รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 10 - 15 ต.ค. 2564)
อันดับ 1 : ปิดนรกเปิดประเทศเทวดาลงมาเชียร์ 1 พ.ย. ต่างชาติฉีดวัคซีนครบไม่ต้องกักตัว 1 ธ.ค. เปิดผับบาร์คาราโอเกะ
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับผู้ที่มาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ 10 ประเทศ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีผลตรวจโควิด-19 และต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินทางในประเทศไทยได้อย่างเสรี พร้อมกันนี้ภายในวันที่ 1 ธ.ค. จะพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ และเปิดสถานบันเทิง ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงใกล้จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่
ด้านที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เห็นชอบให้ร่นเวลาเคอร์ฟิวพื้นที่สีแดงเข้มเป็นเวลา 23.00-03.00 น. และปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด พื้นที่สีแดงเหลือ 30 จังหวัด พร้อมปรับเวลาเปิดร้านสะดวกซื้อ และโรงภาพยนตร์ให้ปิดในเวลา 22.00 น. ส่วนการจัดการประชุม จัดงานตามประเพณีนิยม จำกัดจำนวนไม่เกิน 500 คน แต่ต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และเพิ่มเป้าหมายจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว 15 จังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบนำเข้ายาโมลนูพิราเวียร์ ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 50,000 คอร์สอีกด้วย
อันดับ 2 : มาดิวัยรุ่น หนุ่มเหลืออดโดน 6 รุม 1 หาเรื่องถึงบ้าน คว้ามีดยาวไล่แทงดับ 2 สาหัส 1 แจงทำไปเพราะป้องกันตัว
กรณีพิพาทระหว่างกลุ่มวัยรุ่นกลายเป็นเหตุสลด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 12 ต.ค. กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6 คนบุกเข้าไปที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ พยายามตะโกนเรียกให้คนในบ้านออกมาเคลียร์และโยนไม้ม็อบเข้าไปในบ้าน ปรากฏว่า นายณัฐวุฒิ หรือบาส พึ่งฤกษ์ดี อายุ 21 ปี ออกจากบ้านพร้อมมีดสปาต้า ยาว 18 นิ้ว และมีดปลายแหลม ยาว 15 นิ้ว กล่าวคำว่า “มาดิวัยรุ่น” ก่อนไล่แทง ทำให้นายสมเดช หรือต้น ดุลยพัฒน์ อายุ 25 ปี และนายธิติวุฒิ หรือแซม กลิ่นโพธิ์ อายุ 19 ปี เสียชีวิต ส่วนนายพันกร อึ่งโต อายุ 20 ปี บาดเจ็บสาหัส
ต่อมาตำรวจ สน.เพชรเกษม ควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ ให้การว่าขับขี่รถจักรยานยนต์จาก จ.นครปฐม มาหาแฟน แต่ระหว่างทางมีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น เพราะขับขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ากันบนถนน จากนั้นฝ่ายผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้ยกพวกมาหาเรื่องถึงหน้าบ้าน และเข้ามารุมทำร้ายตนจนแขนซ้ายหัก ตนจึงต้องใช้อาวุธมีดเพื่อป้องกันตัว จึงถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นและทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 295, 371 ต่อมาวันที่ 15 ต.ค. ศาลอาญาธนบุรี ให้ประกันในชั้นฝากขัง ตีราคาประกัน 500,000 บาท นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่เคยรู้จักกลุ่มคู่กรณีมาก่อน แต่ที่ทำไปเพราะป้องกันตัวเองเท่านั้น
อันดับ 3 : รถเป็นแค่ของนอกกาย หนุ่มลัมโบร์กินีใจเพชร เจอกระบะชนท้ายค่าซ่อม 5 ล้านไม่ติดใจ แถมซ่อมรถให้คู่กรณีอีก
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์คลิปขณะที่รถยนต์ลัมโบร์กินี HURACAN EVO ขับมาด้วยความเร็วจากเลนกลางเข้าเลนขวา จากนั้นได้ปาดกลับเข้าเลนกลางอีกครั้งบนเส้นทึบ ระหว่างนั้นรถกระบะยี่ห้อนิสสันขับมาเข้ามาเลนกลางพอดี จึงทำให้ชนท้ายเข้าอย่างจัง เหตุเกิดบริเวณทางพิเศษฉลองรัช ขาเข้า หน้าที่ทำการด่านเก็บเงินประชาอุทิศ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยมีการประเมินค่าซ่อม 5 ล้านบาท แต่ทางฝั่งรถกระบะไม่มีประกัน ภายหลังนายกษิดิศ หรืออิน ดุลยจินดา เจ้าของรถเปิดเผยว่า ตนเองไม่ติดใจ รถเป็นแค่ของนอกกาย แต่ก็มีดรามาว่า ยังไงบริษัทประกันก็ไล่บี้คู่กรณีอยู่ดี
ทำให้เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายกษิดิศ เปิดเผยว่า ไม่ว่าตามกฎหมายจะชี้ว่าถูกหรือผิด แต่ประกันภัยเป็นผู้ซ่อมรถให้ตน โดยออกค่าเสียหายส่วนแรก 2 แสนบาท ส่วนที่เหลืออยู่ในการดูแลของบริษัทประกันภัยทั้งหมด และตกลงกันว่าจะไม่มีการไล่เบี้ยคู่กรณีแม้แต่บาทเดียว พร้อมเสนอช่วยเหลือค่าซ่อมรถให้คู่กรณีทั้งหมด เนื่องจากไม่มีประกันภัย คิดว่าทุกฝ่ายน่าจะแฮปปี้ ด้านตัวแทนบริษัทประกันภัย ยืนยันว่าเคสนี้จบลงด้วยดี โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งของทุกฝ่าย พร้อมขอบคุณ บมจ.ไทยศรีประกันภัย ที่ส่งทีมมาประสานและบริการลูกค้า รวมทั้งชื่นชมน้องอิน ที่มีน้ำใจกับคู่กรณีซึ่งหายากมากแล้วในปัจจุบัน
อันดับ 4 : มหาสมปองร้องไห้อ้างถูกพระผู้ใหญ่จ้องจับสึก ฝ่ายรัฐแจงน่าจะไม่ถึงขั้นนั้น อดีตพุทธอิสระชี้เป็นผลเสพติดอารมณ์
จากความดังของ 2 พส. กลายเป็นดรามาน้ำตาตก เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง พร้อมด้วย พระมหาไพรวัลย์ วรวณโณ และพระมหานภันต์ สนติภทโท ได้เฟซบุ๊กไลฟ์เผยความในใจทำนองว่าถูกจ้องจับผิดจากพระผู้ใหญ่ให้จับสึกตลอดเวลา ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีเจตนาอื่นนอกจากช่วยคน เพราะเป็นหนึ่งในกำลังของพุทธศาสนา ถามกลับว่าตนไปแย่งอำนาจหรือ ยืนยันว่าไม่เหมาะที่จะเป็นระดับเจ้าคุณ เพราะตนสายฮาไม่ค่อยสำรวม ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นครือ เผยว่ามารดาที่ป่วยติดเตียงยังไม่สบายใจที่ได้ยินข่าว ทำให้ในทวิตเตอร์ปั่นแฮชแท็ก#Saveพระมหาสมปอง
เรื่องนี้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่าคงเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ไม่อยากให้สังคมแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจมีบางองค์กรที่ไม่เห็นด้วย แต่จะถึงขั้นให้สึกยังไม่ถึงขนาดนั้น ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยอย่างนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา เตือนว่าให้ดูตัวอย่างพระนักเทศน์ดังในอดีต ยุ่งเกี่ยวการเมืองมักไปไม่รอด ถูกจับสึกก็มี ส่วนอดีตพระพุทธอิสระระบุว่า เป็นโทษที่เกิดจากไม่ศึกษาพระธรรมให้ถ่องแท้ เอาแต่เสพติดอารมณ์ ยัดเยียดอารมณ์ผู้อื่น พอมีปัญหาก็ใช้อารมณ์เข้าแก้
อันดับ 5 : ขายอวัยวะยกครัว หนุ่ม อบต.สุดยื้อบ้านกำลังจะถูกขาย เหตุค้ำประกันซื้อรถแทรกเตอร์ ผู้ว่าฯ อุบลช่วยเคลียร์
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เฟซบุ๊กเพจ "สำนักข่าวธรรมาภิบาลโพสต์" โพสต์เล่าเรื่องราวสะเทือนใจของครอบครัวหนึ่ง ที่ประกาศขายดวงตาและไตทั้งครอบครัว ประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูกชาย 2 คน เพื่อนำเงินมาไถ่ถอนที่ดินจากบังคับคดี เนื่องจากไปค้ำประกันรถไถให้เพื่อน โดยพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ พนักงานจ้าง ตำแหน่งผู้ช่วยนักทรัพยากรบุคคล อบต.เจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี วัย 48 ปี ไว้ใจเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจไปค้ำประกันรถแทรกเตอร์ให้ภรรยา สุดท้ายถูกฟ้องยึดบ้านที่ดินขายทอดตลาด ประกอบด้วยบ้าน โรงเลี้ยงสัตว์ และที่ดิน รวม 9 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา
เรื่องนี้ทำให้ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ลงมาดูกรณีดังกล่าวด้วยตัวเอง พร้อมเรียกนางจุไรรัตน์ ทิพระษาหาร ผู้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์ พร้อมสามีคือ ด.ต.มานิตย์ ทิพระษาหาร มาที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวนา อ.เขมราฐ เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น รับว่าพร้อมจะคืนรถแทรกเตอร์คันดังกล่าวให้กับบริษัทที่เช่าซื้อ พร้อมกันนี้ทางสำนักงานบังคับคดี ประสานให้บริษัทพิจารณายกเลิกประกาศการขายทอดตลาดบ้านและที่ดิน โดยผู้ว่าฯ สั่งการให้ดูแลเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย สรุปก็คือครอบครัวที่จะขายไตและตายกครอบครัว ไม่ต้องทำอย่างนั้นแล้ว ทางจังหวัดจะหาทางแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้น
อันดับ 6 : ครูสาวอัดคลิปเปิดกรุมือถือ เคยยึดจากนักเรียน 9 ปีก่อน เจอทัวร์ลงหาว่าโจร อัยการเตือนเจอฟ้องยักยอกทรัพย์
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. โลกโซเชียลได้แชร์คลิปของผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งซึ่งเป็นครู ได้ถ่ายคลิปเปิดกรุรื้อสมบัติฝ่ายกิจการโรงเรียน พบว่ามีโทรศัพท์มือถือของนักเรียน ซึ่งถูกยึดมาตั้งแต่ปี 2555 หรือประมาณ 9 ปีที่แล้วหลายเครื่อง ถูกโลกโซเชียลวิจารณ์อย่างหนักว่ายึดแล้วทำไมถึงไม่คืน สมัยก่อนโทรศัพท์มือถือราคาแพงมาก ต่อมาครูคนดังกล่าวชี้แจงว่า โทรศัพท์ดังกล่าวได้ติดต่อคืนแล้ว แต่นักเรียนไม่มาเอาเอง ที่ยึดเพราะเมื่อ 9-10 ปีที่แล้ว เอาโทรศัพท์มาทำไมมันไม่สามารถค้นข้อมูลได้ ก่อนเปิดเทอมก็มีปฐมนิเทศบอกกฎไปแล้ว และตัดพ้อว่าสะเทือนใจที่บอกว่าครูเป็นโจร ยืนยันว่าเป็นของที่นักเรียนไม่มาเอาเอง
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง โพสต์เฟซบุ๊กให้ความเห็นในข้อกฎหมายว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โรงเรียนยึดโทรศัพท์มือถือจากนักเรียนเพราะมีระเบียบห้ามนำมือถือเข้าโรงเรียน แต่ปัญหาคือระเบียบของโรงเรียนไม่ได้ใหญ่กว่ากฎหมายอาญา ไม่ได้ให้อำนาจครูยึดทรัพย์แล้วไม่คืนให้เด็กที่ยังทำมาหากินไม่ได้ เตือนว่าระวังผู้ปกครองจะแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ กลายเป็นคดีอาญาได้ แนะนำว่าถ้าผู้ปกครองมาทวงคืนก็ควรคืนให้ผู้ปกครองไป บางโรงเรียนก็มีทางออกด้วยการให้นักเรียนทุกคนเอาโทรศัพท์มือถือมาใส่ไว้ในตะกร้าหน้าห้องเรียน เลิกเรียนแล้วจึงค่อยคืน
อันดับ 7 : ปิดตำนานไอ้หนุ่มแขนซ้ายลายมังกร พรศักดิ์ ส่องแสง เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน รวมอายุได้ 61 ปี
วงการบันเทิงยังคงสูญเสียศิลปินระดับตำนานอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายบุญเสาร์ ประจันตะเสน หรือ พรศักดิ์ ส่องแสง เสียชีวิตเมื่อเวลา 20.40 น. เนื่องจากหัวใจวายเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู รวมอายุได้ 61 ปี โดยมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงค่ำ พรศักดิ์มีอาการวูบในห้องน้ำ ที่บ้านพักใน ต.บ้านขาม อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลำภู ญาติพี่น้องได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภูพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตจนสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ โดยลูกสาว ลูกชาย และญาติพี่น้อง ได้นำร่างตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตอาจจะเกิดจากโรคประจำตัว
พรศักดิ์ ส่องแสง เกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2503 ที่บ้านโนนสมบูรณ์ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จากนั้นเข้ารับราชการทหาร ตั้งวงดนตรีชื่อ แชมป์อีสาน โดยมีเทปชุดแรกในปี 2524 โดยชื่อในวงการตั้งโดยครูเพลง รักษ์ วัฒนยา หรือ ครูหอม พ่อฮ้างน้อย ออกเพลงต่อเนื่องประมาณ 40 ชุด เพลงที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ เต้ยสาวจันทร์กั้งโกบ กลายเป็นเพลงที่เคยมีการจัดคอนเสิร์ตประชันกับ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2530 นอกจากนี้ยังมีเพลง มีเมียเด็ก ในปี 2548 ทำให้วัยรุ่นยุคนั้นรู้จักพรศักดิ์ ส่องแสงมากขึ้น ปัจจุบันสมรสกับ นางจุฬาวัลย์ ประจันตะเสน มีบุตรด้วยกัน 3 คน ใช้ชีวิตติดดินทำนาที่บ้านเกิด