วันที่ 28 ก.ย. 64 นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO บลจ.จิตตะ เวลธ์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “หนีหุ้นไทย มาลงทุน Thematic ด้วย AI”
โดย นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยจีดีพีโตช้าลง เศรษฐกิจอิ่มตัวมากขึ้น ฉะนั้น การลงทุนทำผลตอบแทนสูงในไทยอาจยากขึ้น นักลงทุนบางส่วนเริ่มออกไปต่างประเทศสักระยะแล้ว แต่หลายคนจะลงหุ้นต่างประเทศด้วยตัวเอง ก็ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล จึงลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือ ETF ซึ่งก็ช่วยกระจายความเสี่ยงได้
การลงทุนต้องมีความรู้เพิ่มเติมขึ้นว่าธีมไหน เมกะเทรนด์ไหน อยู่ในขั้นไหน ถ้าลงในช่วงเริ่มต้นเติบโต โอกาสก็จะโตได้อีกเยอะ
การลงทุน Thematic อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด คนกำลังจ่ายเงินในกลุ่มพวกนี้ ฉะนั้น กลุ่มพวกนี้รายได้เติบโตมาก เช่น คลาวด์คอมพิวติงปกติกลุ่มเทคโนโลยีจะเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงแล้ว เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นในอเมริกา อาจโตประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่ถ้าเป็นคลาวด์คอมพิวติงที่แยกย่อยมาเข้ามาอีก ก็เติบโตประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หรือเฮลท์แคร์ลอาจโต 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่ถ้าดูกลุ่มจีโนมิกส์ ซึ่งเป็นกลุ่มแยกย่อยในสุขภาพอีกที เขาเติบโต 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เพราะเป็น Disruptive Innovation คนกำลังจ่ายเงินซื้อสินค้าบริการของเขาอยู่
นายตราวุทธิ์ กล่าวอีกว่า ลงทุน Thematic ไม่ใช่แค่การซื้ออนาคต หลายๆ ครั้งการซื้ออนาคตอาจผิดพลาดถ้าอนาคตไม่เกิดขึ้นจริง แต่ธีมที่ลงทุนเกิดขึ้นจริงแล้ว และกำลังเติบโต รายได้ 30-40 เปอร์เซ็นต์ มันกำลังแย่งมาร์เก็ตแชร์จากธุรกิจเก่าๆ อยู่
ถ้ามองว่า กลุ่มธุรกิจเก่าใหญ่ขนาดไหน กลุ่มธุรกิจใหม่ยังเล็กมาก อย่าง อี-คอมเมิร์ซ Amazon ยอดขายแสนล้าน แต่ถ้าไปเทียบจริงๆ ยอดขาย อี-คอมเมิร์ซ ในอเมริกาแค่ 16 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายค้าปลีกทั้งหมดของอเมริกาเอง ยังโตได้อีกเยอะมาก
นายตราวุทธิ์ ยังกล่าวถึงการบริการของ Jitta Wealth ที่จะช่วยนักลงทุน ลงทุนตามธีมธุรกิจเติบโตตามเมกะเทรนด์โลก โดยบริหารจัดการพอร์ตด้วยเทคโนโลยี AI ช่วยคัดเลือกธีมที่น่าลงทุนและเหมาะสมที่สุด
