“รสนา” ใช้สิทธิ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ จี้ กรมบัญชีกลาง ชี้แจงภายใน 7 วัน กรณีเห็นชอบองค์การเภสัชกรรม จัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชิ้น ข้องใจที่ระบุว่า “เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย” หมายถึงประเด็นใด รวมถึงการที่ทำสัญญากับ “บริษัท เวิลด์ เมดิคอล” ที่ไม่ได้เข้าเสนอราคาด้วยหรือไม่
วันที่ 13 ก.ย. 2564 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. โพสต์เฟซบุ๊กว่า ...
รสนาใช้สิทธิ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ขอทราบการวินิจฉัยกรมบัญชีกลางเห็นชอบให้ อภ.ทำสัญญากับบริษัทที่ไม่ได้เข้าเสนอราคา ได้หรือไม่
ดิฉันส่งหนังสือ ขอให้อธิบดีกรมบัญชีกลางตอบสาธารณชนให้ชัดเจนว่า ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) อ้างว่า ได้สอบถามกรมบัญชีกลาง เรื่องจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชิ้นแล้ว ได้รับคำตอบว่า “เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย” นั้นคือประเด็นใด รวมถึงการที่ อภ.ทำสัญญากับบริษัท เวิลด์ เมดิคอลฯ ที่ไม่ได้รับเชิญเข้าเสนอราคา ตามข้อบังคับของ อภ.ข้อ11(1) ด้วยหรือไม่ หากอธิบดีไม่ออกมาแถลงประเด็นนี้ภายใน 7 วัน หลังจากได้รับหนังสือจากดิฉันแล้ว ก็ถือว่าท่านยอมรับว่ากรมบัญชีกลางเห็นชอบว่า อภ.สามารถทำสัญญาจัดซื้อกับบริษัท เวิลด์ เมดิคอลฯ ที่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามข้อ 11(1) ซึ่งดิฉันจะได้ดำเนินเพื่อความถูกต้องต่อไป
เนื้อหาในหนังสือมีดังนี้
“ตามที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ว่า “องค์การเภสัชกรรม ได้ดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS CoV-2 (เชื้อก่อโรค Covid-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (Covid-19 Antigen test Self-Test Kits หรือ ATK) จำนวน 8.5 ล้านชิ้น ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยโรงพยาบาลราชวิถีเป็นผู้จัดหาเพื่อให้แก่หน่วยบริการในเครือข่ายและประชาชน ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมว่าด้วยการพัสดุเพื่อการผลิตและจำหน่าย พ.ศ. 2561 ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 มาบังคับใช้”
และในคำแถลงระบุว่า “4. คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ได้ตอบหนังสือหารือจากองค์การฯ ลงวันที่ 8 กันยายน 2564 ความว่า องค์การเภสัชกรรม สามารถดำเนินการจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด ตามข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐได้ จึงเรียนให้ทราบว่า องค์การเภสัชกรรม ได้ดำเนินการจัดซื้อ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยโรงพยาบาลราชวิถีเป็นผู้จัดหาเพื่อให้แก่หน่วยบริการในเครือข่ายและประชาชน เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย” นั้น
ข้าพเจ้าขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ ข้อมูลข่าวสารทางราชการ ขอทราบว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลางนั้นได้วินิจฉัยการจัดซื้อ ATK 8.5ล้านชิ้น นั้นในประเด็นใด
ตามที่ อภ.ได้จัดซื้อด้วยวิธีคัดเลือกตาม “ข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมว่าด้วยการพัสดุเพื่อการผลิตและจำหน่าย พ.ศ.2561” ได้ระบุให้ปฏิบัติตามข้อ 11 การซื้อโดยวิธีคัดเลือก ได้แก่การซื้อครั้งหนึ่งฯ
ให้กระทําได้เฉพาะกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
(1) เป็นพัสดุเพื่อการผลิตและจําหน่ายที่ต้องซื้อจากผู้ผ่านการคัดเลือกและขึ้นบัญชีไว้ และในกระบวนการคัดเลือกเพื่อจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชิ้นนั้น อภ.ได้เชิญผู้ขายที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ 24 ราย บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด เป็น 1 ใน 24 รายที่ได้เข้าร่วมคัดเลือกเสนอราคา และเป็น 1 ใน 16 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติของคณะกรรมการคัดเลือก และเป็นบริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุดจึงเป็นผู้ชนะในการเสนอราคา หลังจากนั้น อภ.ได้ทำสัญญากับบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดแทน บริษัท ออสท์แลนด์ฯ โดยที่บริษัท เวิลด์ เมดิคอลฯ มิได้เป็นบริษัทที่ได้รับเชิญเข้าเสนอราคา มิได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และมิได้เป็นบริษัทที่ชนะการเสนอราคา องค์การเภสัชฯ อ้างว่า กรมบัญชีกลางได้ตอบข้อหารือว่าองค์การเภสัชกรรม สามารถดำเนินการจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด ตามข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐได้ จึงเรียนให้ทราบว่า องค์การเภสัชกรรม ได้ดำเนินการเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย” นั้น หมายรวมถึงการที่องค์การฯเภสัชกรรมสามารถทำสัญญากับบริษัท เวิลด์ เมดิคอลฯ ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับฯ ข้อ 11(1) ด้วยหรือไม่
ข้าพเจ้าขอให้อธิบดีกรมบัญชีกลางในฐานะองค์กรตรวจสอบภายในเพื่อป้องกันการทุจริตภายในหน่วยงานของรัฐโปรดออกมาแถลงให้สาธารณชนรับทราบอย่างชัดแจ้งว่า องค์การเภสัชกรรมสามารถทำสัญญากับบริษัท เวิลด์ เมดิคอลฯ ที่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามข้อ 11(1) ได้หรือไม่
หากท่านอธิบดีกรมบัญชีกลาง ไม่ออกมาแถลงภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ข้าพเจ้าได้รับเอกสารตอบรับการรับทราบหนังสือฉบับนี้ของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าถือว่าท่านยอมรับว่าท่านได้ยอมรับให้องค์การเภสัชกรรมสามารถทำสัญญากับบริษัทที่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามข้อ 11(1)”