“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 ตอน รอได้กู้เงินก้อนใหญ่ ยุบสภา ไปเลือกตั้ง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะรู้ว่าเป็นเรื่องเปิดประเทศ มีคนจำนวนมากคิดว่า พลเอก ประยุทธ์จะมาบอกเรื่องยุบสภา ก็ผิดคาดไปทั้งที่บรรยากาศมันชวนให้คิดไปได้เช่นนั้น
สำหรับ ไทม์ไลน์ที่คาดกันจะมีการยุบสภา และการเลือกตั้ง น่าจะมาในช่วงไม่เกินกลางปีหน้า 2565 มีความเป็นไปได้ และโอกาสสูงมาก
เพราะหากจับท่าทีของบรรดานกรู้ เชื่อกันทั้งนั้นว่า มีการเลือกตั้งในช่วงกลางปีหน้าแน่ เนื่องจากอาการรัฐบาลก็ร่อแร่ ตุปัดตุเป๋มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ไม่ว่าจากสนิมเกิดแต่เนื้อในตน ข้นคลั่กกันอยู่ในวงจร 3 ป. และพรรคพลังประชารัฐ
รวมไปถึงผลงานโชว์ไม่เข้าตาประชาชน อย่างการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ล่าช้า แก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ติดลบ ยังมีความแตกแยกชิงอำนาจกันในรัฐบาลอีก ถ้าเป็นรัฐบาลอื่นม้วนเสื่อไปนานแล้ว
จึงเห็นได้ว่า บรรดาพรรคร่วมรัฐบาล แข่งกัน ปล่อยชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเป็นการเตรียมตัวเข้าสมรภูมิเลือกตั้งกันตั้งแต่ไก่โห่
ทั้งพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศหนุน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค เข้าประกวดอีกครั้ง หรือพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศกวาดเก้าอี้ ส.ส.ล้างอายคราวก่อน และชู จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
หรือแม้แต่กระทั่ง พรรคพลังประชารัฐที่มีปมปัญหาภายในยังเคลียร์ไม่จบ ก็ออกมาสยบข่าว 3 ป. แยกวง 2 ป.ออกไปตั้งพรรคใหม่ มี ปลัดฉิ่ง ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นเพลยเมกเกอร์ปั้นค่ายใหม่
ด้วยการเข็น บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯอีกสมัย และสร้างภาพเปิดฉากหวานใส่กันระหว่าง บิ๊กตู่ และ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สะท้อนว่าปัญหาปมคาใจจบแล้ว พลังประชารัฐจึงขึ้นป้ายบิ๊กตู่เป็นตัวนำแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน บรรดาพรรคการเมืองก็ขยันออกไปพบปะประชาชน แข่งกันลงพื้นที่ อย่างค่าย 3 ป. บิ๊กตู่ คล้องแขน บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ออกต่างจังหวัดเกินสัปดาห์ละครั้ง ขึ้นเหนือล่องใต้ เข้าหาประชาชนแบบประชิดตัว ส่วน บิ๊กป้อม ก็ลงพื้นที่ทุกสัปดาห์เหมือนกัน
ทางด้าน พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่า จุรินทร์ หรือ อนุทิน ช่วงนี้ก็ไม่ยอมน้อยหน้า แยกสายกันไปขอคะแนน ไม่ปล่อยให้พรรคพลังประชารัฐ วิ่งแซงไปไกล
ฝ่ายค้านเองก็จับทางได้ เดินสายช่วยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมใส่ไฟยกผลงานการบริหารที่ผิดพบาดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไปฟ้องชาวบ้าน แล้วสรรหาคุณงามความดีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเบิ้ล บลัฟอยู่เป็นระยะๆ เหมือนกัน
ต้องบอกว่า ช่วงปิดสมัยประชุมนี้นักการเมืองแข่งกันลงพื้นที่ เอาหน้ากับประชาชนมากเป็นพิเศษ ใครเห็นก็ต้องสัมผัสได้ว่า นี่มันบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว
สถานการณ์แบบนี้ ไม่น่าไว้วางใจจริงๆ เผลอๆ อยู่ดีๆ บิ๊กตู่ ประกาศยุบสภาวันนี้ พรุ่งนี้ อาจจะเล่นทีเผลอ ทำพรรคอื่นตั้งตัวไม่ทัน
แต่อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการลักหลับ ย่องเบายุบสภา คงยังไม่มาแบบสายฟ้าแลบ
เหตุที่บอกว่าการยุบสภายังมาไม่ถึงในช่วงเร็ววันนี้ เพราะว่า ยังเหลือตัวแปรสำคัญ ที่จะเป็นตัวปั่นคะแนนให้พรรคพลังประชารัฐ คือ พ.ร.ก.กู้เงิน อีกฉบับที่รัฐบาลตั้งท่า จะสร้างหนี้ก้อนใหญ่อีกสักก้อน หลังปลดล็อก ขยับเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% เป็น 70% รอไว้แล้ว
พ.ร.ก.กู้เงินฉบับนี้ แม้จะมีความพยายามบอกปัดว่า เอามาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก็อาจจะจริง หรืออาจจะเป็นเพียงข้ออ้าง
แต่การออกพ.ร.ก.กู้เงิน เจตนาแฝงก็หนีไม่พ้น เพื่อต้องการเงินเอามาเป็นไม้เด็ด ลด แลก แจก แถม เพื่อหวังซื้อใจประชาชนให้กากากบาทในคูหาให้
หากจำกันได้ ก่อนรัฐบาล คสช. จะลงจากอำนาจ ประกาศให้มีการเลือกตั้ง ก็จัดหนัก จัดเต็ม ปล่อยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาแจกจ่ายประชาชนจนติดกันงอมในช่วงนั้น ขณะที่พรรคพลังประชารัฐก็เอานโยบายนี้ไปเร่ขายชาวบ้าน เคลมว่าเป็นของพรรคในการเลือกตั้งปี2562
ไม้ตายนี้มาแน่ แค่อยู่ที่ตอนไหน ซึ่งจับตาได้เลย เมื่อไหร่รัฐบาลคลอด พ.ร.ก.กู้เงินอีกฉบับ ให้เริ่มนับถอยหลังได้ทันที เพราะเหล็กต้องตีตอนร้อน แจกเมื่อไหร่ รัฐบาลไม่ปล่อยให้กระแสเงียบ ต้องเร่งจัดเลือกตั้ง เพื่อจะเอาเรื่องนี้ไปหากิน แลกคะแนนประชาชน