“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2564 ตอน “บิ๊กตู่” ลุยใต้ “ประชาธิปัตย์” คาใจ
เคลียร์ศึกในพรรคพลังประชารัฐยังไม่จบ กลับสร้างศึกใหม่ในรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งให้ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คุมหน่วยงานและกรมที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยดูแลขณะเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์
จากเดิมที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ทำหน้าที่ปฏิบัติราชการแทน ในฐานะรองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ทำให้ฟากพรรคประชาธิปัตย์เกิดปมปัญหาในใจ
ถึงขั้น “จุรินทร์” ต้องออกมาตำหนิว่า การแก้ไขปัญหาภายใน พปชร. ไม่ควรกระทบพรรคอื่น เพราะจะเป็นการแก้ปัญหาหนึ่ง แต่ไปสร้างอีกปัญหาหนึ่งโดยไม่จำเป็น
แต่เกมนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า “บิ๊กตู่” กำลังจะ “ยึดอำนาจ” จาก ปชป. มาไว้ในมือหรือไม่ โดยให้ “บิ๊กป้อม” ดูแลหน่วยงานเหล่านั้นแทน ซึ่งประกอบด้วย กรมพัฒนาที่ดิน , กรมฝนหลวงและการบินเกษตร , สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.)
แน่นอนว่าการที่ พล.อ.ประวิตร เข้ามากำกับเอง ก็ไม่ต่างจากกลับไปที่มือ ร.อ.ธรรมนัส อีกครั้ง แต่ก็มีข่าวว่างานนี้ “บิ๊กตู่” สั่งไม่ให้ใครเข้าไปข้องเกี่ยว
การให้บิ๊กป้อมกำกับดูแลสี่กรมเกษตร ถือว่าเป็นการให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่บิ๊กบราเธอร์ส เสียลูกน้องไม่ได้นั่งรัฐมนตรี แต่งานยังอยู่เหมือนเดิม เป็นการถางทาง “ฟื้นสัมพันธ์” ระหว่างพี่น้อง“2ป.ประยุทธ์-ประวิตร” ด้วย
แต่อีกด้าน ก็มองว่าเป็นแผนที่ “บิ๊กตู่” กำลังคิดปูทางไปสู่การเลือกตั้ง เพราะมีการโฟกัสไปที่ “สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก. ” ในเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน ซึ่งเป็น “ฐานเสียงรากหญ้า” ของ3 ป.
เฉกเช่นก่อนการเลือกตั้งปี2562 “บิ๊กป้อม” ก็เดินเกมช่วยชาวบ้านเช่นกัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่อง “หนี้นอกระบบ” และแจก “โฉนดที่ดิน” จึงต้องจับตาว่าจะมีโครงการลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกหรือไม่
แต่ในท้ายที่สุด หลังจากที่เป็นความขัดแย้งไม่กี่วัน ในการประชุมครม. เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็สั่งให้ถอนคำสั่งกลับมาให้ประชาธิปัตย์คุมสี่กรมเกษตรเหมือนเดิม หลังที่พลพรรคประชาธิปัตย์ออกมากเดันอย่างหนัก โดยยื่นคำขาดถ้าไม่คืนอำนาจก็จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ บิ๊กตู่ ลั่นว่า จะไม่มีการปรับครม. กับสองเก้าอี้ที่ว่างอยู่ จากสภาพรัฐบาลตอนนี้ พูดอะไรออกมา ก็อาจจะคิดได้พูดได้ แต่หลังจากนั้นเจอบีบคั้นกดดันหนักเข้าก็ต้องถอย ถ้าไม่ปรับครม. มีหรือกลุ่มก๊วนในพลังประชารัฐจะยอม แรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐคงตะกลายเป็นคลื่นใหญ่ จนพลเอกประยุทธ์ต้องยอมถอย
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ “บิ๊กตู่” มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช 7ต.ค.นี้ หลังเลื่อนมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปลงพื้นที่ จ.นนทบุรี แทน จึงต้องจับตากลุ่ม ส.ส.ด้ามขวาน พปชร. จะเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง
หลังจากที่ “ผู้การชาติ”พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อน ตท.12 กับ “บิ๊กตู่” ในฐานะอดีต ปธ.ยุทธศาสตร์ภาคใต้ พปชร. ออกมาประกาศจะขน ส.ส.สายใต้ ไปร่วม “พรรคปลัดฉิ่ง” หรือพรรคของ “ฉัตรชัย พรหมเลิศ”อดีตปลัด มท. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
พร้อมสนับสนุนชื่อ “บิ๊กตู่” เป็น นายกฯ ต่อไป ทำให้คนใน พปชร. ไม่พอใจ “ผู้การชาติ” และขออย่าไปให้ความสำคัญกับ “บุคคลนอกพรรค” แม้แต่ “บิ๊กป้อม” ก็มีรายงานข่าวว่า “ไม่พอใจ” เช่นกัน
การลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ของ “บิ๊กตู่” เป็นการลงพื้นที่ “ฐานเสียง ปชป.” ด้วย เพราะทั้ง ปชป. และ พปชร. ต่างมี “ฐานเสียงเดียวกัน” ในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ ปชป. เสียเก้าอี้ไปจำนวนมาก ในการเลือกตั้งปี62
จึงเท่ากับเป็น การเผชิญหน้าทางการเมือง มากยิ่งขึ้น แม้ว่า “คดีเก่า” เพิ่งจะเคลียร์ เสร็จ ก็จะสร้าง “คดีใหม่” กับประชาธิปัตย์ อีกแล้ว
