการณ์กลับมาปกติ สิ่งที่ตั้งใจทำก็บรรลุวัตถุประสงค์ จึงปรึกษานางแน่งน้อยว่าขอพักก่อน ถ้ามีพลังก็ทำต่อไป ตนสนับสนุนอยู่ ไม่มีข่าวลือที่ว่าลาออกเพื่อปูทางเล่นการเมือง ตนขอปฏิเสธและทำงานภาคประชาชน และมีจุดยืนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ส่วนคดีที่รับทำมานั้นก็จะทำต่อจนจบ แต่จะไม่ได้สวมหมวกเป็นเลขาธิการ ศชอ. ต่อจากนี้ตนขอเวลาพักผ่อนก่อนกลับมาเคลื่อนไหวในนามส่วนตัวอิสระกับกลุ่มที่เรียกว่า อึ้งเอี๊ยะซือ โดยจะเคลื่อนไหวดำเนินคดีนักเคลื่อนไหวฝั่งตรงข้ามตามมาตรา 112 โดยแจ้งความที่โรงพักตามตะเข็บชายแดน หรือตามถิ่นทุรกันดาร ถ้าคนเหล่านั้นยังคงจาบจ้วงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ นอกเสียจากว่าประเทศชาติเกิดความแตกแยก เกิดสงครามกลางเมือง จะกลับมาตั้งองค์กรก็ว่ากันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในความคิดของตนขณะนี้สถานการณ์ตามปกติ เพียงแต่ต้องเฝ้าระวังอยู่
อนึ่ง สำหรับนายเตชะ ทับทอง หรือเต้ เป็นแกนนำกลุ่มหนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ เคยออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับเพจที่ชื่อว่า “แหม่มโพธิ์ดำ” มาก่อน เช่น กรณีคุณตาซาเล้งวัย 82 ปี ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตเมื่อปี 2561