“ทนง” ชี้ สงครามเย็นตอนนี้อุณหภูมิยะเยือก สหรัฐฯ หักหลังพันธมิตร หนุนเรือดำน้ำให้ออสเตรเลียใช้สกัดจีน สร้างความไม่พอใจให้หลายประเทศ ชี้จับตาความขัดแย้งจะทำให้นาโตแตกหักหรือไม่
วันที่ 22 ก.ย. 2564 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ และ ผอ.สื่อสาร บลจ.บัวหลวง ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “สงครามเย็นจุดติด ผ่าดีลเรือดำน้ำออสซี่ หวังสกัดจีน”
โดย นายทนง กล่าวว่า อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ร่วมกันทำสัญญา AUKUS แถลงข่าวว่า จะร่วมมือกันพัฒนาเรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลีย ถือว่าเป็นข้อตกลงที่จะติดอาวุธให้กับออสเตรเลียในการสกัดอิทธิพลของจีน หรือการเผชิญหน้ากับจีน ทำให้ฝรั่งเศสยัวะสุดขีด เพราะออสเตรเลียมีข้อตกลงพัฒนาเรือดำน้ำกับฝรั่งเศสอยู่แล้ว แต่อเมริกา กับอังกฤษ ไปชักชวนให้ล้มดีล แล้วมาเซ็นกับอังกฤษ-อเมริกา แทน
พอให้ออสเตรเลียไปแล้ว ก็เกิดคำถามว่าพันธมิตรอื่นของอเมริกาจะว่าอย่างไร อย่าง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ก็ตั้งคำถามได้ ว่าให้เทคโนโลยีออสเตรเลียไป แล้วประเทศพันธมิตรอื่นจะได้ด้วยไหม
กรณีเรือดำน้ำ อีกประเทศที่ไม่พอใจมากนอกจากจีน ก็คือ อินโดนีเซีย เพราะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ก็เหมือนเพื่อนบ้านมีปืนไรเฟิล เรามีแค่หนังสติ๊ก มีคนเอาอาวุธมาให้เพื่อนบ้าน นิวซีแลนด์ก็มีท่าทีไม่พอใจเช่นกัน
นายทนง กล่าวอีกว่า ฝรั่งเศสถอนทูตจากออสเตรเลีย กับสหรัฐฯ ทันที แต่ไม่ถอนอังกฤษ เพราะรู้อยู่ว่าอังกฤษชอบฉกฉวยแสวงหาประโยชน์ให้ตัวเองเสมอ เอาไว้คิดบัญชีที่เหลัง
การที่สหรัฐฯ หักหลังพันธมิตร เหตุการณ์นี้จะทำให้นาโตแตกหรือไม่ เยอรมนีก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ต้องการสกัดอิทธิพลสหรัฐฯ ตอนนี้อเมริกามีฐานทัพในเยอรมนี และคงมีอาวุธนิวเคลียร์ด้วย เยอรมนีก็ต้องการปลดแอกตรงนี้ด้วย
นายทนง กล่าวด้วยว่า อุณหภูมิของสงครามเย็นตอนนี้ เย็นยะเยือกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไต้หวัน อเมริกาใช้ไต้หวันกับสกัดจีน สัปดาห์ที่แล้วไบเดนมีการหยิบยกขึ้นมา จะว่าอย่างไรถ้าอเมริกาให้ไต้หวันเปลี่ยนชื่อสำนักงานตัวแทน ไต้หวันไม่ใช่ประเทศ ถือเป็นเขตปกครองพิเศษ ฉะนั้นเอง สำนักงานที่อยู่นั้นไม่ใช่สถานทูตเต็มตัว จะเปลี่ยนชื่อจาก Taipei Economic and Cultural Office ไปเป็น Taiwan Representative Office ไม่ใช่ไทเปแต่คือไต้หวัน แสดงนัยว่าต้องการปลดแอกจากจีน
ตอนนี้นโยบายของอเมริกายังยอมรับจีนเดียว แต่อีกด้านก็พยายามใช้ไต้หวันให้กระด้างกระเดื่อง จีนก็ขู่ว่าถ้าไต้หวันทำอะไรเกินเลย อาจส่งกองทัพบุกยึดไต้หวันคืนมา ทำให้อเมริกาคิดหนักเหมือนกันว่าจะสนับสนุนไต้หวันอย่างไรต่อไป
