“ธีรัจชัย” เชื่อปัจจัยภายในจากความขัดแย้งพรรคร่วม มีโอกาสล้มรัฐบาลได้มากกว่าจากปัจจัยภายนอก ชี้ รธน. ห้ามเป็นนายกฯ เกิน 8 ปี ต้องนับตั้งแต่รัฐบาลจากรัฐประหารปี 57
วันที่ 12 ต.ค. 2564 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “เหตุ-เส้นตาย พลเอก ประยุทธ์ ลงจากอำนาจ!!”
โดย นายธีรัจชัย กล่าวในช่วงหนึ่งว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ลาออกแน่ ส่วนยุบสภา ฟังนายกฯ แถลงหลายๆ ครั้ง ก็คือ ต้องการอยู่ให้ครบวาระ แต่ถ้าเกิดเหตุจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน เช่น เปิดสภา 1 พ.ย. 64 มีกฎหมายสำคัญถูกล้ม หรือสภาล่มบ่อยๆ อาจเป็นเหตุก็ได้ ซึ่งมาจากการแผลงฤทธิ์จากพรรคร่วมที่ต้องการโค่นล้ม
หากรัฐบาลล้ม น่าจะมาจากปัจจัยภายในเป็นหลัก ก็คือ ความขัดแย้งของพรรคร่วม ส่วนปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือม็อบ คงล้มรัฐบาลได้ไม่ง่าย แต่ปัจจัยภายในเองตอนนี้ก็จะยังมีความประนีประนอมสูง ไม่เช่นนั้น ก็คงต้องล้มทั้งคู่ ต้องรอดูหลัง มี.ค. 65 อาจมีความกล้ากันมากขึ้น
นายธีรัจชัย กล่าวอีกว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 158 ระบุให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี และบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ระบุว่า รัฐบาลซึ่งมีก่อนหน้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้บังคับ ให้ถือเป็นรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อย่างนี้จะปฏิเสธว่ารัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ตั้งแต่ ส.ค. 57 จะบอกว่าไม่นับ เป็นการตีความแบบศรีธนญชัยหรือเปล่า
กฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลังในการทำโทษ แต่ตอนนี้เป็นกฎหมายมหาชน ที่ต้องถือประโยชน์ของสาธารณะเป็นหลัก
ตอนนี้มีการตีความ 3 อย่าง อย่างแรกให้เริ่มนับปี 62 ที่เลือกตั้ง แบบนี้ช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ได้นาน แบบสอง ให้นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 60 บังคับใช้ ก็คือ 6 เม.ย. 2560 และแบบสาม นับตั้งแต่ ส.ค. 57 ที่มีรัฐบาลจากการรัฐประหาร ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องจบ ส.ค. 65
นายธีรัจชัย กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้รัฐธรรมนูญยังไม่เปิดโอกาสให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะไม่ใช่องค์กรตั้งขึ้นเพื่อตีความกฎหมาย ไม่ใช่กฤษฎีกาที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล ดังนั้น ต้องมีเหตุเกิดก่อนค่อยมีคนยื่นตีความ ตอนนี้เป็นข้อถกเถียงว่าจะใช้องค์กรไหนวินิจฉัย